รวม 10 สูตร กับแกล้ม ทำง่าย ๆ สำหรับสายปาร์ตี้
กับแกล้ม ของที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้เขียนบทความนี้ หากดื่มเบียร์หรือเหล้าดีๆ มันต้องมีกับแกล้ม ข้าวสวยร้อนๆ อยากชวนทุกคนมาดูกันว่าจะมีเมนูอะไรบ้างที่อยู่ในลิสต์ผู้เขียน จะเหมือนที่ทุกคนคิดไว้หรือเปล่า แต่รับรองว่าเด็ดแบบใครโดนเป็นต้องติดใจ
เอ็นข้อไก่ทอด
เมนู กับแกล้ม ยอดฮิต ขาดไม่ได้ในวงเหล้า คือเอ็นข้อไก่ทอด เคี้ยวกรุบข้อไก่เด้งสู้ลิ้น พูดแล้วขึ้น เราไปดูวิธีทำกันเลยดีกว่า
ส่วนผสม
- เอ็นข้อไก่ 700 กรัม
- แป้งทอดกรอบ 4-5 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 7 กรัม
- ใบมะกรูด 10 กรัม
- น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย 1/2 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 80-100 กรัม
วิธีทำ
- นำกระเทียมไปโขลกพอหยาบ ใส่ลงไปในเอ็นข้อไก่ ตามด้วยน้ำปลา พริกไทยป่นตามชอบ และแป้งทอดกรอบ และน้ำเปล่าเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากันได้ที่แล้ว เติมงาคั่วลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน บิดใบมะกรูดพักไว้
- ตั้งน้ำมันในกระทะให้ร้อนจัด เทน้ำมันให้ท่วม ใช้ไฟกลาง จากนั้นนำลงไปทอด กระจายให้ทั่วกระทะ
- รอสักพัก ใช้ตะหลิวเขี่ยเอ็นข้อไก่กระจายออกจากกัน ทอดไปเรื่อยๆ จนออกสีเหลืองได้ที่ ให้ใส่ใบมะกรูดลงไป เพิ่มความหอม ทอดต่ออีกเล็กน้อย
- ตักใส่จาน
กุ้งแช่น้ำปลา
กับแกล้ม อีกอย่างที่ชอบกินมากถึงแม้ว่ามันจะดิบก็ตามที วันนี้เราเลยจะมาทำแบบทั้งกุ้งสดกับกุ้งลวกด้วยเลยตั้งชื่อว่ากุ้งแช่น้ำปลาสองสหาย
วัตถุดิบ
- กุ้งขาว สด ½ กิโล
- โซดา แช่เย็น
- น้ำแข็ง
- น้ำปลา
- น้ำมะนาว
- กระหล่ำปี
- มะระ
- กระเทียม
- สะระแหน่
- เกลือ
- น้ำตาลปี๊บ
- พริกขี้หนูสวน ตามชอบ
วิธีทำ
- นำกุ้งที่ซื้อมาแล้วล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า 2 ครั้ง หลังจากนั้นล้างด้วยเกลือป่น อีก 1-2 น้ำเพื่อลดกลิ่นคาวของกุ้ง เพื่อให้รับประทานอร่อยขึ้น
- แกะกุ้ง โดยเอาส่วนหัวออกแล้วเอาเปลือกกุ้งออก เหลือส่วนหาเอาไว้ หลังจากนั้นใช้มีดผ่าด้านหลังกุ้ง แล้วนำเส้นดำที่หลังกุ้งออกให้หมด เสร็จแล้ว ผ่ากุ้งให้ลึกเกือบขาดออกจากกันเพื่อให้เนื้อกุ้งบางเวลานำไปแช่น้ำปลาจะได้ซึมเข้าเนื้อได้ดียิ่งขึ้น
- นำกุ้งที่เตรียมเสร็จแล้ว แช่ด้วยน้ำโซดาเย็นจัด ตามด้วยน้ำแข็งประมาณ 5 นาที
- นำกุ้งที่แช่โซดาเสร็จแล้วออก น้ำไปแช่น้ำปลา ( น้ำปลาผสมน้ำมะนาวด้วย) นำกุ้งที่แช่น้ำปลาไปแช่ตู้เย็นประมาณ 15-20 นาที
- เตรียมน้ำจิ้มสูตรแซ่บ สำหรับกินกับกุ้งแช่น้ำปลา
- พริกจินดาและพริกขี้หนูสวน เผ็ดตามชอบ กระเทียมปอก น้ำตาลปี๊บ ผักชีและรากผักชี น้ำต้มสุก ปั่นรวมกัน พอแหลก ไม่ต้องให้ละเอียดมากเกินไป
- ปรุงรสชาติ เน้นเปรี้ยว เพราะกุ้งแช่น้ำปลามีความเค็มเล็กน้อยอยู่แล้ว ปรุงรสตามชอบ เป็นอันเสร็จ
- เตรียมผักทานคู่กับกุ้ง กระหล่ำปีล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยหั่นบาง ๆ ตามด้วยมะระ เราจะนำพวกเม็ดกับไส้มะระออกโดยใช้ช้อนขูดออกให้หมด หลังจากนั้นหั่นมะระเป็นชิ้นบาง ๆ ตามภาพ เป็นอันเสร็จ
- นำกุ้งที่แช่ตู้เย็นไว้ออกมา แบ่งเป็น 2 ส่วน 1 ส่วนสำหรับทานดิบ นำกุ้งที่แบ่งไว้ไปลวกให้สุกโดยใส่ในน้ำต้มเดือดๆ ลวกให้สุกตามชอบ แต่อย่าลวกนานเพราะจะทำให้เนื้อกุ้งแข็งไม่อร่อย เสร็จแล้วนำกุ้งทั้ง 2 จัดใส่จาน ราดด้วยน้ำจิ้มที่เราเตรียมไว้ ตามด้วย สะระแหน่ กระเทียมซอยบาง เป็นอันเสร็จเรียบร้อยพร้อมรับประทาน
หมูมะนาว
กับแกล้ม ยืนพื้น ใครๆก็ต้องสั่ง แซ่บซี้ดกับหมูฟินๆเปรี้ยวลิ้นแตกกันเลยทีเดียว
ส่วนผสม
- หมูสันนอก 300 กรัม
- พริกขี้หนูสวน 15 เม็ด
- กระเทียมปอกเปลือก 10 กลีบ
- กระเทียมโทนดอง 3 หัว
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 2 ถ้วย
วิธีทำ
- ล้างเนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นบางๆ ขนาดพอคำแล้วพักไว้
- โขลกพริกชี้ฟ้า พริกขี้หนูสวน กระเทียมและกระเทียมโทนดองให้ละเอียด ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลและน้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ เตรียมไว้
- น้ำเปล่าใส่หม้อยกขึ้นตั้งไฟ พอน้ำเดือดจัดใส่หมูลงไปลวก ลวกเอาแค่หมูสะดุ้ง เพราะหมูบางอยู่แล้วแป๊บเดียวก็เป็นอันใช้ได้
- ตักเนื้อหมูขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ เสร็จแล้วจัดหมูใส่จาน ราดด้วยน้ำราดที่เตรียมไว้ ยกเสิร์ฟพร้อมกับผักสด
ต้มแซ่บ
ส่วนผสม
- กระดูกอ่อนหมู 200 กรัม
- น้ำ 500 มิลลิลิตร
- ข่าแก่ (หั่นแว่น) 5 ชิ้น
- ตะไคร้ (หั่นเฉียง) 1 ต้น
- ใบมะกรูด (ฉีกก้านกลาง) 3 ใบ
- เห็ดฟาง (ผ่าครึ่ง) 100 กรัม
- มะเขือเทศราชินี (ผ่าครึ่ง) 50 กรัม
- หอมแขก (ซอยบาง) 1 หัว
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น (ตามชอบ)
- ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบโหระพา 10 ใบ
- ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด ลงต้มจนเดือดอีกครั้ง
- ใส่กระดูกอ่อนหมูลงต้มจนสุกและเปื่อย
- ใส่เห็ดฟาง มะเขือเทศ และหอมแขกซอยลงต้มปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทราย คนผสมจนเข้ากันดี
- ยกลงจากเตา ตักใส่ชาม เติมน้ำมะนาว พริกป่น ข้าวคั่ว และผักชีฝรั่ง ชิมรสตามชอบ โรยด้วยใบโหระพา พร้อมรับประทาน
ยำถั่วลิสง
เห็นอาบังเดินมาทีไรเป็นต้องนึกถึงเมนูนี้ทุกที
ส่วนผสม
- ถั่วลิสงเม็ด (ทอดให้เหลือง) 150 กรัม
- พริกขี้หนูสด (ซอยละเอียด) 4 เม็ด
- ต้นหอม (ซอยละเอียด) 1 ต้น
- หอมแดง (หั่นสี่เหลียมลูกเต๋า) 1/2 หัว
- มะนาว (หั่นสี่เหลียมลูกเต๋า) 1 ลูก
วิธีทำ
- (วิธีเตรียมถั่วลิสงเม็ด)นำกระทะตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำมันรอให้ร้อน ใส่ถั่วลิสงเม็ด นำทอดให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นรอสะเด็ดน้ำมัน เตรียมไว้
- ใส่พริกขี้หนูสด ต้นหอมซอย หอมแดงซอย มะนาวหั่นสี่เหลียมลูกเต๋า
- นำใส่จานจัดเสิร์ฟ
ลาบทอด
เมนูนี้เวลาเคี้ยวได้ texture ในปาก เป็นกับแกล้มที่น่าสนใจเลยทีเดียว
ส่วนผสม
- เนื้อหมูติดมันบด 300 กรัม
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น (ตามชอบ)
- ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูดซอย 6 ใบ
- ต้นหอมซอย 2 ต้น
- ผักชีฝรั่งซอย 2 ต้น
- หอมแดง 5 หัว
- น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
- ผักสดตามชอบ
วิธีทำ
- ผสมหมูบดกับน้ำมะนาว น้ำปลา และพริกป่นให้เข้ากัน เติมข้าวคั่วและแป้งทอดกรอบลงไปคลุกคนให้เข้ากัน
- ใส่ใบมะกรูดซอย ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่งซอย และหอมแดงลงไปเคล้าเบา ๆ ให้เข้ากัน
- ปั้นลาบหมูเป็นก้อนกลม ๆ เตรียมไว้
- นำลาบปั้นก้อนลงไปทอดในน้ำมันร้อน ใช้ไฟกลางอ่อน รอให้สุกเองโดยไม่ต้องกลับด้าน ทอดจนเหลืองสวย ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
- จัดใส่จานเสิร์ฟพร้อมผักสดตามชอบ
เฟรนช์ฟรายส์
เป็นเมนูที่ถามใครว่ากินมั้ยจะไม่มีคนตอบ แต่พอสั่งมาเท่านั้นแหละ
มันฝรั่งหั่นเป็นแท่งแล้วเอาไปทอดสองครั้งเพื่อให้กรอบนานยิ่งขึ้น สุดท้ายโรยผงปรุงรสเนื้อผสมเกลือเพิ่มรสชาติ หรือใครจะไม่ปรุงรสด้วยเกลือเพิ่มก็ได้
ส่วนผสม
- มันฝรั่ง
- น้ำมันถั่วลิสง
- น้ำเชื่อมข้าวโพด
- น้ำเปล่า
- ไขมันวัวสำหรับใช้เป็นน้ำมันทอด (Beef Tallow)
- ผงปรุงรสเนื้อ 1/4 ช้อนชา
- เกลือ 2 ช้อนชา
วิธีทำ
- ล้างมันฝรั่งให้สะอาด ปอกเปลือกออก หั่นเป็นแผ่นตามแนวยาว หนาประมาณ 1/8 นิ้ว เสร็จแล้วก็หั่นเป็นแท่ง
- ผสมน้ำเชื่อมข้าวโพดกับน้ำเปล่า คนจนเข้ากัน ใส่เฟรนช์ฟรายส์ลงไปแช่สักครู่ เสร็จแล้วเอาขึ้นมาซับด้วยกระดาษอเนกประสงค์จนแห้ง และเอาไปแช่เย็นประมาณ 30 นาที
- ตั้งน้ำมันในหม้อที่อุณหภูมิ 375 องศาฟาเรนไฮต์ นำเฟรนช์ฟรายส์ลงไปทอดประมาณ 90 วินาที ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมันบนถาดที่รองกระดาษอเนกประสงค์ไว้
- เสร็จแล้วเอาไปแช่เย็นอีก 10-15 นาที
- ตั้งน้ำมันในหม้อรอจนเดือดที่อุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮต์ เติมไขมันวัวลงไป
- ใส่เฟรนช์ฟรายส์ลงไปทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
- ใส่ผงปรุงรสเนื้อผสมเกลือลงไปเคล้ากับเฟรนช์ฟรายส์จนทั่ว จัดเสิร์ฟ
แหนมซี่โครงหมู
ส่วนผสม
- ซี่โครงหมูอ่อน 500 กรัม
- เกลือสมุทรป่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมไทย (โขลกหยาบ) 1/4 ถ้วย
- ข้าวเหนียวนึ่งสุก 30 กรัม
- น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
- ขิงอ่อนซอยบาง พริก และผักสดตามชอบ
วิธีทำ
- ผสมซี่โครงหมูกับเกลือป่นนวดพอเข้ากัน ใส่กระเทียม และข้าวเหนียวนึ่งลงไปนวดต่อจนเข้ากันดี
- ใส่ซี่โครงหมูลงในถุงพลาสติก ไล่อากาศออกให้หมด มักปากถุงให้แน่น พักไว้ในอุณหภูมิห้อง 2 คืน หรือจนเปรี้ยว
- ใส่น้ำมันลงในกระทะใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อนใส่แหนมซี่โครงหมูลงทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานเสิร์ฟ
- เตรียมกระเทียมแกะ พริกสด และผักสดเพื่อมากินกับแหนมซี่โครงหมูทอด
ข้าวผัด
ส่วนผสม
- กระเทียมสับ
- น้ำมันพืช
- ไข่เป็ด 2 ฟอง
- ข้าวสวยหุงสุก
- ซอสปรุงรส
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำตาลทราย
- ต้นหอมซอย
- พริกไทย
- ต้นหอม
- มะนาว
วิธีทำ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป พอร้อนใส่กระเทียมลงไปผัดจนหอม
- ใส่ไข่ลงไปยีพอสุกใส่ข้าวลงไปคลุกเคล้าพอเข้ากัน ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย
- ใส่ต้นหอมผัดพอเข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่จาน โรยพริกไทย จัดเสิร์ฟกับต้นหอม มะนาว และพริกน้ำปลา
ยำถั่วพูกุ้ง
มาถึง กับแกล้ม อย่างสุดท้ายของคืนนี้ รสเผ็ดแซ่บ กุ้งเด้ง ติด 1 ใน 10 ลิสต์อาหารร้านเหล้าไปเลยย
ส่วนผสม
- กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
- กุ้งต้มสุกไว้หาง ตราซีพี Size L 1 ห่อ
- ถั่วพูซอย 2 ถ้วย
- ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- มะพร้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมเล็กเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
- หัวกะทิ 1/4 ถ้วย
วิธีทำ
- พักกุ้งให้น้ำแข็งละลายเตรียมไว้
- ต้มน้ำให้เดือด ใส่ถั่วพูลงต้มประมาณ 3 นาที ตักขึ้นแช่ในน้ำเย็นจัด
- ทำน้ำยำ ผสมน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำพริกเผาเข้าด้วยกัน คนให้น้ำตาลละลาย
- ใส่ถั่วพูและกุ้งลงในน้ำยำ ใส่หอมเจียว กระเทียมเจียว ถั่วลิสงคั่ว มะพร้าวคั่ว และกะทิ 1ช้อนโต๊ะลงคลุกให้เข้ากัน
- ตักส่วนผสมใส่จาน หยอดกะทิที่เหลือลงไป โรยหอมเจียว กระเทียมเจียว ถั่วลิสงคั่ว และมะพร้าวคั่วที่เหลือลงบนยำก่อนจัดเสิร์ฟ
ถ้าเมาหนัก เสียดาย กับแกล้ม ขอแนะนำให้ถนอมอาหารด้วยเครื่องซีลจาก SGE ที่น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ราคาจับต้องได้ สนใจดูเพิ่มเติมหากสนใจ เครื่องซีลสุญญากาศ จาก SGE สามารถเข้าไปคลิกดูรายละเอียดได้ที่ https://www.sgethai.com/vacuum-sealer/ หรือสอบถามทางโทรศัพท์ เว็บไชต์ หรือ Line ของ SGE ได้เลย
Leave A Comment