

เตาอบขนม เตาอบเบเกอรี่ อับดับ 1
เตาอบไฟฟ้า เตาอบเบเกอรี่ รุ่นอุตสาหกรรม
เตาอบ ของเราผลิตจากสแตนเลสแท้ ทนทานนับ 10 ปี พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ ดิจิตอลแม่นยำสูง กระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึง กำลังผลิตสูงเหมาะสำหรับธุรกิจเบเกอรี่ทุกประเภท ทดลองใช้งานฟรี ! ได้ที่ Showroom ของเรา
เตาอบแก๊ส เตาอบเบเกอรี่ ควบคุมไฟฟ้า
เตาอบแก๊สควบคุมไฟฟ้า เตาอบเบเกอรี่ ควบคุมอุณหภูมิได้ง่ายและแม่นยำ ทำความร้อนได้เร็ว ช่วยลดต้นทุนค่าแก๊สได้เป็นอย่างดี
เตาอบ Convection หรือ เตาเทพ
เตา Convection เป็นเตาอบระดับ Premium ที่สามารถทำความร้อนได้รวดเร็วที่สุด กระจายความร้อนด้วยพัดลม ติดตั้งมาพร้อมกับหัวพ่นละอองน้ำ รองรับการอบได้ทุกเมนู
7 เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อเตาอบเบเกอรี่

1. เตาอบ Convection และ เตาอบเบเกอรี่ทั่วไป ต่างกันอย่างไร?

ต้องบอกก่อนว่า เตาอบคอนเวคชั่น และ เตาอบเบเกอรี่ทั่วไป เป็นเตาอบเบเกอรี่เหมือนกัน ต่างกันในเรื่องของ “ระบบนำความร้อน” และ “ฟังก์ชันการทำงาน” เรามาดูข้อแตกต่างดังนี้
เตาอบเบเกอรี่ทั่วไป (Traditional) เป็นเตาอบที่มีจุดทำความร้อนอยู่ด้านบนและด้านล่าง สามารถปรับความร้อนแยกได้ ทำให้จุดเด่นของเตาแบบนี้คือการเล่นกับไฟ แต่หากอยากอบขนมพร้อมกันเยอะ ๆ ต้องคอยสลับถาดระหว่างอบ เพื่อให้ขนมสุกเท่ากันทุกถาด เตาอบเบเกอรี่ทั่วไป มีให้เลือกทั้ง ระบบแก๊สควบคุมด้วยวาล์ว(ไม่นิยมเพราะอุณหภูมิไม่เสถียร), ระบบไฟฟ้า 100% และ ระบบแก๊สควบคุมไฟฟ้า
- ระบบทำความร้อนอยู่ “ด้านบน “ และ “ด้านล่าง” ของเตา (ไม่มีพัดลม)
- ตั้งไฟบน – ไฟล่าง ได้อิสระ เล่นกับไฟได้ เลือกได้ว่าอยากให้ขนมสุกแบบไหน
- มีจุด Hotspots (จุดที่อุณหภูมิสูงที่สุด) อาหารที่อยู่วางใกล้ฮีตเตอร์ จะสุกไวกว่า
- หากอบขนมเยอะ ต้องพลิกขนมหรือสลับถาด 3-4 ครั้ง เพื่อให้ขนมสุกเท่ากัน
- ใช้อบเค้ก (Cake) หรือ เบเกอรี่ประเภท Quick Bread เช่น บิสกิต มัฟฟิน สโคน
- ขนมอบโลฟ (Loaf) เช่น ขนมปังปอนด์แถว ขนมปังแซนด์วิช ขนมปังรำ ขนมโดนัท เครป แพนเค้ก วาฟเฟิล หรือขนมปังที่ใช้ผงฟู
- อบขนมฟลาน (Flan) เช่น ทาร์ตไข่ คัสตาร์ด ครีมคาราเมล ฯลฯ
เตาอบคอนเวคชั่น Convection เป็นเตาอบที่มีพัดลมกระจายความร้อนภายในเตา ทำให้อุณหภูมิในห้องอบเท่ากันทุกจุด ไม่ว่าจะวางขนมตรงไหนก็จะได้ความร้อนเท่ากัน สุกพร้อมกัน ไม่ต้องคอยสลับถาดเหมือนเตาอบทั่วไป เตาอบคอนเวคชั่น ยังมีระบบสเปรย์น้ำ ช่วยสร้างความชื้นในห้องอบ เหมาะกับการอบขนมปังบาแก็ตและครัวซองต์ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ เพิ่มความสะดวก เช่น จดจำค่าอุณหภูมิและเวลาการอบอัตโนมัติ ระบบพรูฟแป้ง ฯลฯ
- ระบบทำความร้อน + พัดลม หมุนเวียนอากาศภายใน กระจายความร้อนทั่วเตา
- อุ่นเครื่อง (Preheat) เร็ว และ อบขนมเสร็จไวกว่าเตาอบทั่วไปถึง 25 %
- ลมร้อนทำให้ขนมทุกถาดสุกเท่ากัน ขนมสีน้ำตาลสวย กรอบนอกนุ่มใน
- หากเป็นสูตรขนมสำหรับเตาอบทั่วไป เมื่อใช้เตาอบลมร้อน ให้ลดอุณหภูมิลง 25°F
- เหมาะกับการอบขนมประเภท เพสทรี ครัวซองต์ แป้งพัฟ แป้งพาย แป้งเดนิช คุ้กกี้ พิซซ่า มาการอง เมอแร็งก์ ฯลฯ
- ไม่เหมาะกับการอบขนมที่ต้องการความร้อนช้า ๆ หรือมีทิศทางความร้อนที่เฉพาะ
- ไม่เหมาะกับ ชูครีม หรือเบเกอรี่ตั้งยอด เพราะแรงลมร้อนจะทำให้ ชูครีม เสียรูปทรง
…
2. ความแตกต่างของวัสดุที่ใช้ผลิต “ถาดอบขนม”

การอบเบเกอรี่ อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลยนั้นก็คือ ถาดอบขนม ในส่วนของถาดอบขนมก็มีให้เลือกหลายหลายแบบทั้ง ถาดแบน ถาดหลุม ถาดอบเค้ก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับชนิดของขนมที่ต้องการอบ และการผลิตถาดอบนั้นก็มีหลายวัสดุที่นำมาผลิต จึงจำเป็นที่ต้องรู้ว่าคุณสมบัติแต่ละวัสดุต่างกันอย่างไรบ้าง
1. ถาดอบสแตนเลส(Stainless steel Baking Tray) ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน อายุการใช้งานยาวนานไม่เป็นสนิม ไม่ทำปฏิกิริยากับกรด พื้นผิวถาดจะไม่มีการหลุดลอก เแต่อาจกระจายความร้อนได้ไม่ดีเท่ากับ ถาดอะลูมิเนียม
2. ถาดอบอะลูมิเนียม(Aluminum Baking Tray) ได้รับความนิยมสูงในหมู่คนทำเบเกอรี่ เพราะวัสดุอะลูมิเนียม สามารถนำความร้อนได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้การอบขนมหรืออาหารสุกเท่ากันอย่างสม่ำเสมอ น้ำหนักเบา (เบากว่าสแตนเลสประมาณ 33 %) และราคาถูก และ มีถึง 2 แบบ
2.1 แบบเรียบ ถาดอบขนมแบบพื้นฐาน นิยมใช้อบอาหารและเบเกอรี่ทั่วไป พื้นผิวเรียบ ทำความสะอาดง่าย ของเหลวไม่ไหลลงเตาอบ
2.2 แบบเจาะรู ถาดอบแบบเจาะรู ความร้อนเข้าสู่ขนมไวขึ้น ระยะเวลาอบลดลง อาหารและขนมสุกเร็ว ก้นขนมกรอบ ไม่แฉะ หรือชื้นจนเกินไป
3. เถาดอบเหล็กเคลือบอีนาเมล(Enamel Baking Tray) ผลิตจากเหล็กหนาที่มีคุณภาพ เคลือบด้วยอีนาเมล (Enamel Coating) ซึ่งเป็นการเคลือบแก้วลงบนถาด เพื่อให้ถาดมีความทนต่อกรด ด่าง ไร้การปนเปื้อนของเนื้อโลหะ Non – Stick (สารกันติด) ช่วยให้ขนมไม่ติดถาด ล้างทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นสนิม มีความปลอดภัยสูง ทนทานต่อการกัดกร่อน ทำความร้อนได้ดี กระจายความร้อนทั่วถึง ทนกรด ทนรอยขีดข่วน เป็นถาดอบสมัยใหม่ รูปลักษณ์สวยงาม ใช้เป็นถาดอบ หรือ ใช้เสิร์ฟก็ได้ ข้อควรระมัดระวังในการใช้งาน หากตกหรือกระแทกแรง ๆ พื้นผิวอาจหลุดล่อนได้
3. วิธีตรวจสอบสเปคเตาอบ กับ ระบบไฟในบ้าน

ก่อนซื้อเตาอบเบเกอรี่มาใช้ อย่าลืมสังเกตแรงดันไฟ หรือ ค่าโวลต์ (V) ของเตาอบ เพราะเตาอบบางรุ่นมีขนาดใหญ่ ใช้ไฟเยอะ หากเรานำไปใช้แบบไม่ดูดี ๆ ล่ะก็ ไฟดับทั้งบ้านแน่นอน สำหรับลูกค้าที่ยังไม่รู้วิธีการสังเกต วันนี้เราจะมาแชร์เทคนิคกัน บอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิด ในขั้นแรกเราต้องดูว่าเตาอบเครื่องนั้นมีค่าโวลต์เท่าไหร่ จากนั้นให้นำมาเปรียบเทียบกับมิเตอร์ไฟที่บ้านได้เลย หากค่าโวลต์มีขนาดเท่ากัน หรือ ค่าโวลต์ในมิเตอร์ไฟฟ้าเยอะกว่า แสดงว่าสามารถใช้ได้
สำหรับโรงงานที่ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายอย่างพร้อมกัน การสังเกตแค่ค่าโวลต์อย่างเดียวอาจจะไม่พอ เราต้องคำนวณกระแสไฟฟ้า หรือ ค่าแอมป์ (A) ด้วย เพราะในแต่ละวันเราไม่ได้เปิดแค่เตาอบเครื่องเดียว เราเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ร่วมด้วย ทำให้กระแสไฟฟ้าโดยรวมเยอะขึ้น หากกระแสไฟฟ้าโดยรวมมีค่าน้อยกว่ามิเตอร์ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเยอะเกินก็จะทำให้ไฟดับได้
สูตรคำนวณกระแสไฟฟ้า A = W / V (จำนวนวัตต์หารด้วยโวลต์)
ตัวอย่าง เตาอบกำลังไฟฟ้า 3,200 วัตต์ แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ คำนวณเป็นแอมป์จะได้ 3,200(W) / 220(V) ≈ 14.5 แอมป์ ถ้าขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าเป็น 15(45) แสดงว่า เราสามารถใช้เตาอบรุ่นนี้ได้ เพราะใช้ไฟสูงสุดได้ 30 แอมป์ (จำนวนแอมป์ที่เหลือสำรองสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ)

4. วิธีคำนวณอัตราค่าไฟของเตาอบ
อัตราการกินไฟขึ้นอยู่กับกำลังวัตต์ของเตาอบ สามารถดูค่าวัตต์จากรายละเอียดสินค้าหน้าเว็บได้เลย เมื่อรู้ค่าวัตต์แล้ว คำนวณได้ง่าย ๆ ดังนี้
กำลังไฟฟ้า (วัตต์ ) x จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้า ÷ 1000 x จำนวนชั่วโมงที่ใช้ใน 1 วัน = จำนวนหน่วยต่อวัน (ยูนิต)
ตัวอย่าง เตาอบไฟฟ้า 3,200 วัตต์ จำนวน 1 เครื่อง ใช้งาน 3 ชั่วโมง/วัน (ค่าไฟฟ้าในขณะนั้น 4.77 บาทต่อยูนิต )
3,200 (วัตต์ ) x 1 ÷ 1000 x 3 = 9.6 ยูนิต
9.6 x 4.77 = 45.792 บาท (ตกชั่วโมงละ 15.264 บาท)
*เป็นการคำนวณค่าไฟฟ้าในเบื้องต้น ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าใช้จ่ายที่การไฟฟ้านครหลวงเรียกเก็บ เช็กอัตราค่าไฟฟ้าล่าสุดได้ที่* การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
5. อายุการใช้งานของเตาอบ

- เตาอบไฟฟ้า อายุการใช้งานเฉลี่ย ประมาณ 15 ปี (ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลรักษา)
- เตาอบแก๊ส อายุการใช้งานประมาณ 15 – 20 ปี (ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลรักษา)
6. ข้อแนะนำและข้อควรรระวังก่อนใช้งานเตาอบ

- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบไฟฟ้าของสถานที่ที่จะติดตั้งตรงกับสเปคของเตาอบ
- ควรติดตั้งเบรกเกอร์ สำหรับเตาอบที่มีกำลังไฟฟ้า 3,000 วัตต์ขึ้นไป
- การเลือกตำแหน่งในการติดตั้ง ควรเว้นระยะห่างระหว่างตัวเครื่องกับผนังอย่างน้อย x เมตร เพื่อให้อากาศสามารถหมุนเวียนและระบายความร้อนได้ดี
- เสียบปลั๊กเตาอบกับเต้ารับโดยตรง ไม่ควรต่อพ่วงสายไฟหรือใช้ปลั๊กสามตาในการติดตั้ง
- การใช้งานเตาอบในครั้งแรก แนะนำให้ “เผาเตาอบ” เพื่อทำลายสารเคลือบที่เกิดจากกระบวนการผลิต โดยการเปิดเครื่อง เปิดโปรแกรมไฟทั้งบน-ไฟล่าง ปรับอุณหภูมิให้เป็น 200 °C ประมาณ 30-60 นาที (อาจมีกลิ่นและควันออกมาจากเตาอบ เกิดจากการเผาไหม้สารเคลือบฮีตเตอร์ ซึ่งเป็นปกติและไม่เป็นอันตราย) เมื่อครบเวลาให้ปิดเครื่องแล้วปล่อยให้เตาอบหายร้อน จากนั้นนำถาดและตะแกรงออกมาล้างทำความสะอาด *SGE มีบริการเผาเตาอบให้ทุกครั้งก่อนนำส่งลูกค้า
- เตาอบทุกประเภท ต้องอุ่นเครื่องก่อนอบ เพื่อให้อาหารสุกตามอุณหภูมิที่ถูกต้อง
- อย่าเปิดฝาเตาอบหากไม่จำเป็น เพราะความร้อนจะรั่วไหลออก ทำให้อุณหภูมิตกกะทันหัน
- แนะนำให้ใช้ ”เทอร์โมมิเตอร์” (Oven Thermometer) วางไว้ในเตาอบขณะอบอาหารหรือเบเกอรี่ เพื่อเช็กอุณหภูมิจริงภายในเตา
- การซ่อมแซมหรือบํารุงรักษาควรทําโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย
7. วิธีดูแลรักษาเตาอบให้ใช้ได้นาน

- หลังจากใช้งานเตาอบเสร็จเแล้ว ให้ปิดแก๊ส ปิดไฟให้สนิท และอย่าลืมดึงปลั๊กออกทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน
- รักษาซีลเตาอบให้สะอาดเสมอ ตรวจสอบพัดลมว่ามีสิ่งอุดตันหรือกีดขวางหรือไม่ หากมีสิ่งอุดตันหรือเกาะช่องพัดลมอยู่ ให้เช็ดออกให้สะอาด
- หากเตาอบมีคราบฝังแน่น ให้ใช้ใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำอุ่น นำไปทาให้ทั่ว ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำสะอาดบิดหมาดเช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง
- ตะแกรงวางอาหาร, ถาดอบ, ถาดรองเศษอาหาร ทำความสะอาดได้โดยการนำไปล้างเช่นเดียวกับกับเครื่องครัวทั่วไป
- ห้ามใช้น้ำยาทําความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนหรืออุปกรณ์ที่มีความคมในการทำความสะอาดทั้งตัวเครื่องภายในและภายนอก
รีวิวการใช้งาน เตาอบขนม
การรับประกัน / บริการหลังการขาย

ประกันศูนย์ไทย 1 ปี โดยทีมช่างผู้เชียวชาญ

ประกันศูนย์ไทย 1 ปี โดยทีมช่างผู้เชียวชาญ

อะไหล่สินค้าพร้อม ไร้กังวลเรื่องอะไหล่หายาก

บริการหลังการขาย ดูแลลูกค้าหากเกิดปัญหา



(FAQ) คำถามที่พบบ่อย
** ข้อควรรู้ก่อนซื้อตู้แช่ไวน์ ห้ามพลาดข้อมูลนี้ **
เกี่ยวกับ SGE
แบรนด์ SGE หรือ Spring Green Evolution มิตรแท้ SME ไทย ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องจักรแปรรูปอาหารทุกชนิดในราคามิตรภาพ พร้อมจุดเด่นของแบรนด์คือ บริการหลังการขาย ทำให้ให้ธุรกิจคุณลื่นไหล ไม่มีสะดุด มั่นใจว่าเครื่องจักรในการผลิตนั้นจะมีอะไหล่และทีมซัพพอร์ต ดูแลตลอดอายุการใช้งาน ลงทุนครั้งเดียว คุ้มไปอีกนาน

การันตีลูกค้ามากกว่า 200,000 คน และ ช่องทางไลน์ OA กว่า 109,415 คน ไว้ใจในแบรนด์สินค้าและบริการของ SGE มีรีวิว 5 ดาวมากกว่า 618 รายช่องทาง Google
แผนที่เดินทางมาโชว์รูม

