ไหลบัว-สรรพคุณและประโยชน์-01

7,612 Views

คัดลอกลิงก์

“ไหลบัว” สรรพคุณ และประโยชน์ที่คาดไม่ถึง

ไหลบัว หรือหลดบัว อีกหนึ่งวัตถุดิบที่คนไทยนิยมรับประทานมายาวนาน มีประโยชน์และสรรพคุณที่ดีต่อร่างกาย ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ การปรุงเมนูไหลบัว ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีมาก เพราะไหลบัวนั้นมีรสขมบางๆ จึงถูกจัดเป็นอาหารฤทธิ์เย็น ซึ่งจะช่วยคลายความร้อนในร่างกาย ปรับสมดุลร่างกายได้ดีอย่างมาก

วันนี้ SGE จะพาไปรู้จัก ไหลบัว พร้อมสูตร เมนูไหลบัว จะมีอะไรบ้าง ไปดู

ไหลบัว คืออะไร?

ไหลบัวนั้นเป็น “หน่อของบัว” (ต้นอ่อน) หรือส่วนที่งอกขึ้นมา และจะเจริญเป็นลำต้นใหม่ต่อไป สีของไหลบัว จะเป็นสีขาว ไหลบัวที่เรานิยมนำมากินนั้นเป็น บัวหลวง หรือบัวบูชาพระ และจะมีความกรอบกว่าสายบัว นิยมนำมาทำแกงส้ม หรือผัดน้ำมันกับเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ในปัจจุบันไหลบัวสามารถหาซื้อได้ง่ายตามตลาดสด หรือซุปเปอร์มาเก็ตไกล้บ้าน

ไหลบัว-สรรพคุณและประโยชน์-02

ไหลบัวยังสามารถหาซื้อได้ตามตลาดสดใหญ่ ๆ เมื่อซื้อมาแล้วก็นำมาล้างทำความสะอาด แล้วหั่น หรือเด็ดให้เป็นท่อนยาวพอคำ สำหรับนำไปปรุงอาหารต่อ  แต่ตัวไหลบัวนั้นมีใยอยู่มาก เมื่อเด็ด หรือหั่นจะสังเกตเห็นสายใยที่ยืดยาวออกมา หากไม่กำจัดทิ้งไป เวลากินจะกินลำบาก เคล็ดลับการกำจัดเยื่อใยของไหลบัว คือ เมื่อเด็ดหรือหั่นเสร็จแล้ว นำไปแช่น้ำทิ้งไว้ แล้วใช้ตะเกียบมาคนวนในกะละมังให้ทั่ว (ใช้ตะเกียบไม้จะดีกว่า) จะเห็นว่ามีใยของไหลบัวติดออกมา ให้คนไปเรื่อย ๆ จนกว่าใบไหลบัวจะไม่ติดขึ้นมา

วิธีการงม หรือเก็บไหลบัว ทำได้อย่างไร?

วิธีการเก็บเกี่ยวนั้น จะต้องเลือกเก็บจากต้นอ่อนของ บัวหลวง ซึ่งสังเกตจากใบที่มีลักษณะยังม้วนอยู่ ไหลบัวนั้น จะอยู่ในดิน หรือใต้โคลน เวลาเก็บจะใช้วิธีการงมแล้วใช้มือบีบบริวาณโคนรากของบัว แล้วเด็ดออกมา ข้อสำคัญระหว่างที่เด็ดมานั้น ต้องบีบตลอดจนกว่าจะพ้นน้ำ เพราะในไหลบัวนั้น เป็นศูนย์อากาศ หากไม่บีบน้ำโคลน หรือสิ่งสกปรกจะเข้าไปได้ เมื่อพ้นน้ำแล้วก็ปล่อยได้ตามปกติ เพราะอากาศจะเข้าไปแทนที่ทำให้น้ำไม้สามารถเข้าไปได้

บัวหลวง จะมีด้วยกันสองสี คือ สีขาว และสีชมพู ซึ่งการเลือกเก็บไหลบัวนั้น จะนิยมใช้บัวสีชมพู เพราะมียางน้อยกว่า บัวสีขาว ซึ่งยางจะให้รสชาติที่ขมจึงไม่นิยมบริโภค

อ้างอิงข้อมูลจาก acuisineth.com

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่

ไหลบัวกับสายบัว ต่างกันอย่างไร?

ไหลบัวหรือหลดบัว คือ ส่วนหนึ่งของดอกบัวที่กำลังงอกออกมา เพื่อเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่ ลักษณะของไหลบัว จะเป็นก้านยาว ๆ สีขาวนวล กดแล้วจะไม่ยุบ แตกต่างจาก สายบัว ที่เวลากินจะต้องลอกเปลือกออกก่อน

ไหลบัว-สรรพคุณและประโยชน์-03

สรรพคุณไหลบัว

  • ไหลบัวเป็นยารสเย็นจืด แก้อ่อนเพลีย ไหลบัวมีสารอาหารมากมาย จึงช่วยบำรุงกำลัง เพิ่มพลังงานให้ร่างกายมีแรงมากขึ้น
  • ช่วยบํารุงหัวใจ ขยายหลอดเลือดหัวใจ จึงทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจอย่างเพียงพอ
  • ช่วยลดความดันโลหิตสูง ควบคุมความดันโลหิต และเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
  • ช่วยให้นอนหลับสบาย แก้อาการนอนไม่หลับ ช่วยผ่อนคลาย จึงทำให้นอนหลับสนิทตลอดคืน
  • ช่วยให้เจริญอาหาร
  • บำรุงร่างกาย บำรุงน้ำดี บำรุงเลือด บำรุงหัวใจ บำรุงตับ และบำรุงไต
  • แก้ท้องร่วง ช่วยรักษาอาการท้องเสีย ท้องเดิน และยังช่วยบรรเทาอาการอักเสบของลำไส้
  • ช่วยกระตุ้นระบบทางเดินอาหาร
  • ลดอาการเกร็งของลำไส้และกระเพาะ
  • บรรเทาอาการท้องผูก ไหลบัวมีเส้นใยอาหารมาก จึงช่วยแก้โรคท้องผูกได้ดี
  • ลดความเครียดทางสมอง ลดความวิตกกังวล และช่วยบำรุงระบบประสาท และสมอง
  • ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยขับของเสียในร่างกายออกทางเหงื่อ
  • ช่วยลดอาการบวมน้ำได้ดี
  • ดับพิษร้อนในกาย ต้านลมกำเริบ แก้อาการร้อนใน ช่วยลดความร้อนในร่างกาย เพราะเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น
  • มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งได้

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

เครื่องซีลสูญญากาศ จาก SGE การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

4 เมนูไหลบัว ที่อยากแนะนำ

ไหลบัวกับอาหาร เนื้อสัมผัสของไหลบัวนั้น มีความกรอบ มากกว่าสายบัว ดังนั้น การเลือกเมนูที่จะมีปรุงนั้นค่อนข้างง่าย สารมารถปรุงในเมนู ยำ แกงส้ม หรือผัดน้ำมันหอย อร่อยถูกปากแน่นอน อีกทั้งไหลบัวมีรู หรือโพลงเยอะ จึงทำให้ดูดซับรสชาติได้ดีเยี่ยมอีกด้วย

วิธีทำให้ไหลบัวไม่ดำอีกหนึ่งวิธี คือ หลังจากล้าง หั่นเป็นชิ้นตามต้องการ ใช้แช่ลงในอ่างน้ำผสมเกลือ จะทำให้ไหลบัวไม่ดำ และกรอบมากขึ้นด้วย

เมนูไหลบัวผัดพริกเหลืองปลาทู

ไหลบัว-เมนูไหลบัว-04 ไหลบัวผัดพริกเหลืองปลาทู

ส่วนผสม

  • ปลาทูสดหั่นชิ้นหนา 1 นิ้ว 3 ตัว
  • ไหลบัวเด็ดท่อน 2 ถ้วย
  • พริกชี้ฟ้าเหลืองหั่นหยาบ ¼ ถ้วย
  • กระเทียมหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
  • รากผักชีหั่นหยาบ 2 ราก
  • ใบมะกรูดฉีก 6 ใบ
  • น้ำมันหอย 1½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส ½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืชสำหรับผัด 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำซุปไก่เล็กน้อย

วิธีทำ

  1. โขลกพริกชี้ฟ้า กระเทียม และรากผักชีเข้าด้วยกันให้ละเอียด พักไว้
  2. ตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ พอร้อนจี่ปลาทูพอสุก ตักขึ้นพักไว้
  3. ตั้งหม้อน้ำเดือดจัด นำไหลบัวลงไปลวก พอสุก ตักขึ้นพักไว้
  4. ผัดส่วนผสมในข้อ 1 ด้วยไฟกลางจนมีกลิ่นหอม ใส่ไหลบัวและใบมะกรูดลงผัดให้เข้ากัน
  5. ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส และน้ำตาลปี๊บ ถ้าแห้งเติมน้ำซุปได้เล็กน้อยชิมรสตามชอบ
  6. ใส่ปลาลงผัดให้เข้ากัน ปิดเตา ตักใส่จาน เสิร์ฟขณะร้อน ๆ

เคล็ดลับ : หลังจากเราลวกไหลบัวแล้ว ควรรีบปรุงต่อทันที เพราะสีจะของไหลบัวไม่ดำคล้ำ ไม่น่ารับประทาน

สูตรและภาพจาก goodlifeupdate.com

เมนูไหลบัวผัดกะปิ

ไหลบัว-เมนูไหลบัว-05 ไหลบัวผัดกะปิ

ส่วนผสม

  • ไหลบัวสด
  • เต้าหู้ขาวชนิดแข็ง หั่นเป็นชิ้นเต๋า คลุกแป้งแล้วทอดจนเหลืองกรอบ
  • กระเทียมดองหั่นซีก
  • ใบมะกรูด
  • กะปิอย่างดี น้ำตาลมะพร้าว พริกขี้หนูสวน ตะไคร้ซอย กระเทียมไทย

วิธีทำ

  1. ล้างไหลบัวให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นท่อนสั้น แล้วสาวใยบัวออกให้หมด
  2. ทำน้ำปรุง โดยตำกระเทียมไทย พริกขี้หนูสวน ตะไคร้ซอยให้ละเอียด จากนั้น เติมกะปิ และน้ำตาลมะพร้าว ตำให้เข้ากัน เติมน้ำสุกเล็กน้อยให้ขลุกขลิก
  3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช รอจนร้อน จากนั้น ใส่น้ำปรุงลงไปผัดจนหอม เติมไหลบัวผัดให้เข้ากัน
  4. เติมกระเทียมดองหั่นซีก แล้วตามด้วยเต้าหู้ทอด ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วจึงเร่งไฟแรง เติมใบมะกรูดฉีก
  5. ปิดเตาแล้วตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ

สูตรจากและภาพจาก greenery.org

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้
กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

เมนูแกงส้มไหลบัวปลากระพงปักษ์ใต้

ไหลบัว-เมนูไหลบัว-06 แกงส้มไหลบัวปลากระพง

ส่วนผสม

  • ไหลบัว 8 เส้น
  • พริกป่นแบบใต้ ป่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • ปลากระพงหั่นชิ้นขนาดพอคำ 1 ตัว
  • มะนาว 7 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยเม็ดดำ 10 เม็ด

วิธีทำ

  1. หั่นไหลบัวเป็นท่อนขนาดพอคำ ลงในน้ำที่ผสมเกลือไว้แล้ว เพื่อไม่ให้ไหลบัวดำ
    เคล็ดลับ : ไหลบัวจะมีใยค่อนข้างเยอะ เมื่อเด็ด หรือหั่นเสร็จแล้วให้นำไปแช่น้ำที่เตรียมไว้ แล้วใช้นิ้ว หรือตะเกียบคนวนให้ทั่ว ใยจะติดมากับนิ้ว หรือตะเกียบก็เอาใยออกได้เลย
  2. นำเกลือ และพริกไทยดำเม็ด ใส่ในครก ตำให้ละเอียด เติมพริกป่นแบบใต้ (ป่นแบบละเอียด) และกะปิ ลงโขลก
  3. จากนั้น ใส่น้ำเปล่า และคนให้เข้ากัน แล้วนำไปกรองเอาแต่น้ำไว้
  4. ตั้งไฟปานกลาง รอจนน้ำเดือด ใส่ไหลบัวพอไฟเดือดอีกครั้ง ใส่ปลากระพงที่หั่นเตรียมไว้แล้ว ไม่ต้องคน เพราะจะทำให้มีกลิ่นคาว และเนื้อปลาเละ
  5. พอเดือดปรุงรสด้วยเกลือ น้ำมะนาว และชิมรสตามชอบ ถ้าใครชอบหวานสามารถเติมน้ำตาลปี๊บได้ ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟ

เมนูยำไหลบัวกุ้งสด

ไหลบัว-เมนูไหลบัว-07 ยำไหลบัวกุ้งสด

ส่วนผสม

  • ไหลบัว หั่นเป็นท่อนพอดีคำ 200 กรัม
  • กุ้งขาวผ่าหลังแกะเปลือก 100กรัม
  • หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมบด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูสวนซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  • ขึ้นฉ่ายซอย 1 ต้น
  • ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ปลาเล็กกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. ขั้นตอนแรกเริ่มต้นด้วยการนำไหลบัวที่หั่นเป็นท่อนไปลวกในน้ำร้อนสัก 1-2 นาที พอไหลบัวสุก ตักขั้นแล้วนำไปแช่ในน้ำเย็นจัด
  2. จากนั้น นำกุ้งสดไปลวกต่อลวกด้วยน้ำเดือด 1-2 นาที ตักขึ้นมาพักให้กุ้งสุก
  3. ผสมน้ำยำโดยผสมน้ำตาลมะพร้าว น้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาวผสมจนน้ำตาลละลาย จากนั้นชิมรสตามชอบ
  4. ใส่หอมแดงซอย กระเทียมสับ พริกขี้หนูสับ ตามด้วยไหลบัว และกุ้งคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟโรยหน้าด้วยปลากรอบขื่นช่าย และถั่วลิสงคั่ว

เป็นอย่างไรกันบ้างกับความรู้เรื่องไหลบัว พร้อมทั้งเมนูไหลบัวที่เราได้นำมาฝากกัน ซึ่งไหลบัวนั้นก็สรรพคุณต่าง ๆ มากมาย รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมไปหาไหลบัวมาลองทำอาหารกันดูนะจ๊ะ รับรองได้ประโยชน์เต็ม ๆ อย่างแน่นอน

สามารถติดตาม สูตรอาหารและบทความอื่นๆ ได้ที่นี่

สินค้าอื่นที่น่าสนใจ

รายการสินค้าที่สนใจ-เครื่องซูวี_1

เครื่องซูวี

รายการสินค้าที่สนใจ-เครื่องซีลสุญญากาศ-vc-eco

เครื่องซีลสุญญากาศ

รายการสินค้าที่สนใจ-เตาอบ

เตาอบขนม

https://www.sgethai.com/baking-pap

กระดาษไขรองอบ

30 ธันวาคม 2021

โดย

ลำดวน

ความคิดเห็น (Comments)

Leave A Comment