กะหล่ำปลี-วิธีปลูกกะหล่ำปลี-01

4,686 Views

คัดลอกลิงก์

รู้จัก “กะหล่ำปลี” สรรพคุณและประโยชน์ พร้อมวิธีปลูกแบบง่ายๆที่บ้าน

พืชผักสวนครัวอีกหนึ่งชนิด ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก นั่นคือ กะหล่ำปลี (Cabbage) นำไปทำเมนูไหนก็อร่อย ทานได้ทั้งแบบสด ๆ และแบบปรุงสุกในเมนูอาหารแทบทุกเมนู แถมยังมีประโยชน์ และสรรพคุณมากมาย เช่น ไฟเบอร์ วิตามินต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว

วันนี้ SGE จะพาไปรู้จักกับ กะหล่ำปลี สรรคุณต่าง ๆ และ วิธีปลูกกะหล่ำปลี แบบง่าย ๆ มาฝากกัน ตามไปดู

กะหล่ำปลี (Cabbage)

กะหล่ำปลีนั้น เป็นพืชผักสวนครัว ที่นิยมทานมาก ๆ ในปัจจุบัน เพราะมีเนื้อกรอบ และหวาน สามารถทำไปทำอาหารได้หลายเมนู เช่น แกงจืด หรือต้มจืดกะหล่ำปลี และผัดกะหล่ำปลี เป็นต้น แถมยังนิยมรับประทานสด หรือลวกสุกคู่กับกับข้าวเมนูอื่น เช่น น้ำพริก ลาบ และไส้กรอกอีสาน เป็นต้น

ในประเทศไทย มีการนำกะหล่ำเข้ามาปลูก และรู้จักกันในราวก่อนปี พ.ศ. 2470 เล็กน้อย โดยเริ่มแรกมีการปลูกในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน และปลูกมากเฉพาะในฤดูหนาว แต่ต่อมาในราวปี พ.ศ. 2505 ได้เริ่มปลูกกันในฤดูอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น

กะหล่ำปลี-วิธีปลูกกะหล่ำปลี-02

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของกะหล่ำปลี

  • ราก และลำต้น เป็นพืชล้มลุกอายุมากกว่า 1 ปี ลำต้นกลม สั้น สีขาว เป็นแก่นตรงกลาง ถูกห่อหุ้มด้วยแผ่นใบ ส่วนรากกะหล่ำปลี ประกอบด้วย รากแก้ว และรากฝอย
  • ใบ ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับซ้อนกันแน่นรอบลำต้น เรียกว่า หัวกะหล่ำปลี มีลักษณะกลม และแบนเล็กน้อย โดยใบจะห่อหุ้มซ้อนกันแน่น ใบจะแตกออกด้านข้างลำต้น เรียงวนรอบลำต้น ผิวใบมีลักษณะเรียบ แต่เป็นลูกคลื่น ขอบใบย่น ใบโค้งงอเข้าตรงกลาง หุ้มซ้อนกันแน่น กะหล่ำปลี 1 ต้น จะมีใบห่อหุ้มประมาณ 20-40 ใบ หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับขนาดหัว
  • ดอก ออกดอกเป็นช่อ แทงออกตรงกลางหัว มีก้านช่อดอกยาว ปลายก้านช่อดอกแตกแขนงออกเป็นช่อดอกย่อย เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ที่มีเกสรตัวผู้ และเกสรตัวเมียในดอกเดียวกัน
  • ผล และเมล็ด มีลักษณะเป็นฝักเรียวยาว แบบตะเข็บ 2 ข้าง ฝักอ่อนมีสีเขียว ฝักแก่มีสีดำ และปริแตกเมื่อฝักแก่เต็มที่ ภายในฝักมีเมล็ดจำนวนมาก เรียงกันเป็นแถวเดียว เมล็ดมีลักษณะกลม ขนาดเล็ก ประมาณ 1.6 มิลลิเมตร เปลือกเมล็ดมีสีดำ หรือน้ำตาลอมดำ ผิวเมล็ดเรียบ
กะหล่ำปลี-วิธีปลูกกะหล่ำปลี-03

สายพันธุ์ของกะหล่ำปลี

กำหล่ำปลี สามารถแยกได้เป็น 3 สายพันธุ์ คือ

  • กะหล่ำปลีขาว (Common Cabbage) นิยมปลูกทั่วไปเพื่อทานใบ หัวกลม แบบราบ ใบสีเขียว หรือสีเขียวอ่อน ใบด้านในมีสีขาว ใบกรอบ รสหวานเล็กน้อย เช่น พันธุ์โคเปนเฮเกนมาร์เก็ต และพันธุ์โกลเดน เอเคอร์
  • กะหล่ำปลีแดง หรือกะหล่ำปลีสีม่วง (Red Cabbage) ใบเป็นสีแดงทับทิม ขึ้นดีในที่อากาศหนาวเย็น นิยมบริโภคมาก ๆ ในแถบยุโรป มีรสชาติขมกว่ากะหล่ำปลีขาว
  • กะหล่ำปลีใบย่น (Savoy Cabbage) เป็นอีกสายพันธุ์ที่นิยมปลูกทั่วไป ผิวใบหยิกย่น เติบโตได้ดีในอากาศหนาวเย็น มีรสชาติหวานกรอบ มีกลิ่นเฉพาะตัว

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

เครื่องซีลสูญญากาศ จาก SGE การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ประโยชน์ของกะหล่ำปลี

กะหล่ำปลี-วิธีปลูกกะหล่ำปลี-04

ประโยชน์ด้านสุขภาพ

  • ช่วยลดน้ำหนัก และคอเลสเตอรอลในร่างกาย
  • มีแคลเซียม และฟอสฟอรัส บำรุงกระดูก และฟัน
  • ช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องผูก แก้อาการจุกเสียด แน่นท้อง
  • ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด
  • ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการโรคกระเพาะอักเสบ
  • กะหล่ำปลีมีสารซัลเฟอร์ ช่วยระงับประสาท ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด ทำให้นอนหลับสบายขึ้น
  • ช่วยบำรุงรากผม สร้างโปรตีนเคราติน ทำให้ผมเงางามมีน้ำหนัก สุขภาพดี ชะลอการเกิผมหงอกได้

ประโยชน์ด้านอื่น ๆ

  • นิยมใช้ใบประกอบอาหาร เช่น เมนูต้ม เมนูผัด เมนูแกง เป็นต้น
  • ใบกะหล่ำปลี สามารถทานสด ๆ ได้ เช่น เมนูลาบ ผักสดจิ้มน้ำพริก เป็นต้น
  • กะหล่ำปลีสีแดง มักจะใช้สกัดเป็นสีผสมอาหาร สีย้อม เป็นต้น
  • ลำต้น และใบ สามารถนำไปเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ เช่น หมู วัว เป็นต้น
  • เศษกะหล่ำปลี นิยมนำไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพ

ข้อควรระวังในการทานกะหล่ำปลี

กะหล่ำปลีมี กอยโตรเจน ที่เข้าไปยับยั้งการดูดซึม ไอโอดีน ที่ทำให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนได้น้องลงไปกว่าเดิม ไม่เหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคไฮโปไทรอยด์ นอกจากนี้ กะหล่ำปลียังอาจมีสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงมากพอสมควร ก่อนทานควรแกะออกมาแช่น้ำ และล้างเป็นใบ ๆ ก่อนทานด้วย

หากบริโภคเข้าไปในปริมาณมาก ๆ อาจจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ มึนงง หายใจลำบาก คลื่นไส้อาเจียน

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

สแลนกันแดด NetShade
สแลนกันแดด NetShade

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

วิธีปลูกกะหล่ำปลี

กะหล่ำปลีนั้น สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ และจะเจริญเติบโตในดินที่ร่วนซุย หน้าดินลึก และระบายน้ำได้ดี  เป็นพื้นที่ชอบอากาศเย็นด้วย จึงนิยมปลูกในช่วงเดือน ตุลาคม – มกราคม ของทุกปี มีขั้นตอนดังนี้

กะหล่ำปลี-วิธีปลูกกะหล่ำปลี-05
  • เลือกเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ สำหรับเมืองไทย ปลูกพันธุ์เบา จะได้ผลดีที่สุด เพราะเป็นพันธุ์ที่ไม่ต้องการอากาศหนาวมากนัก มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น ปลูกได้ผลดี
  • เตรียมดินเพาะกล้า ขุดไถลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร กว้าง 1 เมตร ความยาวตามต้องการ
  • ตากดินไว้ ประมาณ 5-7 วัน จากนั้น ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวได้ดี อัตรา 2,000 กิโลกรัมต่อไร่ และใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ คลุกเคล้าให้เข้ากับดินและย่อยหน้าดินให้ละเอียด หากดินเป็นกรด ควรใส่ปูนขาวลงไป เพื่อปรับสภาพดินให้มีความเหมาะสมต่อการปลูกกะหล่ำปลีด้วย
  • การเพาะกล้า หลังจากเตรียมดินแล้ว หว่านเมล็ดกะหล่ำปลีให้กระจายทั่วแปลง หรือทำเป็นแถวขุดร่องลึก ประมาณ 1 เซนติเมตร ห่างกันแถวละ 15 เซนติเมตร
  • โรยเมล็ดลงในร่องหว่าน กลบเมล็ดด้วยปุ๋ยหมัก หรือดินละเอียด รดน้ำให้ชุ่ม คลุมด้วยฟางแห้งบาง ๆ
  • หลังจากต้นกล้างอกได้ 15-20 วัน ให้เลือกถอนต้นที่ไม่สมบูรณ์ออก และทิ้งระยะห่างต้นละ 10 เซนติเมตร รอจนกระทั่งอายุประมาณ 25-30 วัน จึงย้ายไปปลูก
  • การย้ายปลูก ควรย้ายในช่วงบ่าย-เย็น โดยให้ดินติดรากมาด้วย ระวังไม่ให้รากขาด รีบนำลงปลูก กดดินรอบโคนให้แน่นทันที รดน้ำให้ชุ่ม ทำร่มบังแดดปิดบังแดดไว้ ประมาณ 3- 4 วัน แล้วนำออก
  • การใช้ปุ๋ย เมื่อปลูกได้ 15 วัน ใส่ปุ๋ยจำพวกไนโตรเจน เช่น ยูเรีย 46% (46-0-0) หรือแอมโมเนียมซัลเฟต 21% (21-0-0) ให้ต้นละ 1 ช้อนชา
  • เมื่อปลูกได้ 30 วัน ทำการพรวนดินรอบ ๆ โคนต้น ใส่ปุ๋ยสูตร 12-8-8 ต้นละ 2 ช้อนชา หรือใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ต้นละ 1 กำมือ กลบดิน
  • รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ วันละ 1-2 ครั้ง ในระยะแรก ให้รดน้ำด้วยการฉีดเป็นฝอยในช่วงเช้าและเย็นทุกวัน
  • เมื่อหัวเริ่มเข้าปลี ให้ลดปริมาณการรดน้ำลง เพื่อป้องกันไม่ให้หัวปลีแตกและไม่ห่อหัว
  • การเก็บเกี่ยว เมื่อกะหล่ำปลีอายุประมาณ 50-60 วัน ใช้มีดตัดบริเวณส่วนโคน โดยปกติกะหล่ำปลี จะมีน้ำหนักประมาณ 1-2 กิโลกรัมต่อต้น การเก็บในระยะที่เหมาะสมจะได้หัวที่สมบูรณ์ หากเก็บขณะอ่อนเกินไปหัวจะไม่แน่น จะเสียขนาดและน้ำหนัก หรือถ้าทิ้งไว้นานเกินไปหัวจะหลวม ทำให้คุณภาพของหัวกะหล่ำปลีลดลง เสียรสชาติ ไม่ได้ราคา ดังนั้น เวลาเก็บเกี่ยวควรสังเกตหัวที่แน่นจะดีที่สุดนั่นเอง

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่

แนะนำเมนูกะหล่ำปลี

กะหล่ำปลี ทำได้หลากหลายเมนู ตามไปจดสูตร แล้วไปเข้าครัวพร้อม ๆ กันเลย

กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา

กะหล่ำปลี-วิธีปลูกกะหล่ำปลี-06

ส่วนผสม

  • กะหล่ำปลี 500 กรัม
  • กระเทียม 20 กรัม
  • กุ้งแห้ง 20 กรัม
  • น้ำปลา 1+1/3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 1/4 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. ล้างกะหล่ำปลีให้สะอาด แกะใบกะหล่ำปลีออกเป็นแผ่น ๆ แล้วล้างน้ำให้สะอาดอีก 1 รอบ
  2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป แล้วเปิดไฟแรง วอร์มให้น้ำมันร้อนได้ที่ ใส่กะหล่ำปลีลงไป ผัดให้โดนน้ำมันทั่ว ๆ พอผักสลดลง ตักขั้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
  3. เทน้ำมันในกระทะออก ให้เหลือแค่เล็กน้อย ใส่กระเทียมลงไป เจียวให้กระเทียมมีสีเหลืองทอง ตักขึ้น เตรียมไว้
  4. ใส่กุ้งแห้งลงไป เจียวให้กุ้งแห้งสุกกรอบ เสร็จแล้วตักขึ้น เตรียมไว้
  5. เทน้ำมันออกจากกระทะ ตั้งกระทะใหม่ ใส่น้ำปลาลงไปให้ทั่ว ให้เคลือบกระทะ จากนั้น ใส่กะหล่ำปลี กระเทียม และกุ้งแห้ง ลงไป แล้วผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันกับน้ำปลา ปิดเตา
  6. ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ พร้อมทาน

ต้มกะหล่ำปลีซี่โครงหมู

กะหล่ำปลี-วิธีปลูกกะหล่ำปลี-07

ส่วนผสม

  • กะหล่ำปลี 4 หัว
  • ซี่โครงหมู 500 กรัม
  • กระเทียม 10 กลีบ
  • พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ
  • รากผักชี 1 ราก
  • ซอสปรุงรส 5 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า

วิธีทำ

  1. ล้างกะหล่ำปลีให้สะอาด หั่นออกเป็น 4 ส่วน พักให้สะเด็ดน้ำ
  2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป วอร์มให้น้ำมันร้อนได้ที่ ใส่กะหล่ำปลีลงไปทอดใจนเปลี่ยนสี และนิ่มลง ตักขึ้น นำไปลวกในน้ำร้อน เพื่อล้างน้ำมันออก แล้วพักให้สะเด็ดน้ำมัน เตรียมไว้
  3. ใส่ซี่โครงหมูลงไปทอดต่อ ทอดแค่ให้พอสุก ตักขึ้น นำไปลวกในน้ำร้อน เพื่อล้างน้ำมันออก พักให้สะเด็ดน้ำมัน
  4. ตั้งหม้อ ใส่น้ำเปล่าลงไป ต้มน้ำให้เดือด ใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทย ลงไป
  5. จากนั้นใส่กะหล่ำปลี และซี่โครงหมู ปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำตาลปี๊บ เกลือ ต้มจนกะหล่ำปลี และซี่โครงหมูนิ่มลง ประมาณ 30 นาทีขึ้นไป
  6. เมื่อครบเวลา ปิดเตา ตักใส่ชาม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ พร้อมทาน

ไข่เจียวกะหล่ำปลี

กะหล่ำปลี-วิธีปลูกกะหล่ำปลี-08

ส่วนผสม

  • กะหล่ำปลีหัวเล็ก 1 หัว
  • ไข่ไก่ 4 ฟอง
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • พริกไทย 1 ช้อนชา
  • งาขาว 1 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. ล้างกะหล่ำปลีให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ หั่นซอยเป็นเส้นเล็ก ๆ เตรียมไว้
  2. เตรียมชามผสม ตอกไข่ไก่ลงไป ตามด้วย เกลือ พริกไทย งาขาว และกะหล่ำปลี ตีทุกอย่างให้เข้ากัน
  3. ตั้งกระทะ เปิดไฟอ่อน ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย แล้วใส่ไข่ที่ตีไว้ลงไป เกลี่ยให้ทั่วกระทะ รอจนไข่ด้านล่างสุกแล้ว พลิกกลับด้านทอดจนสุก ปิดเตา
  4. ตักใส่ชาม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ พร้อมทาน

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

คุณค่าทางโภชนาการของกะหล่ำปลี

กะหล่ำปลีดิบต่อ 100 กรัม ให้พลังงาน 25 กิโลแคลอรี และสารอาหารอื่น ๆ ดังนี้

  • คาร์โบไฮเดรต 5.8 กรัม
  • วิตามินซี 36.6 มิลลิกรัม
  • น้ำตาล 3.2 กรัม
  • ธาตุแคลเซียม 14 มิลลิกรัม
  • เส้นใย 2.5 กรัม
  • ธาตุเหล็ก 40 มิลลิกรัม
  • ไขมัน 0.1 กรัม
  • ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม
  • โปรตีน 1.28 กรัม
  • ธาตุแมงกานีส 0.16 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี1 0.061 มิลลิกรัม
  • ธาตุฟอสฟอรัส 26 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี2 0.040 มิลลิกรัม
  • ธาตุโพแทสเซียม 170 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี3 0.234 มิลลิกรัม
  • ธาตุโซเดียม 18 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี5 0.212 มิลลิกรัม
  • ธาตุสังกะสี 0.18 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี6 0.124 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี9 43 ไมโครกรัม
  • ฟลูออไรด์ 1 ไมโครกรัม

จบไปแล้วสาระดี ๆ ของกะหล่ำปลี เป็นผักที่ทานเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อแน่นอน แถมยังนำไปทำเมนูได้หลากหลาย หากใครอยากจะปลูกขายก็ทำได้ไม่ยากอีกด้วย ลองนำเคล็ดลับดี ๆ ที่เรามาแชร์วันนี้ไปลองทำกันดูนะจ๊ะ ติดตามสาระดี ๆ ได้อีกในบทความหน้านะจ๊ะ

บทความดี ๆ น่าอ่าน:

นอกจากนี้ SGE ของเรายังมี อุปกรณ์การเกษตร ให้เลือกสรรอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สแลนกันแดด กระถางผ้าปลูกต้นไม้ ผ้าคลุมดิน และอีกมากมายให้เลือกชมกัน พร้อมบริการดี ๆ หลังการขาย ที่แสนประทับใจอย่างแน่นอน สามารถเลือกชมสินค้าได้ www.sgethai.com

27 ตุลาคม 2023

โดย

ลำดวน

ความคิดเห็น (Comments)

Leave A Comment