ชีสเค้กหน้าไหม้ (Basque Burnt Cheesecake) มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสเปน ลักษณะของชีสเค้กนี้จะมีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนชีสเค้กอื่นๆ สีที่ดูน่ารับประทาน เนื้อเค้กนุ่มละมุน และกลิ่นหอมไหม้ของน้ำตาลคาราเมล ทำให้ชีสเค้กตัวนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศญี่ปุ่นและในไทยเองด้วย
ปัจจัยหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญก่อนจะเริ่มทำขนมอบ ก็คือเตาอบนั่นเอง เตาอบที่ดีจะให้ความร้อนสม่ำเสมอทั่วทั้งเตา จะทำให้ขนมออกมาได้สวยงาม อร่อย และเนื้อขนมสุกทั่วถึงกัน โดยทาง SGE ก็มีเตาอบไฟฟ้าให้ได้เลือกกันทุกขนาดตามความต้องการ ในราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับผู้อบขนมทุกท่านโดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่ https://www.sgethai.com/baking-oven/
วิธีทำ ชีสเค้กหน้าไหม้ นั้นไม่ยากจนเกินไป แต่ก็มีรายละเอียดที่ควรรู้เยอะพอสมควร ทางเราได้เลือกสูตรขนมของ buttermilkpantry เพราะว่ามีรายละเอียดอย่างครบถ้วน ถ้าทำตามที่สูตรบอกนี้ก็จะได้ชีสเค้กหน้าไหม้ที่หน้าตาสวย อร่อย เหมือนเจ้าของสูตรแน่นอน
วิธีทำชีสเค้กหน้าไหม้ สูตรของ buttermilkpantry
วัตถุดิบ
- ครีมชีส อุณหภูมิห้อง 430 กรัม
- น้ำตาลทราย 120 กรัม
- ไข่ใบใหญ่ อุณหภูมิห้อง 3 ฟอง (น้ำหนักไม่รวมเปลือก 150 กรัม)
- Heavy cream 270 กรัม (ปริมาณไขมันขั้นต่ำ 35%)
- แป้งเค้ก 20 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ปูกระดาษรองอบ 2 ชั้นลงบนพิมพ์ 6 นิ้ว ให้ปลายกระดาษเกินพิมพ์ขึ้นมาประมาณ 1.5-2 นิ้ว
- ตีน้ำตาลกับครีมชีสให้เข้ากันด้วยความเร็วปานกลาง จนกระทั่งเนียน ไม่รู้สึกถึงเกล็ดน้ำตาล ปาดขอบให้เรียบร้อย
- ใส่ไข่ลงไปทีละใบ ตีด้วยความเร็วปานกลางจนเนียน ปาดขอบอีกครั้ง
- ใส่กลิ่นวานิลลาและน้ำมะนาว ตีให้เข้ากัน
- สลับมาอีกชามผสม ผสมแป้งและ ¼ ของครีม ผสมให้เนียน เติมครีมเพิ่มอีก ¼ ของสูตร ผสมให้เนียน และใส่ครีมที่เหลือ ผสมให้เนียนอีกครั้ง (ค่อยๆใส่แป้งเข้าไปจะทำให้ผสมได้เนียนง่ายขึ้น ไม่เป็นก้อน)
- ค่อยๆเทส่วนผสมของครีมชีสและแป้งที่ผสมครีมแล้วเข้าด้วยกัน ตีเบาๆให้เข้ากัน จากนั้นเพิ่มความเร็วเป็นปานกลาง ตีเพิ่ม 15 วินาที เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเนื้อเดียวกัน
- วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 240C อย่างน้อย 30 นาที และนำเค้กเข้าอบที่ 240C เป็นเวลา 30-35 นาที จนกระทั่งหน้าเค้กมีสีเข้มเป็นเงาแทบจะเกรียม แต่ส่วนตรงกลางมีความหยุ่น เด้งดึ๋ง
- ทิ้งไว้ให้เซตตัวที่อุณหภูมิห้อง วางบนตะแกรงทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง
- นำเค้กออกจากพิมพ์ จะได้ชีสเค้กอุณหภูมิห้อง
- หากนำไปแช่ตู้เย็น เนื้อเค้กจะมีความแน่นขึ้น
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับสูตรนี้
ตัวครีมชีส
- ครีสชีสจะต้องอยู่ในอุณหภูมิห้องเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้ผสมออกมาเป็นเนื้อเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถที่จะนำครีมชีสจากตู้เย็นมาเข้าไมโครเวฟเป็นเวลา 10 วินาทีแทน เพื่อให้ตัวครีมชีสคลายความเย็นลงอย่างช้าๆจนนิ่มได้ที่
- วิธีการทดสอบว่าครีมชีสนิ่มได้ที่รึยัง คือให้ใช้ไม้พายปาดครีมชีสแล้วมีความเนียน ไม่เป็นความเป็นก้อนก็ถือว่าใช้ได้
- ฉัน(เจ้าของสูตร) ใช้ครีมชีสยี่ห้อ Philadelphia
หน้าตาและเท็กเจอร์
- ใช้แป้งเค้กเพื่อให้เค้กมีความนิ่ม แต่สามารถใช้แป้งอเนกประสงค์แทนก็ได้
- สิ่งสำคัญคือวัตถุดิบที่ใช้ทั้งหมดต้องอยู่ในอุณหภูมิห้อง เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันได้เป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้ชีสเค้กที่เนียนเป็นเนื้อเดียวกันไม่ใช่เป็นก้อน
- หากไม่มีเครื่องตีแป้ง (stand mixer) สามารถใช้ที่ตีมือตีเองได้ อย่าลืมใช้ไม้พายปาดส่วนผสมบริเวณขอบ ทั้งนี้จุดประสงค์หลักของการตีส่วนผสมเค้ก (cake batter)คือให้ส่วนผสมทั้งหมดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
- วอร์มเตาให้ได้อุณหภูมิที่ต้องการก่อนอบเสมอ
- การป้องกันหน้าเค้กแตกสำหรับสูตรนี้เป็นเรื่องยาก เพราะไม่ได้ใช้วิธีอบพร้อมน้ำ แต่ให้ใช้วิธีสังเกตเอาว่าถ้าด้านใดสุกเร็วกว่าก็หมุนถาดอบหันด้านที่สุกช้ากว่ามาแทน
- เพื่อป้องกันฟองอากาศพุดขึ้นมาขณะกำลังอบ ให้เตรียมการก่อนนำเข้าเตาอบ โดยนำตัว cake batter มาเคาะบนเคาเตอร์เพื่อให้ฟองลอยขึ้นมา จากนั้นใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มฟองอาหาศออกให้หมด
- ระหว่างอบ หากหน้าเค้กมีสีเข้มเกินไปก่อนข้างในจะสุก ให้นำฟลอยมาคลุมไว้ก่อน ในทางกลับกันหากหน้าเค้กมีสีอ่อนเกินไปให้เร่งไฟบนในช่วง 5 นาทีสุดท้าย
- เวลาอบ 30 นาทีที่อุณหภูมิ 240C ให้เนื้อเค้กข้างในที่เนียนนุ่ม และ creamy หากอยู่ในตู้เย็น และเยิ้มละลายเมื่ออยู่อุณหภูมิห้อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเตาอบแต่ละเครื่องด้วย
- หากอบนานกว่าเนื้อเค้กจะแน่นขึ้น แต่หากนานเกินไปจะมีรสชาติไข่
- หากอบสั้นกว่านี้เนื้อเค้กจะนุ่มขึ้น แต่หากสั้นเกินไปเนื้อเค้กจะดิบ
- หลังจากอบเสร็จให้ทิ้งไว้ในเตาอบสักครู่ เพื่อให้เค้กเซตตัว มิฉะนั้นส่วนที่เหลวจะเละติดถ้วยคล้ายฟองดู
- หากขีสเค้กนี้ถูกอบด้วยอุณหภูมิที่ถูกต้อง ให้เขย่าเบาๆจะรู้สึกถึงความหยุ่น โยกเยก เด้งดึ๋ง
- เซิร์ฟที่อุณหภูมิห้องจะได้เนื้อเค้กที่นุ่ม หากแช่ตู้เย็นข้ามคืนจะได้เนื้อเค้กที่แน่นกว่า ถ้าอยากได้เนื้อเค้กที่เย็นแล้วนุ่มด้วย ให้ใช้เวลาอบสั้นลง
สิ่งอื่นๆที่ควรรู้
- ปูกระดาษรองอบด้วย มิฉะนั้นเค้กจะไม่ฟูและติดถาดอบ
- ตัดกระดาษส่วนเกินออกหรือพับส่วนเกินลง เพื่อให้แน่ใจว่าขอบกระดาษจะไม่ไหม้เพราะความร้อน
- ใช้กระดาษสีอ่อน ถ้าหากใช้สีเข้มให้ลดเวลาอบลงเล็กน้อย (ประมาณ 5 นาที)
- โดยปกติแล้วชีสเค้กนี้จะไม่มีการใส่วานิลลาหรือเลม่อน แต่ฉัน(เจ้าของสูตร)ชอบกลิ่นรสของมันจึงใส่เข้าไปด้วย คุณอาจจะไม่ใส่มันก็ได้แต่ฉันก็แนะนำว่าควรจะใส่
- หากไม่มีพิมพ์อบ 6 นิ้ว สามารถใช้พิมพ์ 8 นิ้วแทน โดยแนะนำว่าควรเพิ่มปริมาณสูตรขึ้น 50% และเพิ่มเวลาอบเป็น 40-45 นาที
- ปรับโหมดเตาอบให้ใช้ไฟบน+ไฟล่าง+พัดลม วางชั้นกลาง
- พิมพ์อบใช้สีอ่อน กลม ขนาด 6 นิ้ว สูง 2.5 นิ้ว