ประโยชน์ดี ๆ “หล่อฮังก๊วย” หวาน อร่อย เป็นเบาหวานก็ทานได้!

รู้จักหล่อฮังก๊วย

❝ ประโยชน์ดี ๆ จากหล่อฮังก๊วย ที่ควรรู้! สำหรับคนรักสุขภาพทั้งหลาย แม้ต้องหลีกเลี่ยงการบริโภคแป้งที่มากเกินไป หรือแม้แต่ต้องระวังในการบริโภคน้ำตาลที่มากเกินไป เพราะอาจจะเป็นตัวการทำร้ายสุขภาพของเรา มีความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวานอีกด้วย ❞

หลายคนจึงเริ่มมองหาเครื่องดื่มที่ปราศจากน้ำตาลแต่ยังคงความหวานจากธรรมชาติอยู่ เราจึงนึกถึง หล่อฮังก๊วย สรรพคุณดี ๆ และมีประโยชน์มากมายที่ใครยังไม่รู้ วันนี้ SGE จะพาไปรู้จักกัน . . . 🥰

หล่อฮังก้วย(Lou Hun Guo)

ภาษาอังกฤษว่า monk fruit เป็นสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นสารทดแทนความหวานที่ใช้แทนน้ำตาลได้ ทำให้ดีต่อสุขภาพ ซึ่งหล่อฮังก๊วยให้รสหวานที่มากกว่าน้ำตาลในธรรมชาติ 250 เท่า แต่ความหวานนี้จะไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด จึงดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน นอกจากนี้ยังให้พลังงานต่ำ และมีประโยชน์ต่าง ๆ อีกมากมาย เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการจำกัดปริมาณน้ำตาลในการบริโภค หรือช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย

เนื่องจากหล่อฮังก๊วย  เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น โดยมีสรรพคุณต่าง ๆ ดังนี้

👍 ต้านอนุมูลอิสระ
หล่อฮังก๊วย มีสารโมโกรไซด์ (Mogroside) ซึ่งเป็นสารให้ความหวานตามธรรมชาติ เป็นน้ำตาลในกลุ่มฟรุกโตส และกลูโคส มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ ซึ่งหากในร่างกายมีสารอนุมูลอิสระมากเกินไป จะทำให้เซลล์ต่าง ๆ เกิดความเสียหายได้ และก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา ซึ่งสรรพคุณงาดำก็เป็นธัญพืชที่มากไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน สามารถหามาทานกันได้ เป็นอีกอาหารที่มากประโยชน์เช่นเดียวกับหล่อฮังก๊วย

👍 ต้านภูมิแพ้
สามารถลดการหลั่งฮิสตามีน หรือสารก่อภูมิแพ้ จากเซลล์แมสต์ได้

👍 ต้านมะเร็ง
สารไมโกรไซด์ (Mogroside) ในผลหล่อฮังก๊วยสามารถยังยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก โดยการทดลองในสัตว์ และพบว่าสัตว์ที่ได้รับไมโกรไซด์ เกิด เนื้อบุเนื้องอก (papilloma) น้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับสารสกัดนี้ จึงทำให้เห็นคุณสมบัติการป้องกันมะเร็งจากสารเคมีที่ทำให้เกิดมะเร็งได้

👍 ต้านโรคอ้วน
สารไมโกรไซด์ (Mogroside) ในผลหล่อฮังก๊วย สามารถยับยั้งเอนไซม์ไลเปสจากตับอ่อน จึงทำให้หยุดการเพิ่มน้ำหนัก ลดการสะสมไขมันและระดับไขมันในเลือดได้

👍 ต้านการอักเสบ
หล่อฮังก๊วยเป็นสมุนไพรที่ช่วยต้านการอักเสบได้ ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการไอ เจ็บคอ และช่วยละลายเสมหะ เพราะสารโมโกรไซด์ (Mogroside) ในผลหล่อฮังก๊วยนั้นมีรสหวานชุ่มคอ แก้อาการร้อนในและกระหายน้ำได้ จึงนิยมนำมาต้มทำเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร เพื่อบำรุงร่างกายและดับกระหาย และยังเป็นเครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพอีกด้วย เพราะไม่ต้องใส่น้ำตาล อาศัยความหวานจากธรรมชาติได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยแก้อาการท้องผูกได้ดี มีสรรพคุณคล้ายชาดอกกุหลาบนั่นเอง

👍 ลดความเหนื่อยล้า
สารในหล่อฮังก๊วยสามารถช่วยเพิ่มการสะสมไกลโครเจนในตับและกล้ามเนื้อ ซึ่งทำให้มีพลังงานมากขึ้น ซึ่งมักนำไปใช้ในแวดวงการกีฬา เพื่อเพิ่มพลังงาน เป็นต้น

👍 สรรพคุณที่ดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน
การกินน้ำตาลมากเกินไป หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะอ้วน อาจยังส่งผลไม่ดีต่อผู้ป่วยเบาหวานอีกด้วย รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ได้ ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานระมัดระวังในการบริโภคน้ำตาลมากขึ้น และมองหาสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลมาใช้ในการปรุงอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือด หนึ่งในนั้นก็คือ หล่อฮังก๊วย ที่สามารถนำมาใช้ทดแทนน้ำตาลได้อย่างปลอดภัย

👍 ปรับสมดุลการทำงานของร่างกาย
โพลีแซคคาไรด์จากหล่อฮังก๊วย มีคุณสมบัติช่วยในการปรับสมดุลการทำงานและกระตุ้นของภูมิคุ้มกัน เช่น

• เพิ่มประสิทธภาพการจับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายได้
• เพิ่มจำนวนลิมโฟซัยท์ทั้ง T-Cell และ B-Cell ในเซลล์ม้าม (splenic lymphocyte) และเพิ่มการผลิตไนตรกออกไซต์ไดมิวเตสในเซลล์ม้ามและเซลล์ต่อมไทมัส เพื่อทำการกำจัดอนุมูลอิสระ
• เพิ่มการผลิตไซโตไคน์ IL-2 ซึ่งกระตุ้นการทำงานของเซลล์คุ้มกัน T-Cell, B-Cell และ NK Cell ลดการผลิต IL-1 ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบแบบฉียบพลัน

👍 นำไปใช้ในการแพทย์แผนโบราณ
ในการแพทย์มักนำผลของหล่อฮังก๊วยไปตากแห้ง หรือลนไฟจนแห้ง สามารถนำมาต้มหรือผสมกับจับเลี้ยง ทำเป็นเครื่องดื่ม แก้ร้อนใน บรรเทาอาการไอ เสียงแหบแห้ง บรรเทาอาการหลอดลมอักเสบ แก้โรคทางเดินหายใจ ช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหารช่วงล่าง เช่นอาการทวารหย่อน เป็นต้น

วิธีการกินหล่อฮังก๊วยให้ถูกวิธี

การกินหล่อฮังก๊วยให้ถูกวิธีนั้น เนื่องจากหล่อฮังก๊วยในรูปแบบผลสดจะมีรสชาติค่อนข้างขม จึงนิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร เพราะดื่มได้ง่ายกว่า และยังดีต่อสุขภาพ เพราะมีแคลลอรี่ต่ำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด ให้พลังงาน และความสดชื่น ดื่มได้ทุกคนในปริมาณที่เหมาะสม แต่อาจไม่เหมาะกับคนที่มีโรคประจำตัว ซึ่งสามารถทำเครื่องดื่มจากหล่อฮังก๊วยได้ง่าย ๆ คือ

• ล้างหล่อฮังก๊วยให้สะอาด และนำมาทุบหรือฉีกให้เป็นชิ้น ๆ พักไว้
• ใส่หล่อฮังก๊วยลงไปต้มน้ำสะอาดประมาณ 1 ลิตร หากใครต้องการทำเป็นชาสามารถใส่ส่วนผสมอื่นๆ ในขั้นตอนนี้ได้เลย เช่น ดอกเก๊กฮวย, มะเดื่อแห้ง
• เมื่อต้มจนน้ำเดือดแล้ว จากนั้นกรองด้วยผ้าขาวบาง ก็จะได้เครื่องดื่มตามต้องการ จะดื่มเป็นเครื่องดื่มเย็นดับกระหายก็ได้ เพียงเติมน้ำแข็ง หรือดื่มแบบร้อนได้เช่นกัน และเมื่อเครื่องดื่มที่ต้มเย็นลงแล้วนั้น สามารถใส่ขวดเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 3-4 วัน
• หล่อฮังก๊วยสรรพคุณในการใช้เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล

นอกจากจะนิยมนำหล่อฮังก๊วยมาทำเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรแล้ว ยังได้มีการนำมาสกัดเป็น สารให้ความหวาน แทนน้ำตาลอีกด้วย เพราะให้ความหวานได้เหมือนน้ำตาล โดยที่เราสามารถนำไปประกอบอาหาร ทำขนม หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ได้ และได้รับความนิยมสูงในหมู่ผู้ที่ลดน้ำหนัก รวมไปถึง กลุ่มคนที่กินคีโต เพราะทำให้เราสามารถหลีกเลี่ยงการใช้น้ำตาลที่มีทั้งพลังงานสูง และเสี่ยงต่อเบาหวานอีกด้วย แต่สารให้ความหวานจากหล่อฮังก๊วยนั้นให้ความหวานกว่าน้ำตาลถึง 250 เท่า ทำให้เวลาที่เราจะนำไปใส่ในอาหารหรือเครื่องดื่มจึงควรใช้ทีละน้อย เพื่อให้ได้ความหวานที่พอดี

ข้อควรระวัง

แม้ว่าหล่อฮังก๊วยสรรพคุณจะมากมาย และเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็มีข้อควรระวังในการกินเช่นกัน แม้ว่าองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา รับรองว่า หล่อฮังก๊วย เป็นสมุนไพรที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน แต่การบริโภคหล่อฮังก๊วย ยังมีข้อยกเว้นในบางคน เช่น ผู้ที่ตับอ่อนทำงานผิดปกติ เนื่องมาจากทำงานหนักมากเกินไป หากทานหล่อฮังก๊วยปริมาณมากเกินไปนั้น ร่างกายจะสร้างอินซูลินมากเกินความต้องการ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลงได้ ส่งผลให้มีอาการหน้ามืด เวียนศีรษะ รวมถึงอาจเสี่ยงให้เกิดอาการแพ้ในบางคนได้ หากแพ้พืชในตระกูลแตงต่าง ๆ ใครที่มีอาการแพ้ เช่น หายใจติดขัด อาเจียน ปวดท้อง ชีพจรเต้นช้าหรือเร็วผิดปกติ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว ดังนั้นในคนทั่วไปจึงควรทานในปริมาณที่เหมาะสม และสำหรับคนที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานเสมอ เพื่อความปลอดภัย

รู้หรือไม่ ? หล่อฮังก๊วยตามธรรมชาตินั้น จะไม่มีคาร์โบไฮเดรต และน้ำตาล แต่เครื่องดื่มหล่อฮังก๊วยสำเร็จรูป ที่วางขายตามท้องตลาด มักจะผสมน้ำตาลมาด้วย เพราะฉะนั้น ควรเลือกซื้อให้ดี และอ่านฉลากก่อนซื้อทุกครั้ง หรือวิธีที่ดีกว่า คือ ต้มทำเครื่องดื่มเอง เพื่อมั่นใจได้ว่า ไม่มีน้ำตาล หรือส่วนผสมอื่น ๆ เจือปน เคล็ดลับการต้มหล่อฮังก๊วยไม่ให้มีรสขม คือ ควรทุบผลให้แตก และอย่าต้มนานเกินไป เพราะจะทำให้น้ำมีรสขมจนไม่สามารถดื่มได้