5 เมนูข้าวโอ๊ต มื้อเช้าสุขภาพดี อร่อยได้ประโยชน์

เมนูข้าวโอ๊ต ถือเป็นเมนูมื้อเช้ายอดฮิตที่นิยมรับประทานมาก ๆ โดยเฉพาะชาวตะวันตก ซึ่งข้าวโอ๊ตนั้น สามารถทำเมนูได้หลากหลาย ไม่ว่าจะนำไปต้ม ทานคล้าย ๆ โจ๊ก เสริมความอร่อยด้วยผลไม้ต่าง ๆ หรือนำไปอบ ทำเป็นคุกกี้ไว้ทานยามว่างก็ได้ และด้วยความมีคุณค่าทางอาหารสูง ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการทานอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย

คุกกี้โอ๊ตมีล

มาเริ่มทำ เมนูข้าวโอ๊ต กันแบบง่าย ๆ ด้วยเมนูคุกกี้กันเลยกับ คุกกี้โอ๊ตมีล ที่จะได้เนื้อสัมผัสของข้าวโอ๊ตแบบเต็ม ๆ คำ พร้อมกลิ่นหอมและรสชาติจากน้ำมันมะพร้าว และกลิ่นวานิลลา ทานคู่กับกาแฟ ชาในตอนเช้า รับรองว่าฟิน

ส่วนผสม

• ข้าวโอ๊ตบดละเอียด 130 กรัม
• เมล็ดข้าวโอ๊ต 100 กรัม
• ผงฟู 3/4 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันมะพร้าว 90 กรัม
• น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วยตวง (50 – 90 กรัม)
• นมสด 2-3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. นำข้าวโอ๊ต 130 กรัม ใส่เครื่องปั่น แล้วปั่นให้ละเอียด จากนั้น ทำการร่อน จนได้แป้งข้าวโอ๊ตเนื้อละเอียด ใส่ลงในชามผสม
2. ใส่เมล็ดข้าวโอ๊ตลงไป ตามด้วยผงฟู เกลือ น้ำตาลทรายแดง คนให้เข้ากัน
3. ใส่กลิ่นวานิลลา นมสด น้ำมันมะพร้าว เสร็จแล้ว ใช้ไม้พายคนส่วนผสมให้เข้ากัน จนเริ่มได้เนื้อแป้งที่ข้นเหนียว
4. ใช้มือจับแป้งขึ้นมาปั้นเป็นก้อนกลม วางลงบนถาดอบขนม แล้วใช้มือบี้ลงไปจนเป็นแผ่นคุ้กกี้ จากนั้น นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศา เป็นเวลา 18 – 22 นาที
5. พอครบเวลา ให้นำคุ้กกี้ออกมาพักให้เย็น เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ คุกกี้โอ๊ตมีล เพิ่มเติมคลิก

บานาน่าโอ๊ตมีลแพนเค้ก

แพนเค้ก ถือเป็นอาหารยอดนิยมของใครหลายคน ซึ่งถ้าเกิดเบื่อแป้งผสมกับไข่ มาทำแพนเค้กแล้ว แนะนำให้ลองผสมข้าวโอ๊ตกับกล้วยหอมดูบ้าง รับรองว่านอกจากได้ความอร่อยแล้ว ยังได้กลิ่นหอมและสารอาหารที่มีประโยชน์จาก เมนูข้าวโอ๊ต นี้มากกว่าเดิม

ส่วนผสม

• ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วยตวง
• กล้วยหอม 2 ใบ
• ไข่ขาว 1 ถ้วยตวง
• ผงซินนาม่อน 1/2 ช้อนชา
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• เกลือ 1/8 ช้อนชา
• เมล็ดวอลนัทบด 1/4 ถ้วยตวง
• น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ปอกเปลือกแล้วหั่นกล้วยเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยไข่ขาว เมล็ดข้าวโอ๊ต ผงซินนาม่อน ผงฟู เกลือ เสร็จแล้ว ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้ละเอียด จนได้เนื้อครีมเนียนข้น
2. นำถั่ววอลนัทมาบดให้ละเอียด แล้วใส่ลงเครื่องปั่น คนให้เข้ากัน
3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันมะพร้าวลงไป แล้วตักเนื้อครีมลงในกระทะ เป็นแผ่นกลมตามขนาดที่ต้องการ ทอดให้สุกทั้ง 2 ด้าน
4. จัดเสิร์ฟ ตักแพนเค้กใส่จาน หั่นกล้วยเป็นชิ้น ๆ ไว้ด้านบน แล้วราดน้ำผึ้งลงไป เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ บานาน่าโอ๊ตมีลแพนเค้ก เพิ่มเติมคลิก

โอ๊ตมีลแครนเบอร์รี่มัฟฟิน

มัฟฟินกลิ่นหอม ที่อัดแน่นไปด้วยธัญญาหารคุณภาพอย่าง ข้าวโอ๊ต และผลไม้ประโยชน์หลากหลายอย่าง แครนเบอร์รี่ จะทำให้คุณหลงรัก เมนูข้าวโอ๊ต นี้อย่างแน่นอน ใครอยากได้ของหวาน คุณประโยชน์สูง แนะนำเมนูนี้เลย

ส่วนผสม

• ไข่ไก่ 1 ใบ
• ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1/8 ช้อนชา
• ลูกจันทน์เทศ 1/4 ช้อนชา
• ผงซินนาม่อน 1/4 ช้อนชา
• นมสดไขมันต่ำ 1/3 ถ้วยตวง
• กากน้ำตาล 1/4 ถ้วยตวง
• แครนเบอร์รี่ 1/2 ถ้วยตวง
• น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
• ผงข้าวโอ๊ต 1 ถ้วยตวง
• แป้งอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วยตวง
• แป้งสาลี 1/2 ถ้วยตวง
• น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. เตรียมชามผสมสำหรับส่วนผสมของเหลว ใส่ไข่ไก่ นมสด น้ำมันพืช กากน้ำตาล น้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน จนน้ำตาลละลาย
2. เตรียมชามผสมอีก 1 ใบ สำหรับส่วนผสมของแห้ง ใส่แป้งอเนกประสงค์ ผงข้าวโอ๊ต แครนเบอร์รี่ เกลือ ผงซินนาม่อน ลูกจันทน์เทศ คนให้เข้ากัน
3. นำส่วนผสมของเหลว ใส่ชามผสมของแห้ง คนจนได้เนื้อครีมเนื้อข้น
4. เตรียมถาดอบมัฟฟิน รองกระดาษให้เรียบร้อย แล้วเทเนื้อครีมใส่ลงในแป้นพิมพ์
5. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส ให้ร้อนได้ที่ จากนั้น นำมัฟฟินเข้าเตาอบ อบที่อุณหภูมิเดิม เป็นเวลา 15-16 นาที จนมัฟฟินสุกได้ที่เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ โอ๊ตมีลแครนเบอร์รี่มัฟฟิน เพิ่มเติมคลิก

ข้าวโอ๊ตต้มสูตรสุขภาพ

ใครอยากกิน เมนูข้าวโอ๊ต ในตอนเช้าแบบจัดหนักจัดเต็มและดีต่อสุขภาพแล้วละก็ แนะนำเมนูนี้เลยกับ ข้าวโอ๊ตต้มสูตรสุขภาพ ที่นอกจากจะได้อิ่มอร่อยกับช้าวโอ๊ตแบบเต็ม ๆ แล้ว ยังสามารถทานผลไม้ควบคู่กันไปด้วย เพื่อเพิ่มรสชาติและความอร่อยได้อีกด้วย ซึ่งผลไม้นั้น สามารถประยุกต์ได้อย่างหลากหลาย แล้วแต่ความชอบ สำหรับที่นำมาแนะนำนี้ ประกอบด้วย เมล็ดทับทิม แอปเปิ้ล และถั่ววอลนัท

ส่วนผสม

• ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วยตวง
• น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง
• ถั่ววอลนัท
• เมล็ดทับทิม
• แอปเปิ้ล
• เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ตั้งหม้อ ใส่ข้าวโอ๊ต น้ำเปล่า และเกลือ แล้วต้มข้าวโอ๊ต ต้วยไฟกลางค่อนไฟอ่อน ใช้ทัพพีหรือไม้พายคนไปเรื่อย ๆ ห้ามหยุด จนกว่าข้าวโอ๊ตจะข้นเหนียวได้ที่ คล้ายโจ๊ก ใช้เวลาต้มสุก ประมาณ 10 – 15 นาที
2. นำถั่ววอลนัทมาบดอย่างหยาบ ๆ จากนั้น นำแอปเปิ้ลมาฝานเป็นแผ่นบาง ๆ และแงะเอาเมล็ดทับทิมมาเตียมไว้
3. จัดเสิร์ฟ ตักข้าวโอ๊ตใส่ชาม ตกแต่งด้านบนด้วยวอลนัท เมล็ดทับทิม แอปเปิ้ลฝานเป็นแผ่นบาง เป็นอันเสร็จ

กราโนล่าบาร์

ปิดท้ายกันด้วย เมนูข้าวโอ๊ต ยอดฮิต กับ กราโนล่าบาร์ ที่สามารถทานเป็นขนมหรือของหวานไว้ทานยามว่างก็ได้ ซึ่งนอกจากจะมี ข้าวโอ๊ต ที่มีคุณประโยชน์สูงแล้ว ยังอัดแน่นไปด้วยธัญพืชที่มีคุณค่าทางอาหารอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ถั่วพีแคน และมะพร้าวอบแห้ง รับรองว่านอกจากจะหวานอรอ่ยแล้ว ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

ส่วนผสม

• ข้าวโอ๊ตบดละเอียด 1/2 ถ้วยตวง
• เมล็ดข้าวโอ๊ต 1/2 ถ้วยตวง
• เมล็ดทานตะวัน 1/2 ถ้วยตวง
• เมล็ดฟักทอง 1/2 ถ้วยตวง
• ถั่วพีแคนสับ 1/2 ถ้วยตวง
• มะพร้าวอบแห้ง 30 กรัม
• น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วยตวง
• เมเปิ้ลไซรัป 1/3 ถ้วย
• เกลือ 3/4 ช้อนชา
• น้ำมันรำข้าว 1/3 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. เตรียมชามผสม ใส่น้ำตาลทรายแดง เมเปิ้ลไซรัป เกลือ คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย จากนั้น ใส่น้ำมันรำข้าวลงไป คนให้เข้ากัน
2. ตักข้าวโอ๊ตใส่เครื่องปั่น ปั่นจนได้แป้งข้าวโอ๊ตผงละเอียด จากนั้น นำใส่ลงในชามผสม
3. ใส่เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ถั่วพีแคนสับ มะพร้าวอบแห้ง เมล็ดข้าวโอ๊ต คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
4. เตรียมถาดอบขนม รองด้วยกระดาษฟอยล์ เทส่วนผสมลงไป เกลี่ยให้ผิวเสมอกัน จากนั้น นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 45 นาที
5. พอครบเวลา ให้นำออกมาพักให้พออุ่น เสร็จแล้ว ให้ใช้มีดตัดเป็นแท่ง ให้ได้ขนาดที่ต้องการ รอจนเย็นตัวดีแล้ว ให้หยิบออกมารับประทานได้เลย

ดูวิธีทำ กราโนล่าบาร์ เพิ่มเติมคลิก

สำหรับใครที่อยากทำ เมนูข้าวโอ๊ต แล้วอยากเก็บวัตถุดิบอื่น ๆ เพื่อเตรียมนำมาเป็นส่วนผสม โดยเฉพาะพวกผลไม้แช่แข็งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ทับทิม หรือว่าอื่น ๆ โดยที่สามารถเก็บไว้ได้นาน ๆ ไม่เน่าเสีย แนะนำให้เก็บใส่ถุงฟอยล์เก็บความเย็น ของ SGE เพราะผลิตจากวัสดุฟอยด์อะลูมิเนียม ทำให้สามารถสะท้อนความร้อนภายนอก ช่วยเก็บความเย็น หนาถึง 4 มม. ทำให้ยืดอายุการเก็บวัตถุดิบได้ยาวนาน ช่วยให้มีความสดใหม่ แม้จะเก็บไว้นานหลายวัน เหมาะสำหรับพ่อบ้านแม่บ้าน และธุรกิจ ร้านอาหารเดลิเวอร์รี่ยุคใหม่ ที่ต้องการรักษาวัตถุดิบให้สดใหม่สำหรับการประกอบอาหารในทุก ๆ วัน

หากสนใจ ถุงฟอยด์เก็บความเย็น ของ SGE สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  https://www.sgethai.com/insulated-bags/ หรือ สอบถามเพิ่มเติมทาง โทรศัพท์ หรือ Line ของเราได้เลย

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

• วิธีทำโจ๊ก อาหารเช้าสูตรเด็ด ทำยังไงให้อร่อย!
• “ปาท่องโก๋” สูตรกรอบนอกนุ่มใน ทำได้ง่ายๆ