อาหารเหลา

2,450 Views

คัดลอกลิงก์

12 สูตร อาหารเหลา ทำเองง่าย ๆ อร่อยเหมือนเชฟภัตตาคารทำเอง

อาหารเหลา ใครอยากกิน ไม่ต้องไปสั่งโต๊ะจีน หรือ ภัตตาคารดัง เพราะ SGE รวม 11 สูตรยอดนิยมมาให้แล้ว รับรองว่า ทำเองได้ง่าย ๆ อร่อยไม่แพ้เชฟระดับมืออาชีพ ให้คุณกินอาหารราคาแพงได้ ในราคาสบายกระเป่า ส่วนจะมีเมนูอะไร และ ทำได้ง่ายแค่ไหนนั้น ตามมาดูกันเลย

ข้าวผัดหยางโจว

อาหาร

ข้าวผัด สไตล์จีน ที่รวมวัตถุดิบชั้นดีไว้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น กุ้ง ปู หมูแดง กุนเชียง ไว้ด้วยกัน ยิ่งผัดด้วยไฟแรงแบบครัวจีน ก็ยิ่งหอมอร่อย น่ารับประทาน ทำให้เป็น อาหารเหลา ขึ้นชื่อ ที่ทุกภัตตาคาร และ ร้านอาหารชั้นนำต้องมี

ส่วนผสม

  • ข้าวสวย 1 จาน
  • เนื้อปู ตามชอบ
  • เนื้อกุ้ง 5 – 6 ตัว
  • หมูแดงหั่นสไลด์ ตามชอบ
  • กุนเชียงหั่นเต๋า 1 ชิ้น
  • ไข่ไก่ 5 ฟอง
  • คะน้า 3 ต้น
  • ต้นหอมซอย 3 – 4 ต้น
  • ซอสหอยนางรม 3 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
  • พริกไทย 1 ช้อนชา
  • น้ำมันหมูสำหรับผัด

วิธีทำ

  1. ใช้มีดหั่นหมูแดง กุนเชียง เป็นชิ้น ๆ ตามด้วย คะน้า และ ต้นหอม ซอยให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ
  2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำเปล่าลงไป ต้มให้เดือด แล้วใส่เนื้อกุ้ง เนื้อปู และ กุนเชียง ลงไป ลวกให้สุก เสร็จแล้ว ตักขึ้นเตรียมไว้ แล้วเทน้ำในกระทะออก
  3. ตั้งกระทะใหม่ ใส่น้ำมันหมูลงไป 1 ทัพพี แล้วใช้ตะหลิวคนให้น้ำมันเคลือบทั่วกระทะ แล้วเทน้ำมันออก
  4. ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป 5 ฟอง ตามด้วยข้าวสวย แล้วใช้ตะหลิวตักน้ำหมูลงไปเล็กน้อย แล้วผัดข้าวกับไข่ไก่ให้เข้ากัน จนไข่สุก
  5. ใส่คะน้า กุนเชียง หมูแดง แล้วปรุงรสด้วย ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส พริกไทย ผัดให้เข้ากัน ด้วยไฟแรง
  6. โรยต้นหอมซอย แล้วใส่เนื้อกุ้ง เนื้อปูลงไป ผัดทุกอย่างให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ

เป๋าฮื้อเจี๋ยนน้ำมันหอย

อาหารเหลา

คะน้าน้ำมันหอย สูตร อาหารเหลา ที่ถือได้ว่าเป็น เมนูคะน้า ระดับจักรพรรดิ ด้วยใช้วัตถุดิบพรีเมี่ยมอย่าง หอยเป๋าฮื้อ เข้ามาเป็นส่วนผสม จึงช่วยเพิ่มความอร่อยและประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยหากใครหาไม่ได้ เพราะว่าแพงเกินไป สามารถใช้เห็ดหอมแทนได้ สูตรจากรายการ ป้อมโชว์ตวงชิม

ส่วนผสมคะน้าน้ำมันหอย

  • คะน้าฮ่องกง 5 – 6 ต้น
  • เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
  • น้ำมันสำหรับผัด

ส่วนผสมหอยเป๋าฮื้อผัดน้ำหอย

  • หอยเป๋าฮื้อ 3 ชิ้น (ใช้เห็ดหอมแทนได้)
  • น้ำซุป 1 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้าจีน 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • แป้งมันฮ่องกงผสมน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำคะน้าน้ำมันหอย

  1. นำคะน้าฮ่องกงไปล้างน้ำให้สะอาด ถ้าก้านคะน้าแข็ง หรือ มีเสี้ยน ให้ใช้มีดปอกออก
  2. ตั้งหม้อ ต้มน้ำให้เดือด ใส่คะน้าฮ่องกงลงไป ลวกให้สุก
  3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ตามด้วย คะน้าฮ่องกง เหล้าจีน น้ำเปล่า ผัดให้เข้ากัน
  4. ปรุงรสด้วย ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว ผัดด้วยไฟแรงให้เข้ากัน
  5. พอผัดเสร็จแล้ว จัดคะน้าใส่จานเตรียมไว้

วิธีทำเป๋าฮื้อผัดน้ำมันหอย

  1. ใส่ซอสหอยนางรม เหล้าจีน น้ำซุป คนให้ละลายเข้ากัน
  2. ใส่หอยเป๋าฮื้อลงไป แล้วปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ผัดด้วยไฟแรงให้เข้ากัน
  3. ใส่แป้งมันฮ่องกงผสมน้ำเปล่าลงไป ผัดให้เข้ากัน จนกว่าจะได้น้ำมันหอยเข้มข้น
  4. พอผัดจนได้ที่แล้ว ตักราดคะน้าฮ่องกงที่จัดจานไว้แล้วลงไป เป็นอันเสร็จ

ผัดโหงวก๊วย

อาหาร

1 ใน อาหารเหลา ที่มักจะเห็นคนสั่งมารับประทานบ่อย ๆ เพราะอุดมไปด้วยผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น แปะก๊วย เกาลัด พุทราเชื่อม แห้ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แถมบางที่ยังเสิร์ฟมาในรังเผือกทอดคล้ายรังนก ทำให้มีความสวยงามน่ารับประทานเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งถ้าใครไม่อยากเสียเงินไปซื้อทานที่ภัตตาคารแล้วละก็ สามารถทำตามสูตรนี้ได้เลย รับรองว่า อร่อยไม่แพ้กัน

ส่วนผสม

  • เนื้ออกไก่ 150 กรัม
  • แป้งทอดกรอบ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 100 กรัม
  • เกาลัด 50 กรัม
  • แปะก๊วย 50 กรัม
  • แห้วต้ม 50 กรัม
  • พุทราเชื่อม 50 กรัม
  • เห็ดหอมสด 50 กรัม
  • หอมหัวใหญ่ 1 หัว
  • พริกหวานเขียว/เหลือง/แดง อย่างละ 1/2 ผล
  • ต้นหอมหั่นท่อน 3 ต้น
  • พริกชี้ฟ้าแห้ง 3 เม็ด
  • น้ำตาลทราย 2 ½ ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปพอเหมาะ ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไป ทอดให้สุกเหลืองสวย เสร็จแล้ว ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
  2. จากนั้น ทยอยใส่พริกหวานเขียว เหลือง แดง หอมหัวใหญ่ แปะก๊วย เกาลัด เห็ดหอม ลงไปทอดทีละอย่าง ๆ ให้สุก
  3. นำเนื้อไก่มาคลุกกับแป้งทองกรอบ แล้วใส่ลงในกระทะ ทอดให้สุก จากนั้น ใส่พริกชี้ฟ้าแห้งลงไปทอดให้กรอบเล็กน้อย
  4. เทน้ำมันที่ใช้ทอดออก แล้วตั้งกระทะใหม่ ใส่น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม เหล้าจีน จากนั้น เปิดไฟอ่อน คนให้ทุกอย่างละลายเข้ากัน และ เคี่ยวต่อสักพัก ให้ซอสมีความเหนียวข้นขึ้น
  5. พอซอสข้นดีแล้ว ใส่ใส่พริกหวานเขียว เหลือง แดง หอมหัวใหญ่ ไก่ทอด แปะก๊วย เกาลัด เห็ดหอม เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แห้วต้ม พุทราเชื่อม เห็ดหอม คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  6. ใส่พริกทอดลงไป ตามด้วย ต้นหอมหั่นท่อน ผัดให้เข้ากันอีกรอบ เป็นอันเสร็จ

หมูสามชั้นตุ๋นผักกาดดอง

อาหารเหลา

อาหารเหลา แบบกวางตุ้ง ที่เป็นเมนูดังของหลาย ๆ ภัตตาคาร มีชื่อเรียกว่า หมุ่ยชอยเคาหยก หรือ โค่วโหย่ว(扣肉 koù roù) ในภาษาจีนกลาง มีวิธีทำโดยการนำหมูสามชั้นไปตุ๋นจนนิ่มลง ทานคู่กับหมุ่ยชอย หรือ ผักกาดดองเค็ม ราดด้วยน้ำซอสข้นมัน จะทำให้ได้หมูที่นุ่ม และมีรสชาติหวานเค็ม เหมาะกับทำทานในเทศกาลไหว้เจ้าสำคัญ ๆ หรือ เนื่องในโอกาสพิเศษ

ส่วนผสม

  • หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม
  • ผักกาดดองแห้ง 350 กรัม
  • กระเทียมบุบ 5 กลีบ
  • ขิงหั่น 5 แว้น
  • ต้นหอมหั่นท่อน 5 ต้น
  • เหล้าจีน 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  • ซอสเห็ดหอม 5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา 2 ช้อนชา
  • น้ำตาล 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ (ล้างกลิ่นคาว)
  • น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ (ล้างกลิ่นคาว)
  • แป้งมันฮ่องกง + น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำสต็อค 3 ถ้วย

วิธีทำ

  1. ตั้งหม้อ ต้มน้ำให้เดือด นำหมูสามชั้นลงไปต้มให้พอสุก จากนั้น นำขึ้นมาพักให้เย็นลง
  2. ใช้ส้อมจิ้มหนังหมูให้ทั่ว เสร็จแล้ว โรยเกลือและน้ำส้มสายชูลงไป ทาให้ทั่ว
  3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป วอร์มให้น้ำมันร้อนจัดแล้ว วางเนื้อหมูสามชั้นลงไปทอดให้สุก จนเหลืองทองพอดี ๆ โดยให้วางด้านหนังหมูลงไปก่อน พอเหลืองทองทั่วกันทุกด้านแล้ว ให้นำขึ้นไปน็อคในน้ำเย็น ทิ้งไว้ 1 – 2 ชั่วโมง แล้วใช้มีดหั่นเป็นชิ้น ๆ เตรียมไว้
  4. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย เคลือบน้ำมันให้ทั่วกระทะ จากนั้น เปิดไฟแรง แล้วใส่ขิงแว่น กระเทียมบุบ ผักกาดดองแห้งลงไป ผัดให้เข้ากัน เสร็จแล้ว เริ่มปรุงรสโดยใส่ เหล้าจีน ซอสเห็ดหอม ซีอิ๊วขาว น้ำมันงา น้ำตาล ซีอิ๊วดำ ผัดให้เข้ากันอีกหนึ่งครั้ง แล้วค่อยเติมน้ำสต็อคลงไป ลดเป็นไฟกลางค่อนไฟอ่อน เคี่ยวต่ออีก 30 นาที ให้งวดลง
  5. จัดวางหมูสามชั้น ใส่ชามก้นลึก วางผักกาดแห้งที่ผัดไว้ ตามด้วยน้ำซอสที่เหลือ เสร็จแล้ว นำไปนึ่งในซึ้งนึ่ง ด้วยไฟกลางค่อนไฟแรงเป็นเวลา 2 – 3 ชั่วโมง หรือจนกว่าหมูสามชั้นจะนุ่มลง
  6. พอครบเวลาให้นำออกมา เทน้ำซอสที่ได้จากการนึ่งลงในกระทะ ตั้งไฟให้พอเดือด เสร็จแล้ว ตักแป้งมันฮ่องกงผสมกับน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ เทลงไปคนให้เข้าน้ำซอส เคี่ยวต่อให้ซอสงวดลง จนข้นขึ้น
  7. จัดเสิร์ฟใส่จาน วางหมูสามชั้นพร้อมผัดกาดดองเค็มลงไป ราดด้วยน้ำซอสที่เคี่ยวไว้ เป็นอันเสร็จ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

เครื่องซีลสูญญากาศ จาก SGE การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

กระเพาะปลา

อาหาร

ถึงแม้จะหาทานได้ทั่วไป จนกลายเป็นอาหารสตรีทฟู้ดอย่างหนึ่งไปแล้ว แต่ในระดับภัตตาคาร กระเพาะปลา ยังคงเป็น อาหารเหลา ที่ขายดีอยู่เสมอ เพราะการจะทำให้อร่อย กระเพาะปลา ต้องใช้ของดี ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ถึงจะอร่อย น้ำแดงก็ต้องมีความเข้มข้นถึงจะได้รสชาติ ดังนั้น หากใครอยากทำให้เหมือนที่ทานกันตามภัตตาคารแล้วละก็ เพียงแค่เลือกซื้อกระเพาะปลาที่มีคุณภาพ และ ใช้วัตถุดิบชั้นเลิศอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นไข่นกกระทา น่องไก่ อกไก่ฉีกเป็นเส้น เห็ดหอม และ หน่อไม้ ใส่ลงไป เพียงเท่านี้ก็จะได้กระเพาะปลาอร่อย ๆ ไว้ทานที่บ้านแล้ว

ส่วนผสมน้ำสต็อกไก่

  • โครงไก่ 1 โครง
  • ผักกาดขาว
  • กะหล่ำปลี
  • กระเทียม 30 กรัม
  • พริกไทยดำ 1  ช้อนโต๊ะ
  • รากผักชี 4 ราก

ส่วนผสมกระเพาะปลา

  • กระเพาะปลา 250 กรัม
  • ขิงแก่ 50 กรัม
  • ไข่นกกระทาต้มสุก
  • เห็ดหอม 10 ชิ้น (ล้างแล้วแช่น้ำเตรียมไว้)
  • หน่อไม้
  • อกไก่ ปีกบนไก่ เลือดไก่
  • ผักชี
  • ซอสจิ๊กโฉ่ว

เครื่องปรุง

  • ซีอิ๊วขาว 5 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำ 5 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้าจีนสำหรับปรุงอาหาร 2 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งมันฮ่องกง 6 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำสต็อกไก่

  1. ใส่น้ำลงในหม้อต้ม แล้วตั้งไฟ ล้างทำความสะอาดรากผักชี ใช้มีดทุบให้พอแหลก ให้ส่งกลิ่นหอม เสร็จแล้วใส่ลงไปในหม้อ ตามด้วยกระเทียม ทุบให้พอแหลก แล้วใส่ลงในหม้อเช่นกัน
  2. เตรียมครกและสาก ใส่พริกไทยเม็ดลงไป ทุบให้แตก ใส่ตามลงไปในหม้อ ตามด้วยโครงไก่ ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วใส่ตามลงไป
  3. ใส่ผักกาดขาว กะหล่ำปลี ลงไป เพื่อเพิ่มความหวาน (หากใครไม่มี ไม่ต้องใส่ก็ได้) ตามด้วยอกไก่ ปีกบนไก่
  4. จากนั้น ปิดฝา ใช้เวลาต้ม 1 ชั่วโมง (ถ้าใครใช้หม้ออบลมร้อน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) ระหว่างนี้ ถ้าอกไก่ ปีกบนไก่ สุกได้ที่แล้ว ให้ตักขึ้นมาได้เลย
  5. พอครบเวลา ให้ตักไขมันที่ลอยอยู่ด้านบนออก แล้วกรองเอาแต่น้ำสต็อกออกมา ใส่หม้อที่จะทำกระเพาะปลาต่อไป

วิธีทำกระเพาะปลา

  1. ต้มกระเพาะปลาเพื่อไล่น้ำมันออกก่อน โดยให้เตรียมกระทะใส่น้ำให้พอต้มกระเพาะปลา แล้วตั้งไฟอ่อนให้เรียบร้อย หั่นสไลด์ขิงแก่ ใส่ลงไป จากนั้น แบ่งกระเพาะปลาออกเป็นชิ้นสั้น ๆ ใส่ลงไป ลวกให้กระเพาะปลานิ่มลงและคายน้ำมันออกมา ใช้เวลาประมาณ 10 นาที พอเนื้อชุ่มน้ำและนิ่มลงหมดแล้ว ให้ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำเตรียมไว้
  2. หั่นเห็ดหอมออกเป็นเส้น ๆ แล้วนำมาผัดในกระทะ โดยใส่น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ แล้วใส่เห็ดหอมลงไปผัดให้มีกลิ่นหอม
  3. ใส่น้ำแช่เห็ดหอม ลงไปในหม้อน้ำสต็อกไก่ที่เตรียมไว้ โดยเทใส่กระชอนกรองเอาเศษที่ไม่ต้องการออก แล้วใส่เห็ดหอมที่ผัดไว้ ตามลงไป ต้มจนเดือด
  4. พอเดือดแล้ว ให้ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว 5 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำ 5 ช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ เหล้าจีนสำหรับปรุงอาหาร 2 ช้อนโต๊ะ ชิมรสชาติ หากขาดอะไรให้ปรุงรสเพิ่มได้ตามใจชอบ
  5. นำกระเพาะปลามาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เสร็จแล้ว ใส่ลงไป ต้มให้เดือด
  6. นำเลือดไก่ หน่อไม้ มาหั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่ตามลงไป รอจนเดือดอีกรอบ แล้วให้ใส่แป้งมันฮ่องกงลงไป 6 ช้อนโต๊ะ ระหว่างใส่ ให้คอยคนส่วนผสมไปด้วย จนกว่าจะได้น้ำซุปข้นหนืดตามที่ต้องการ
  7. พอเดือดได้ที่แล้ว ตักเสิร์ฟใส่ชาม ใส่ไข่นกกระทา น่องไก่ อกไก่ฉีกเป็นเส้น ๆ เรียงไว้ด้านบน โรยผักชี ปรุงรสเพิ่มด้วยซอสจิ๊กโฉ่วตามชอบ เป็นอันเสร็จ

หมูหัน

อาหารเหลา

เมนู อาหารเหลา แบบ Main Course ที่ใคร ๆ ก็ชอบทาน โดยหากไปทานที่ร้าน อาจจะมีราคาหลายร้อยเลยทีเดียว ดังนั้น ถ้าทำกินเองได้ ก็จะช่วยประหยัดเงินได้ดีกว่า  แถมยังเหมาะกับการจัดงานเลี้ยง สังสรรค์ต่าง ๆ อีกด้วย โดยเทคนิคในการทำให้อร่อยก็คือ ควรเลือกใช้ลูกหมูที่อายุไม่ถึง 1 เดือน จะเหมาะกับการนำมาทำหมูหันมากที่สุด

ส่วนผสม

  • ลูกหมูสด 1 ตัว (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
  • น้ำร้อน
  • ซีอิ๊วดำ 4 ส่วน
  • น้ำส้มสายชู 1 ส่วน
  • น้ำมันพืช (ชโลมหนังหมู)

อุปกรณ์

  • แท่งเหล็ก (สำหรับเสียบหมู)
  • เตาถ่าน

วิธีทำ

  1. ตั้งเตาถ่าน ใส่ถ่าน ก่อไฟให้ไฟแรง
  2. นำแท่งเหล็ก มาเสียบลูกหมูสด แล้วนำไปพิงไว้กับไม้กั้น หรือ ผนังของกำแพง แล้วใช้น้ำร้อน ราดลงไปบนผิวของหนังหมู เพื่อให้หนังหมูตึง
  3. ผสมซีอิ๊วดำหวานกับน้ำส้มสายชูให้เข้ากัน แล้วนำไปชโลมให้ทั่วหนังหมู
  4. นำหมูไปตั้งบนเตาถ่าน แล้วคอยหันหมู ให้โดนไฟบนเตาถ่านจนทั่ว ๆ พลิกกลับไปกลับมา ย่างเป็นเวลา 15 นาที
  5. พอครบเวลา ให้นำไปพักทิ้งไว้สักพัก ให้หมูเย็นตัวลง
  6. นำไปย่างต่ออีกรอบ โดยรอบนี้ให้ชโลมน้ำมันพืชลงไปให้ทั่ว ย่างจนกว่าหนังจะกรอบ และแดงสุกได้ที่ทั้งตัว
  7. ใช้มีดเลาะหนังหมูออกมา แล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ จัดเสิร์ฟใส่จาน เป็นอันเสร็จ

เป็ดปักกิ่ง

อาหาร

อีกหนึ่ง อาหารเหลา ที่เป็นเมนูขึ้นชื่อของหลาย ๆ ภัตตาคาร สามารถเลือกรับประทานแทน หมูหัน ได้ อร่อยเหมือนกัน โดย เป็ดปักกิ่ง ภาษาจีนจะเรียกว่า Běi jīng kao yā  (北京烤鸭 )  มักกินคู่กับหมั่นโถว ราดด้วยซีอิ๊วดำหวาน มีผักเคียงเป็นแตงกวาและขิงดอง ไว้ทานคู่กัน

ส่วนผสมเป็ดปักกิ่ง

  • เป็ด 1 ตัว
  • ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1½ ช้อนโต๊ะ
  • ขิงแก่สับ 40 กรัม
  • ผักชีหั่นฝอย 1 ถ้วย
  • สามเกลอ ได้แก่ พริกไทย กระเทียม และรากผักชี โขลกให้ละเอียด

ส่วนผสมน้ำราดตัวเป็ด

  • น้ำส้มสายชู 3-4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า

ส่วนผสมน้ำจิ้มเป็ดปักกิ่ง

  • น้ำมะขามเปียก ¼ ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ ½ ถ้วย
  • พริกขี้หนูแห้งคั่วป่น 2 ช้อนชา
  • น้ำปลา ¼ ถ้วย

วิธีทำ

  1. ล้างเป็ดที่เตรียมไว้ให้สะอาด นำเครื่องในเป็ดออกให้หมด
  2. นำส่วนผสมทำเครื่องหมักเป็ดที่เตรียมไว้ ผสมให้เข้ากัน แล้วยัดเข้าไปในท้องเป็ด โดยใช้มือล้วงเข้าไปแล้วทาเครื่องหมักให้ทั่วท้องเป็ด เสร็จแล้วพักไว้
  3. ทำน้ำราดตัวเป็ด โดยเริ่มจาก ตั้งหม้อน้ำให้เดือด จากนั้นใส่ส่วนผสม น้ำส้มสายชู น้ำผึ้ง ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และเกลือลงไป คนให้เข้ากัน รอจนเดือดอีกครั้ง แล้วยกลง
  4. นำน้ำราดตัวเป็ด ตักราดตัวเป็ดให้ทั่ว จากนั้น หมักทิ้งไว้ และผึ่งให้แห้งประมาณ 1-2 ชั่วโมง
  5. หลักจากผึ่งเป็ดทิ้งไว้ 2 ชั่วโมงแล้ว นำเป็ดที่ได้อบในหม้ออบลมร้อน โดยใช้ฟอยล์รองตัวเป็ดก่อน เพื่อกันน้ำเป็ดตก ตั้งไฟที่ความร้อน 160 องศาเซลเซียส อบเป็ด 2 รอบ รอบที่ 1 ใช้เวลาอบ 45 นาที จากนั้น พลิกตัวเป็ด แล้วอบต่ออีก 35 นาที
  6. ทำน้ำจิ้มเป็ดปักกิ่ง โดยนำส่วนผสมทั้งหมด ปั่นด้วยเครื่องปั่นให้เข้ากัน นำตั้งไฟอ่อน ๆ เคี่ยวจนเหนียว จากนั้น ใส่พริกป่นคนให้ทั่ว ปรุงรสเปรี้ยวหวานเค็ม ตามชอบ เสิร์ฟคู่กับเป็ดปักกิ่งได้เลย พร้อมเสิร์ฟ

กุ้งแม่น้ำเผา

อาหารเหลา

แม้ว่าอาจจะไม่ใช่ อาหารเหลา แท้ ๆ แต่ถ้าร้านไหนมีแล้วละก็ ใครเห็นเป็นต้องสั่งแน่นอน ซึ่งถ้าหากไปนั่งกินที่ร้าน อาจจะมีเสียเงินถึง 7xx – 8xx บาทเลยทีเดียว ดังนั้น ถ้าหากใครอยากประหยัดเงิน  เพียงแค่หากุ้งแม่น้ำมา แล้วเผาให้สุก เพียงเท่านี้ ก็จะได้กินของอร่อย ๆ ในราคาที่ประหยัดแล้ว

ส่วนผสม

  • กุ้งแม่น้ำ ตามชอบ

ส่วนผสมน้ำจิ้มซีฟู้ด

  • พริกแดง 3 เม็ด
  • พริกขี้หนูสวน 7 – 8 เม็ด (ปรับได้ตามชอบ)
  • กระเทียม 10 กลีบ
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 2 ช้อนชา
  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. ใช้กรรไกรตัดหนวด ตัดขากุ้งแม่น้ำให้เรียบร้อย
  2. ตัดผ่าครึ่งกุ้งแม่น้ำ ตรงช่วงท้องไปจนถึงโคนหาง จากนั้น ใช้มีดกดลงไปตามรอย จนสามารถแผ่กุ้งออกมาได้
  3. ดึงถุงตรงปาก และ เส้นดำตรงช่วงท้องออก
  4. ใช้ช้อนตักส่วนมันกุ้งออก เพื่อให้เวลาย่าง มันกุ้งจะได้ไม่ไหลเยิ้ม
  5. ตั้งเตาย่าง วาง กุ้งแม่น้ำ ลงไป แล้วใช้ฝาอบปิดลงไป เพื่อให้สุกเร็วขึ้น
  6. พอกุ้งแม่น้ำใกล้สุกดีแล้ว ให้ตักมันกุ้งลงไป แล้วย่างต่อจนสุก เป็นอันเสร็จ

วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ด

  1. เตรียมครกกับสาก ใส่พริกแดง พริกจินดา กระเทียม และ เกลือ ลงไป ตำให้แหลกพอหยาบ ๆ
  2. ใส่น้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว คนให้เข้ากัน เสร็จแล้ว ปรุงรสตามใจชอบ เป็นอันเสร็จ

ปูผัดผงกะหรี่

อาหาร

ปูผัดผงกะหรี่ สูตรนี้ เป็นสูตร อาหารเหลา ที่เสิร์ฟกันในภัตตาคารหรือร้านอาหารดังทั่วไป โดยนำปูทั้งตัวมาจัดเสิร์ฟ ทำให้มีความพรีเมี่ยมและน่ารับประทาน ขายกันทีจานหนึ่ง ราคาหลายร้อย บางที่ขายกันหลักพันก็มี ซึ่งถ้าไม่อยากจ่ายเงินขนาดนั้น แนะนำให้ซื้อปูเอง แล้วมาทำตามสูตรของ Youtuber ช่อง กินได้อร่อยด้วย สูตรนี้ รับรองว่า อร่อยเหมือนร้านดัง แถมประหยัดกว่ากันแน่นอน

ส่วนผสม

  • ปูม้า 800-1,000 กรัม
  • กระเทียม 1 หัว
  • ไข่ไก่ 3 ฟอง
  • หอมใหญ่ 1 หัว
  • ขึ้นฉ่าย 3 ต้น
  • ต้นหอม 3 ต้น
  • พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด
  • นมข้นจืด 150 มิลลิลิตร
  • ผงกะหรี่ 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่นตามชอบ
  • น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพริกเผาเล็กน้อย
  • น้ำเปล่าเล็กน้อย (สำหรับผัดปู)

วิธีทำ

  1. แกะปู แยกเอาส่วนขา ก้าม และกระดอง ออกเป็นชิ้น ๆ
  2. ตั้งกระทะ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย รอให้น้ำมันร้อนได้ที่แล้ว ใส่กระเทียมลงไป ผัดให้มีกลิ่นหอม ตามด้วย ขา ก้าม และกระดอง ของ ปู ทั้งหมด ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้น เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย แล้วใช้ฝาอบปิดไว้ อบให้สุก
  3. ระหว่างอบปูให้สุก ให้เตรียมถ้วยผสม ใส่นมข้นจืด ผงกะหรี่ น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม พริกไทย น้ำพริกเผา คนให้ละลายเข้ากัน จากนั้น ตอกไข่ไก่ใส่ชาม ตีให้เข้ากัน แล้วเทผสมรวมกันให้เรียบร้อย
  4. พอปูสุกได้ที่แล้ว ให้เปิดฝาอบออก แล้วใส่ผงกะหรี่ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  5. ใส่ส่วนผสมเหลวลงไป ตามด้วยหอมใหญ่ ปรับไฟเป็นไฟแรง ใช้ตะหลิวคนเล็กน้อย เพื่อให้ไข่เริ่มเซ็ตตัว
  6. จากนั้น ใส่ต้นหอม และ ขึ้นฉ่าย ผัดคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ถุงซีลสูญญากาศ

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🥺🙏🏻

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ปลานึ่งซีอิ๊ว

อาหารเหลา

อาหารเหลา ที่ใคร ๆ ก็นึกถึง โดยเฉพาะเวลาไปทานตามภัตตาคารและร้านอาหารชื่อดัง ซึ่งถ้าหากซื้อทาน รับรองว่าแพงแน่นอน แต่ถ้าใครอยากทานเมนูนี้ในแบบประหยัด ๆ แล้วละก็ สามารถทำตามสูตรที่นำมาฝากได้เลย รับรองว่าเหมือนต้นฉบับ แถมยังทำทานได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย

ส่วนผสม

  • ปลากระพง 1 ตัว (ปลาอื่น ๆ ก็ได้)
  • ขิงแก่ 1 แง่ง
  • ต้นหอม 5 ต้น
  • ขึ้นฉ่าย 3 ต้น
  • พริกชี้ฟ้าแดง 3 เม็ด
  • น้ำมันสำหรับผัด 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้าจีน 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 2 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. ทำความสะอาดปลากะพง โดยการถอดเกล็ด ผ่าท้องแล้วควักไส้ และ ถอดเหงือกออก ให้เรียบร้อย จากนั้น นำเกลือมาทาให้ทั่ว แล้วใช้น้ำล้างออก ซับด้วยกระดาษทิชชู่ซับมันให้แห้ง เมื่อแห้งแล้ว ให้ใช้มีด บั้งเนื้อปลา 3 บั้ง แต่ละด้าน เท่า ๆ กัน
  2. เตรียมซึ้งนึ่ง โดยต้มน้ำร้อนให้ร้อนจัด ด้วยไฟแรง จากนั้น นำปลากระพงใส่จานที่จะจัดเสิร์ฟ วางลงในซึ้งนึ่ง นึ่งปลาจนสุก ใช้เวลาประมาณ 10-12 นาที
  3. ปอกเปลือกขิง หั่นขิงเป็นแว่น ๆ แล้วซอยให้เป็นเส้นเล็ก ๆ เตรียมไว้ จากนั้น นำพริกชี้ฟ้าแดงมาผ่าครึ่ง เอาส่วนที่เป็นเมล็ดออก แล้วหั่นซอยให้เป็นเส้นเล็ก ๆ
  4. นำต้นหอม มาตัดเอาส่วนโคนแยกออกจากส่วนใบ แล้วหั่นโคนต้นหอมออกเป็นเส้น ๆ ส่วนใบต้นหอมให้หั่นออกเป็นท่อน ๆ ขนาดเท่ากัน เช่นเดียวกับขึ้นฉ่าย ให้ทำแบบเดียวกัน
  5. เตรียมทำน้ำราดซีอิ๊ว โดยตั้งกระทะ เปิดไฟแรง ใส่น้ำมันลงไป กลิ้งจนน้ำมันเคลือบกระทะทั้งหมด พอน้ำมันร้อนจัด จนมีไอร้อนขึ้นมาแล้ว ให้ใส่ ขิงซอย พริกชี้ฟ้าแดงซอย ขึ้นฉ่ายซอย ต้นหอมซอย ลงไป ผัดให้เข้ากัน แค่ให้พอมีกลิ่นหอม พอผักสลดดีแล้ว ให้ปิดไฟ แล้วนำผักเหล่านี้ มาโรยไว้บนตัวปลาตัวกระพง
  6. ตั้งกระทะใหม่ (ยังไม่ต้องเปิดไฟ) ใส่ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วดำหวาน ซีอิ๊วขาว เหล้าจีน น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ลงไป จากนั้น เปิดไฟกลางค่อนไฟแรง คนและผัดซอสให้เข้ากัน จนกว่าจะเดือดและข้นได้ที่ ระหว่างนี้ ให้คอยคนเป็นระยะ เพื่อไม่ให้ไหม้
  7. เมื่อซอสข้นเหนียวได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟ นำน้ำซีอิ๊วมาราดลงบนตัวปลากระพง เป็นอันเสร็จ

ขาห่านอบหม้อดิน

อาหาร

อาหารเหลา ระดับคลาสสิค ที่หลาย ๆ ภัตตาคารต้องมี โดยเคล็ดลับในการทำให้อร่อยก็คือ จะต้องต้มขาห่านจนเนื้อเปื่อยนุ่ม ถึงจะกินได้อร่อยและแทะง่าย  ยิ่งกินกับบะหมี่ที่คลุกเคล้ากับซอสรสเข้มข้น ก็ยิ่งอิ่มอร่อยมากกว่าเดิม

ส่วนผสมเครื่องต้มขาห่าน

  • ขาห่านไทยหรือเทศ 2 คู่
  • ขิงหั่นแว่น 4 – 5 ชิ้น
  • ข่าหั่น 4 ชิ้น
  • อบเชย 3 ชิ้น
  • โป๊ยกั๊ก 2 ชิ้น
  • รากผักชี 6 ราก
  • กระเทียม 6 กลีบ
  • พริกไทยขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้าขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย
  • น้ำมันพืช(สำหรับทอด)
  • น้ำเปล่า 2 – 3 ทัพพี

ส่วนผสมเครื่องอบหม้อดิน

  • หมูสามชั้น 4 ชิ้น
  • กระเทียมจีน 10 กลีบ
  • ต้นหอม 4 ต้น
  • ขิงหั่นแว่น 5 ชิ้น
  • รากผักชี 2 กลีบ
  • ชวงเจีย 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยขาว 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมน้ำอบหม้อดิน

  • น้ำซุป 1/2 ถ้วย
  • เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม  1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ้วดำ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำขาห่าน

  1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว และ น้ำเปล่าเล็กน้อย คนให้ละลายเข้ากัน แล้วผัดให้กลายเป็นซอสคาราเมล มีสีน้ำตาลไหม้
  2. ใส่ขาห่านลงไป เคลือบซอสคาราเมลให้ทั่ว แล้วใส่ ขิง ข่า อบเชย โป๊ยกั๊ก รากผักชี กระเทียม พริกไทยขาว ผัดทุกอย่างให้เข้ากัน
  3. ใส่เหล้าขาวลงไป เพื่อดับกลิ่นคาว จากนั้น เติมน้ำเปล่าลงไป ให้พอท่วม
  4. เสร็จแล้ว เทใส่หม้อต้ม แล้วนำไปต้มต่อด้วยไฟอ่อน เป็นเวลา 4 ชั่วโมง จนกว่าขาห่านจะเนื้อนุ่มตามที่ต้องการ

วิธีทำขาห่านอบหม้อดิน

  1. เตรียมเครื่องอบหม้อดิน โดยใส่หมูสามชั้น กระเทียมจีน ต้นหอม ขิงหั่นแว่น รากผักชี ลงไปในหม้อดิน
  2. ใส่ชวงเจีย และ พริกไทยขาว ลงในถุงเครื่องเทศ แล้วใส่ลงไปให้หม้อ
  3. ผสมน้ำอบหม้อดิน โดยเตรียมชามผสม ใส่น้ำตาลทราย ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว เหล้าจีน น้ำมันงา น้ำมันพืช และ น้ำซุป คนให้ละลายเข้ากัน
  4. เทน้ำอบหม้อดิน ใส่หม้อ จากนั้น ใส่เส้นบะหมี่เหลือง ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วใส่ขาห่านลงไป
  5. นำไปต้มด้วยไฟแรง จนกว่าน้ำอบจะระเหยออกหมด และ เส้นบะหมี่แห้งดี เป็นอันเสร็จ

โอนีแปะก๊วย

อาหารเหลา

ปิดท้ายกับด้วยของหวานสุดฮิต ที่เหมาะกับการการกินปิด อาหารเหลา นั่นก็คือ โอนีแปะก๊วย ที่รสชาติหวานจากข้าวเหนียวมูนและเผือกกวนที่มีรสหวาน เมื่อผสมผสานกับน้ำเชื่อมที่มีแปะก๊วยและพุทราจีนเชื่อมเป็นส่วนผสมแล้ว จะทำให้รู้สึกสดชื่น และ อิ่มอร่อย เกินคำบรรยาย

ส่วนผสมน้ำเชื่อม

  • แปะก๊วยต้มสุก 180 กรัม
  • พุทราจีนเชื่อม 130 กรัม
  • แป้งมันละลายน้ำเปล่า 30 กรัม
  • น้ำตาลทราย 130 กรัม
  • น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
  • มะพร้าวขูดเส้น ตามชอบ

ส่วนผสมเผือกกวน

  • เผือกหั่นเต๋า 400 กรัม
  • น้ำตาลทราย 150 กรัม

ส่วนผสมข้าวเหนียวมูน

  • ข้าวเหนียวเขี้ยวงู (แช่น้ำ 1 คืน) 250 กรัม
  • กะทิ 150 มิลลิลิตร
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 100 กรัม

วิธีทำน้ำเชื่อม

  1. ตั้งหม้อ หรือ กระทะ ใส่น้ำเปล่าลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย แปะก๊วยต้มสุก พุทราจีนเชื่อม จากนั้น ต้มให้น้ำเดือด
  2. ใส่แป้งมันละลายน้ำลงไป คนให้เข้ากันและต้มต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำเชื่อมจะมีความข้นเหนียว

วิธีทำเผือกกวน

  1. นำเผือกมาหั่นเต๋า จากนั้น ตั้งซึ้งนึ่ง ต้มน้ำให้เดือด แล้วรองด้วยผ้าขาวบาง ใส่เผือกลงไป ห่อผ้าขาวบางให้มิด เว้นช่องให้มีรูระบายไอน้ำขึ้นมา นึ่งเป็นเวลา 30 นาที
  2. เตรียมชามผสม ใส่เผือกที่นึ่งสุกแล้วลงไป แล้วใช้ที่บด บดเผือกให้ละเอียด
  3. ตั้งกระทะ เปิดไฟอ่อน ใส่น้ำตาลทรายและเผือกบดลงไป กวนเผือกกับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน จนเป็นเนื้อเดียว

วิธีทำข้าวเหนียวมูน

  1. นำข้าวเหนียเขี้ยวงูไปแช่น้ำ 1 คืน เสร็จแล้ว เทน้ำออก พักให้สะเด็ดน้ำ
  2. ตั้งซึ้งนึ่ง ต้มน้ำให้เดือด รองด้วยผ้าขาวบาง ใส่ข้าวหนียวเขี้ยวงูลงไป ห่อผ้าขาวบางให้มิด เว้นช่องให้มีรูระบายไอน้ำขึ้นมา นึ่งเป็นเวลา 30 นาที
  3. เตรียมชามผสม ใส่กะทิ เกลือ น้ำตาล คนให้ละลายเข้ากัน แล้วนำไปอุ่นในไมโครเวฟเป็นเวลา 2 นาที ให้กะทิพอร้อน ไม่ต้องเดือด
  4. จากนั้น นำข้าวเหนียวเขี้ยวงูที่ยังร้อนออกมาใส่ชามผสม แล้วเทน้ำกะทิที่อุ่นไว้ลงไป ปิดฝา แช่ทิ้งไว้ 10 นาที เสร็จแล้ว ใช้ทัพพีกวนข้าวเหนียวให้ดูดซึมน้ำกะทิจนแห้ง
  5. ทำเผือกกวน โดยเตรียมชามผสม ใส่เผือกที่นึ่งสุกแล้วลงไป แล้วใช้ที่บด บดเผือกให้ละเอียด
  6. ตั้งกระทะ เปิดไฟอ่อน ใส่น้ำตาลทรายและเผือกบดลงไป กวนเผือกกับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน จนเป็นเนื้อเดียว

วิธีทำโอนีแปะก๊วย

  1. เตรียมชามทรงกลม ตักเผือกกวนลงไป แล้วกดลงไปให้แน่น จากนั้น ตักข้าวเหนียวมูนลงไปจนเต็มชาม
  2. พลิกชามทรงกลม ลงไปบนชามสำหรับจัดเสิร์ฟ ให้เผือกกวนอยู่ด้านบนของข้าวเหนียวมูน
  3. เสร็จแล้ว ราดน้ำเชื่อมลงไป ให้แปะก๊วย และ พุทราจีน อยู่รอบ ๆ แล้วตกแต่งด้านบนด้วยมะพร้าวขูดเส้น ให้สวยงาม เป็นอันเสร็จ

อยากกิน อาหารเหลา ระดับภัตตาคาร ไม่จำเป็นต้องไปถึงภัตตาคารชื่อดัง หรือ สั่งโต๊ะจีนมากินอีกต่อไป เพียงแค่ทำตาม 12 สูตร อาหารเหลา ที่ SGE นำมาฝาก เพียงแค่นี้ คุณก็จะได้กินอาหารแพง ๆ ในราคาสบายกระเป่า  ให้ทุกคนในครอบครัวสามารถกินได้อย่างเอร็ดอร่อย พร้อมทำกินได้ทุกวัน ทุกเวลา

2 สิงหาคม 2022

โดย

Pres

ความคิดเห็น (Comments)

Leave A Comment