เนื้อจระเข้

2,048 Views

คัดลอกลิงก์

เนื้อจระเข้ ส่วนไหนรสชาติดีที่สุด พร้อมเคล็ดลับในการเลือกซื้อและเก็บรักษา

เนื้อจระเข้ กลายเป็นโปรตีนทางเลือกของคนยุคใหม่ เมื่อมีราคาถูกกว่า เนื้อหมู เนื้อไก่ ที่ปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คนหันมาบริโภคจำนวนมาก หากใครอยากรู้ว่า เนื้อจระเข้ สรรพคุณ อะไร และ มี วิธีการเลือกซื้อและเก็บรักษาให้นานได้อย่างไรบ้าง SGE มีคำตอบ พร้อมพาคุณไปรู้จักทุกแง่มุม เพื่อเป็นความรู้ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เนื้อจระเข้ มาบริโภค

ทำไม เนื้อจระเข้ ถึงกลายเป็น โปรตีนทางเลือก

จระเข้

เหตุผลที่คนมากิน เนื้อจระเข้ กันมากขึ้น ปัจจัยหลักเป็นเรื่องของราคาเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะในช่วงระยะหลังที่ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ รวมถึงโรคระบาดที่เกิดขึ้นในหมู ทำให้เนื้อหมูปรับราคาสูงขึ้น ผู้บริโภคจึงหันมารับประทานเนื้อจระเข้กันจำนวนมาก นอกจาก เนื้อไก่ หรือ เนื้อปลา เพราะมีราคาถูกกว่าเกือบเท่าตัว โดยราคาเนื้อหมูอยู่ที่ 190 – 250 บาท ในขณะที่ราคาเนื้อจระเข้ เริ่มต้นอยู่ที่ 100 บาทเท่านั้น

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เรื่องของรสสัมผัส ที่ให้รสชาติไม่ต่างจากเนื้อหมูหรือเนื้อไก่ ทำให้หลายคนเปิดใจและใช้เนื้อจระเข้แทนในหลาย ๆ เมนู นอกจากนี้ ก็ยังมีเรื่องของสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น โปรตีนสูง ไขมันต่ำ คอเลสเตอรอลน้อย ก็เป็นอีกเหตุหนึ่งที่ทำให้คนไทยหันมาบริโภคเนื้อจระเข้มากขึ้นเช่นเดียวกัน

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

เครื่องซีลสูญญากาศ จาก SGE การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

เนื้อจระเข้ ส่วนไหน รสชาติดีที่สุด

เนื้อจระเข้

เนื้อจระเข้ก็เหมือนกับเนื้อสัตว์อื่น ๆ ที่จะแบ่งออกเป็นส่วนต่าง ๆ ซึ่งแต่ละส่วนก็จะให้รสสัมผัสและรสชาติที่แตกต่างกัน ถ้าส่วนไหนอร่อยมาก ก็จะมีราคาแพง โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน คือ เศษเนื้อเล็ก ๆ เนื้อลำตัว หางจระเข้ และ บ้องตัน โดยเฉลี่ยขายกันอยู่ที่ 100 – 240 กิโลกรัม หรือ ถ้าหากใครต้องการซื้อทั้งตัวก็มี สามารถหาซื้อได้ในราคา 900 – 1,500 บาท ต่อตัว

โดยถ้าให้บอกว่า เนื้อจระเข้ส่วนไหนอร่อยที่สุด ต้องยกให้ เนื้อบ้องตัน เพราะเป็นเนื้อส่วนเดียวที่มีมันแทรก ให้ความชุ่มฉ่ำในการรับประทาน แถมยังมีรสสัมผัสที่ดีมาก รสชาติคล้ายสันในไก่ แต่รสสัมผัสจะเหมือนหมู ไม่มีกลิ่นสาป ทำให้อร่อยกว่าเนื้อจระเข้ส่วนอื่น แต่ก็มีราคาแพงมากที่สุดเช่นกัน โดยขายกันอยู่ที่ 240 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ถุงซีลสูญญากาศ

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🥺🙏🏻

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

เนื้อจระเข้ สรรพคุณ มีอะไรบ้าง

จระเข้

1. โปรตีนสูง ไขมันต่ำ

เนื้อจระเข้มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ ทำให้เหมาะสำหรับทำเป็นอาหารคีโต เพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก

2. แคลอรี่ต่ำ

นอกจากช่วยลดน้ำหนักได้แล้ว ยังเหมาะสำหรับคนที่อยากควบคุมปริมาณแคลอรี่ ในการกินอาหารแต่ละวันด้วย เพราะให้แคลอรี่ต่ำมาก ๆ โดยใน 100 กรัม จะให้พลังงานเพียง 99 กิโลแคลอรี่เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่า เนื้อหมู เนื้อไก่ หรือ เนื้อวัว ในปริมาณเดียวกัน

3. อุดมไปด้วยคอเลสเตอรอลที่ดี

คอเลสเตอรอล หรือ ไขมัน สามารถพบได้ในเนื้อสัตว์ทั่วไป แต่ในเนื้อจระเข้นั้น จะอุดมไปด้วยคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) มากกว่า คอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ส่งผลให้ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือ โรคหลอดเลือดหัวใจได้

4. ช่วยป้องกันโรคหอบหืดได้

ในทางการแพทย์แผนจีน เชื่อกันว่า การบริโภคเนื้อจระเข้คู่กับสมุนไพรจีน อย่างเช่น โสม จะช่วยป้องกันโรคหอบหืดได้  อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการศึกษาวิจัยที่รองรับข้อเท็จจริงนี้ จึงควรรอผลการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ข้อสมมติฐานนี้ต่อไป

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

วิธีเลือกซื้อและเก็บเนื้อจระเข้

เนื้อจระเข้

วิธีเลือกซื้อเนื้อจระเข้ ควรเลือกซื้อจากฟาร์มเลี้ยงจระเข้ที่มีมาตรฐานและความสะอาด เพราะจระเข้เป็นสัตว์เลื้อยคลาน อาจสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคได้ง่าย เช่น  เชื้อซัลโมเนลลา ที่ทำให้เกิดโรคไทฟอยด์ โรคท้องร่วง ฯลฯ โดยเวลาพิจารณา ให้เลือกเนื้อจระเข้ที่มีสีขาวทึบ ไม่มีกลิ่นเหม็น เป็นหลัก และ หลังจากซื้อมาแล้ว ก็ควรนำมาปรุงสุกทุกครั้ง ไม่ควรกินเนื้อจระเข้แบบดิบ ๆ

สำหรับใครที่ทานเนื้อจระเข้ไม่หมด อยากจะเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อรับประทานในวันถัด ๆ ไป SGE มี วิธีเก็บรักษาเนื้อจระเข้ ให้ได้นาน ๆ มาฝาก โดยให้ตัดเนื้อจระเข้เป็นส่วนๆ แล้วห่อด้วยกระดาษฟอยล์ฟิล์มยืดหรือกระดาษพาร์ชเมนท์ให้มิด แล้วนำไปแช่ตู้เย็นจัดเก็บในช่องแช่แข็งหรือตู้เย็น อุณหภูมิตั้งแต่ 0 – 5 องศาเซลเซียส จะช่วยให้เก็บได้นาน 24 ชั่วโมง

แต่ถ้าหากต้องการนานกว่านั้น ให้จัดเก็บที่ อุณหภูมิ -8 ถึง -12 องศาเซลเซียส จะช่วยเก็บรักษาได้ 2-4 เดือน หรือ -18 ถึง -24 องศาเซลเซียส จะช่วยให้เก็บรักษาได้ 10-12 เดือน ตามลำดับ

หากเนื้อหมู เนื้อไก่ ราคาแพงเกินไป จนส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่าย ลองหาซื้อเนื้อจระเข้มารับประทานแทนดู ไม่แน่ว่า อาจจะอร่อยถูกใจ แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

สำหรับใครที่ซื้อเนื้อจระเข้ได้แล้ว แล้วอยากเก็บไว้ในตู้เย็น หรือ ช่องฟรีซ เพื่อให้เก็บไว้ได้นาน ๆ แนะนำให้เก็บใน ถุงซีลสุญญากาศ ของ SGE ในการเก็บรักษาเนื้อจระเข้ ให้มีความสดใหม่ เพราะผลิตจากพลาสติก Food Grade ทนความเย็นและความร้อนได้ดี ช่วยให้คุณเก็บเนื้อจระเข้ให้มีความสดใหม่ได้ยาวนาน สามารถนำมารับประทานได้แม้ผ่านไปหลายวัน สนใจคลิกดูเพิ่มเติมที่ https://www.sgethai.com/vacuum-bags/ 

9 สิงหาคม 2022

โดย

Pres

ความคิดเห็น (Comments)

Leave A Comment