เครื่องล้างผักโอโซน ดีจริงไหม ? ทำไมถึงสำคัญต่อ Food Safety
อัปเดตเมื่อ วันที่ 7 ตุลาคม 2025

“ความสะอาดและความปลอดภัยของวัตถุดิบ” คือหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องล้างผักโอโซน จึงเป็นผู้ช่วยสำคัญ ที่ช่วยล้างผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ได้ปริมาณมาก ลดสารตกค้าง ฆ่าเชื้อโรค และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการผลิตอาหาร
เครื่องล้างผักโอโซน คือ เครื่องจักรที่ออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ หรือวัตถุดิบในการประกอบอาหารในปริมาณมากอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูง สำหรับธุรกิจในระดับโรงงานอุตสาหกรรม, ครัวกลาง, หรือผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป ที่จำเป็นต้องใช้ผักผลไม้ในปริมาณมาก
หลักการทำงานของ เครื่องล้างผักโอโซน

ก่อนจะไปดูกันว่า เครื่องล้างผักโอโซน ดีจริงไหม มารู้หลักการทำงานกันก่อนสักหน่อยค่ะ เครื่องล้างผัก SGE ใช้หลักการระบบหมุนเวียนน้ำภายในตัวเครื่อง โดยเป็นระบบอ่างน้ำวน 360 องศา ที่จะปล่อยน้ำแรงดันสูงผ่านหัวฉีดตลอดการใช้งานเครื่อง ทำให้เกิดการหมุนวนของน้ำกระจายทั่วทั้งอ่าง เพื่อทำความสะอาดผักผลไม้ ขัดสี และดึงเอาสิ่งสกปรกที่ฝังแน่นอยู่บนผิวผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ออกไป แล้วหมุนเวียนน้ำผ่านตะแกรงกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง
ข้อดีของการใช้เครื่องล้างผักโอโซน
1.ด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย
- กำจัดสารเคมีและยาฆ่าแมลงได้มากกว่า ด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น โอโซน (Ozone) หรือ คลื่นอัลตราโซนิกส์ (Ultrasonics) ที่สามารถสลายโมเลกุลของสารเคมีตกค้างที่การล้างด้วยน้ำเปล่าไม่สามารถทำได้
- ฆ่าเชื้อโรคและจุลินทรีย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การล้างผักด้วยเครื่องล้างผักระบบโอโซน จะสามารถกำจัดสารตกค้างต่าง ๆ ได้สูงถึง 99.99% เพราะก๊าซโอโซนมีฤทธิ์ในการทำลายผนังเซลล์ของแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา
- ลดการปนเปื้อนจากมนุษย์ การใช้เครื่องล้างผัก ช่วยหลีกเลี่ยงการสัมผัสผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์โดยตรง จึงช่วยลดความเสี่ยงจากสารปนเปื้อน หรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนมือขณะทำการล้างผัก ให้ไม่ไปติดอยู่บนวัตถุดิบ
2.ด้านประสิทธิภาพและกำลังการผลิต
- ล้างได้ปริมาณมากในเวลาอันสั้น เครื่องล้างผัก ถูกออกแบบมาให้มีกำลังผลิตสูงประมาณหลายร้อยกิโลกรัมต่อชั่วโมง จึงช่วยประหยัดเวลาในการล้าง และรวดเร็วกว่าการใช้แรงงานคนหลายเท่า
- ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง การใช้กระแสน้ำวนจากหัวฉีดแรงดัน ที่คอยฉีดน้ำแรงดันตลอดการใช้งานเครื่อง จนเกิดการหมุนวนของน้ำกระจายทั่วทั้งอ่าง ช่วยขัดสีและดึงเอาสิ่งสกปรกที่ฝังแน่นติดอยู่กับผักผลไม้ ทำให้วัตถุดิบสะอาดสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ หรืออาหารทะเล
3.ด้านการประหยัดและควบคุมต้นทุน
- ประหยัดต้นทุนแรงงาน ถึงแม้ค่าเครื่องจะมีราคาสูง แต่ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงานคนได้ในระยะยาว
- ประหยัดการใช้น้ำ เครื่องส่วนใหญ่ จะมีระบบหมุนเวียนน้ำภายในตัวเครื่องและกรองสิ่งสกปรกผ่านตะแกรง ทำให้ในการเติมน้ำแต่ละครั้งสามารถใช้ล้างผักได้หลายรอบ จึงช่วยลดปริมาณการใช้น้ำเมื่อเทียบกับการล้างด้วยมือ หรือเครื่องที่ไม่มีระบบหมุนเวียนน้ำ
- ยืดอายุการเก็บรักษาวัตถุดิบ การใช้เครื่องล้าง สามารถฆ่าเชื้อโรค ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา ได้ดีเยี่ยม ช่วยชะลอการเน่าเสียของผัก ผลไม้ ทำให้วัตถุดิบมีความสดใหม่ยาวนานขึ้นและลดการสูญเสีย
4.ด้านคุณภาพและการปฏิบัติตามมาตรฐาน
- คุณภาพที่สม่ำเสมอ ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอและสามารถควบคุมมาตรฐานได้ตามที่กำหนดในทุกรอบการผลิต ทั้งจำนวนรอบการล้าง การปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ซึ่งยากต่อการควบคุมหากใช้แรงงานคน
- เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม การใช้เครื่องที่ผลิตจากวัตดุคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน และปลอดภัยต่อการใช้งานร่วมกับอาหาร ผ่านการรับรองช่วยให้โรงงานสามารถผ่านเกณฑ์การตรวจสอบด้านสุขอนามัยที่เข้มงวด ซึ่งจำเป็นสำหรับการส่งออกหรือการค้าในตลาดขนาดใหญ่
ข้อควรระวัง ของการใช้เครื่องล้างผักโอโซน
1.ด้านต้นทุนและการลงทุน
- ต้นทุนเริ่มต้นสูง เครื่องล้างผักระดับอุตสาหกรรมจะมีราคาที่สูงกว่าเครื่องล้างทั่วไปและอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องหรือต้นทุนที่สูง โดยเฉพาะรุ่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง รุ่นที่มาพร้อมระบบโอโซน หรืออัลตราโซนิกส์
- ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา เครื่องล้างผัก เมื่อใช้งานเป็นเวลาอาจมีการสึกหรอหรือเสื่อมสภาพไปตามความถี่ในการใช้และระยะเวลา จึงมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ที่สูง โดยเฉพาะกับเครื่องล้างผัก อุตสาหกรรม ที่มีความซับซ้อนและมีส่วนประกอบหลายอย่าง
- ค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน เครื่องขนาดใหญ่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากในการขับเคลื่อนระบบต่าง ๆ เช่น การสร้างฟองอากาศหรือระบบฆ่าเชื้อ ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
2. ด้านการดำเนินงานและความซับซ้อน
- ต้องใช้พื้นที่มาก เครื่องล้างผักโอโซน บางรุ่นมีขนาดที่ใหญ่และยาวเพื่อรองรับการใช้งานที่ต่อเนื่อง และมีหลายขั้นตอน ทำให้ต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้งมากกว่าอุปกรณ์ทั่วไป
- ต้องใช้บุคลากรที่มีทักษะ เนื่องจากเป็นเครื่องที่มีกระบวนการหลายหลาย และมีความซับซ้อน ผู้ที่ใช้งานจึงจำเป็นต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความเข้าใจในการใช้งานและดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
- การจัดการน้ำและของเสีย แม้จะมีระบบหมุนเวียนน้ำ แต่ก็ยังต้องจัดการน้ำทิ้งและเศษตะกอนที่ปนออกมา ซึ่งเป็นภาระงานและต้องทำตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม
3.ความเสี่ยงต่อวัตถุดิบ
- อาจทำให้วัตถุดิบเสียหาย ในการตั้งค่าหรือการใช้งาน หากตั้งค่าไม่ถูกต้องตามประเภทของวัตถุดิบ หรือแรงดันน้ำแรงเกินไป อาจทำให้วัตถุดิบเกิดความเสียหายได้
- ข้อจำกัดในการล้างวัตถุดิบหลายชนิด เครื่องล้างผักบางชนิด บางขนาดถูกจำกัดให้ล้างได้เฉพาะวัตถุดิบบางประเภทเท่านั้น และความจุหรือปริมาณในการล้างก็มีความแตกต่างกันออกไปตามขนาดของเครื่อง จึงต้องเลือกขนาดเครื่องให้เหมาะสมต่อการใช้งาน
⚠️นอกจากนี้ ควรเว้นระยะห่างขณะเครื่องทำงาน เนื่องจากก๊าซโอโซนมีความรุนแรง หากสูดดมโดยตรงอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
วิธีเลือกซื้อเครื่องล้างผักโอโซน
1.ขนาดและความจุ
เลือกความจุให้เหมาะสมกับปริมาณในการผลิต เช่น
- เครื่องล้างผักโอโซน สำหรับใช้ในครัวเรือน
- เครื่องล้างผักโอโซน ความจุ 210 ลิตร กำลังผลิต 150 กก./ชม. ราคา 39,900 บาท
- เครื่องล้างผักโอโซน ความจุ 273 ลิตร กำลังผลิต 180 กก./ชม. ราคา 45,900 บาท
- เครื่องล้างผักโอโซน ความจุ 336 ลิตร กำลังผลิต 230 กก./ชม. ราคา 51,900 บาท
⚠️หมายเหตุ ราคานี้เป็นราคา ณ วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2568
2.ประเมินเทคโนโลยีและประสิทธิภาพการทำความสะอาด
- หากต้องการกำจัดสารเคมีและฆ่าเชื้อโรค ควรเลือกเครื่องที่มีระบบโอโซนหรือ UV
- เครื่องที่ดีควรมีระบบกรองน้ำ แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อช่วยประหยักน้ำ
- ควรมีการตั้งค่าให้สามารถปรับ แรงดันน้ำ อุณหภูมิ ความเร็วได้ เพื่อรองรับวัตถุดิบแต่ละประเภท
3.วัสดุและการออกแบบ
- ควรทำจากสแตนเลสเกรด 304 เป็นอย่างน้อย หรือ 316 สำหรับส่วนที่สัมผัสสารเคมีหรือมีความชื้นสูงมาก
- รอยเชื่อมต้องเรียบ ไม่มีซอกมุมอับที่น้ำขังหรือสิ่งสกปรกตกค้างได้ง่าย
- มีระบบป้องกันน้ำเข้าส่วนไฟฟ้า (ระดับ IP rating) และมีปุ่มหยุดฉุกเฉิน
4.บริการหลังการขายและการรับประกันสินค้า
- บริการและอะไหล่: เลือกรุ่นและแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีทีมช่างที่พร้อมให้บริการในประเทศ รวมถึงการสำรองอะไหล่
- การรับประกัน: ตรวจสอบระยะเวลาการรับประกันและเงื่อนไขความคุ้มครองของเครื่องจักรอย่างละเอียด
เครื่องล้างผัก อุตสาหกรรม SGE
เครื่องล้างผัก อุตสาหกรรม SGE มีระบบโอโซน ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ถึง 99.99% ให้วัตถุดิบสดใหม่ปลอดเชื้อและสารเคมี มาพร้อมระบบน้ำหมุนเวียน ประหยัดน้ำมากขึ้น และสามารถล้างผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ได้ทุกประเภท คุ้มค่าตอบโจทย์การใช้งานสำหรับธุรกิจอาหารได้เป็นอย่างดี

ความจุ: 210, 273, 336 ลิตร
กำลังไฟฮีตเตอร์: 3.0 กิโลวัตต์
กำลังผลิต: 150, 180, 230 กก./ชม.
วัสดุ: สแตนเลส 201, สแตนเลส 304
ราคา: 39,900-62,900 บาท
รับประกัน: 1 ปี
สรุป เครื่องล้างผักโอโซน ดีจริงไหม
จากที่กล่าวมาข้างต้นจึงสรุปได้ว่า เครื่องล้างผักโอโซน มีประสิทธิภาพในการช่วยกำจัดสารเคมี สิ่งปนเปื้อน เชื้อโรค และยาฆ่าแมลง ได้ดีกว่าการล้างด้วยน้ำเปล่าแบบทั่วไป โดยก๊าซโอโซนจะสลายตัวเป็นออกซิเจนจึงไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตราย ทำให้วัตถุดิบสะอาด ปลอดภัย ไร้สารพิษปนเปื้อน ได้มาตรฐานความปลอดภัย ในระยะเวลาอันสั้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องเลือกซื้อเครื่องให้เหมาะสมกับการใช้งาน และเรียนรู้การใช้งานอย่างถูกวิธี เพื่อให้เครื่องล้างผัก สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารสำคัญ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สามารถติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย




