ปลานึ่ง

6,072 Views

คัดลอกลิงก์

7 สูตร ปลานึ่ง เมนูปลา แสนอร่อย ดีต่อสุขภาพ

ปลานึ่ง ทำอย่างไรให้เนื้อปลาสุกกำลังดี พร้อมน้ำราดแบบต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้เมนูนี้อร่อยมากขึ้น หากใครชอบทาน ปลานึ่ง แต่ไม่รู้จะทำออกมาเป็นเมนูอะไรดี SGE มีสูตรมาฝากถึง 7 สูตรด้วยกัน รับรองว่า ใครชอบทานปลา จะต้องถูกใจ และทำตามเองได้ที่บ้านแบบง่าย ๆ ได้แน่นอน

ปลานึ่งซีอิ๊ว

ปลานึ่ง

เมนู ปลานึ่ง อันดับ 1 ที่ใคร ๆ ก็นึกถึง โดยเฉพาะเวลาไปทานตามภัตตาคารและร้านอาหารชื่อดัง ซึ่งถ้าหากซื้อทาน รับรองว่าแพงแน่นอน แต่ถ้าใครอยากทานเมนูนี้ในแบบประหยัด ๆ แล้วละก็ สามารถทำตามสูตรที่นำมาฝากได้เลย รับรองว่าเหมือนต้นฉบับ แถมยังทำทานได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย

ส่วนผสม

  • ปลากระพง 1 ตัว (ปลาอื่น ๆ ก็ได้)
  • ขิงแก่ 1 แง่ง
  • ต้นหอม 5 ต้น
  • ขึ้นฉ่าย 3 ต้น
  • พริกชี้ฟ้าแดง 3 เม็ด
  • น้ำมันสำหรับผัด 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้าจีน 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 2 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. ทำความสะอาดปลากะพง โดยการถอดเกล็ด ผ่าท้องแล้วควักไส้ และ ถอดเหงือกออก ให้เรียบร้อย จากนั้น นำเกลือมาทาให้ทั่ว แล้วใช้น้ำล้างออก ซับด้วยกระดาษทิชชู่ซับมันให้แห้ง เมื่อแห้งแล้ว ให้ใช้มีด บั้งเนื้อปลา 3 บั้ง แต่ละด้าน เท่า ๆ กัน
  2. เตรียมซึ้งนึ่ง โดยต้มน้ำร้อนให้ร้อนจัด ด้วยไฟแรง จากนั้น นำปลากระพงใส่จานที่จะจัดเสิร์ฟ วางลงในซึ้งนึ่ง นึ่งปลาจนสุก ใช้เวลาประมาณ 10-12 นาที
  3. ปอกเปลือกขิง หั่นขิงเป็นแว่น ๆ แล้วซอยให้เป็นเส้นเล็ก ๆ เตรียมไว้ จากนั้น นำพริกชี้ฟ้าแดงมาผ่าครึ่ง เอาส่วนที่เป็นเมล็ดออก แล้วหั่นซอยให้เป็นเส้นเล็ก ๆ
  4. นำต้นหอม มาตัดเอาส่วนโคนแยกออกจากส่วนใบ แล้วหั่นโคนต้นหอมออกเป็นเส้น ๆ ส่วนใบต้นหอมให้หั่นออกเป็นท่อน ๆ ขนาดเท่ากัน เช่นเดียวกับขึ้นฉ่าย ให้ทำแบบเดียวกัน
  5. เตรียมทำน้ำราดซีอิ๊ว โดยตั้งกระทะ เปิดไฟแรง ใส่น้ำมันลงไป กลิ้งจนน้ำมันเคลือบกระทะทั้งหมด พอน้ำมันร้อนจัด จนมีไอร้อนขึ้นมาแล้ว ให้ใส่ ขิงซอย พริกชี้ฟ้าแดงซอย ขึ้นฉ่ายซอย ต้นหอมซอย ลงไป ผัดให้เข้ากัน แค่ให้พอมีกลิ่นหอม พอผักสลดดีแล้ว ให้ปิดไฟ แล้วนำผักเหล่านี้ มาโรยไว้บนตัวปลาตัวกระพง
  6. ตั้งกระทะใหม่ (ยังไม่ต้องเปิดไฟ) ใส่ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วดำหวาน ซีอิ๊วขาว เหล้าจีน น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ลงไป จากนั้น เปิดไฟกลางค่อนไฟแรง คนและผัดซอสให้เข้ากัน จนกว่าจะเดือดและข้นได้ที่ ระหว่างนี้ ให้คอยคนเป็นระยะ เพื่อไม่ให้ไหม้
  7. เมื่อซอสข้นเหนียวได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟ นำน้ำซีอิ๊วมาราดลงบนตัวปลากระพง เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ ปลานึ่งซีอิ๊ว เพิ่มเติมคลิก

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่
ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ปลานึ่งมะนาว

เมนูปลานึ่ง

นอกจาก ปลานึ่งซีอิ๊ว ก็มี ปลานึ่งมะนาวนี่และ ที่น่ารับประทานไม่แพ้กัน ซึ่งวิธีการทำก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ใส่กระเทียม พริกขี้หนูสวน รากผักชี น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ใส่เครื่องปั่น ปั่นทุกอย่างให้เข้ากัน เสร็จแล้ว นำมาราดลงบนตัวปลา แล้วนำไปนึ่งในซึ้งให้เนื้อปลาสุก เท่านี้ก็เป็นเสร็จ เป็นเมนู ปลานึ่ง ที่ทำง่าย และอร่อยอีกหนึ่งเมนู

ส่วนผสม

  • ปลากระพง 1 ตัว
  • กะหล่ำปลี 1/4 หัว
  • กระเทียม 30 กรัม
  • พริกขี้หนูสวน 20 กรัม
  • รากผักชี 4 – 5 ราก
  • ผักชี 4 – 5 ต้น
  • ผักชีผรั่ง 5 – 6 ต้น
  • ขึ้นฉ่าย 5 – 6 ต้น
  • น้ำมะนาว 6 ½  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 6 ½  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. ทำความสะอาดปลากะพง โดยการถอดเกล็ด ผ่าท้องแล้วควักไส้ และ ถอดเหงือกออก ให้เรียบร้อย จากนั้น นำเกลือมาทาให้ทั่ว แล้วใช้น้ำล้างออก ซับด้วยกระดาษทิชชู่ซับมันให้แห้ง
  2. ซอยกะหล่ำปลี เป็นเส้นเล็ก ๆ ใส่จานสำหรับรองตัวปลาไว้ เสร็จแล้ว หั่นรากผักชี ใบผักชี ผักชีฝรั่ง ขึ้นฉ่าย อย่างหยาบ ๆ เตรียมไว้
  3. เตรียมเครื่องปั่น ใส่กระเทียม พริกขี้หนูสวน รากผักชี น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ เสร็จแล้ว ปั่นส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
  4. วางปลากระพงลงบนกะหล่ำปลีที่รองในจาน ตักน้ำราดลงบนปลากระพงให้ทั่ว เสร็จแล้ว ต้มน้ำในซึ้งให้เดือด นำปลากระพงไปนึ่ง ด้วยไฟแรง เป็นเวลา 10 นาที
  5. พอครบเวลาให้นำออกมา รับประทานได้ หรือ ใครจะจัดใส่หม้อไฟตามชอบก็ได้ โดยให้ใส่กะหล่ำปลี ขึ้นฉ่าย ใบผักชี วางรองเอาไว้ เสร็จแล้ว นำปลามาวางด้าน บนราดน้ำมะนาวที่เหลือ เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ ปลานึ่งมะนาว เพิ่มเติมคลิก

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ปลานึ่งบ๊วย

ปลานึ่ง

ปลานึ่งบ๊วย เป็นเมนู ปลานึ่ง แบบอาหารจีน ๆ ที่เหมาะกับการทานข้าวต้มยามเช้ามาก ๆ โดยปลาส่วนใหญ่ที่นิยมมาทำเมนูนี้ ส่วนใหญ่นิยมใช้ ปลาเต๋าเต้ย หรือ ปลาจะละเม็ด แต่ใครไม่สะดวก เพราะหายาก ก็สามารถใช้ปลาชนิดอื่น ๆ แทนได้ ไม่ว่ากัน

ส่วนผสม

  • ปลาเต๋าเต้ย 1 ตัว (ใช้ปลาอื่น ๆ แทนได้)
  • หมูสามชั้น 50 กรัม (เอาเฉพาะเนื้อ ไม่ติดหนัง)
  • เห็ดหอม 2 – 3 ชิ้น
  • กระเทียมซอย ตามชอบ
  • พริกชี้ฟ้าซอย 1 เม็ด
  • ขิงซอย ตามชอบ
  • ขึ้นฉ่าย ตามชอบ
  • น้ำตาล 1 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
  • บ๊วยดอง 5 เม็ด
  • น้ำบ๊วยดอง 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำสต็อก ½ ถ้วย

วิธีทำ

  1. ใช้มีดบั้งเนื้อปลาทั้ง 2 ด้าน ให้เป็นรูปกากบาท
  2. ทำน้ำบ๊วยสำหรับราด โดยเตรียมชามผสม ใส่บ๊วยดอง 5 เม็ด แกะเอาเมล็ดออก น้ำบ๊วยดอง น้ำตาล ซีอิ๊วขาว น้ำสต็อก จากนั้น หั่นเอาหนังของหมูสามชั้นออก ให้เหลือแต่ส่วนเนื้อหมู เสร็จแล้ว หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไป คนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
  3. ต้มน้ำในซึ้งนึ่งให้เดือด พอเดือดดีแล้ว ให้นำปลาเต๋าเต้ยใส่จาน เป็นเวลา 5 นาที ระหว่างนี้ ให้ซอยกระเทียม พริกชี้ฟ้าแดง ขิงอ่อน เห็ดหอม ขึ้นฉ่าย เตรียมไว้
  4. พอเนื้อปลาเริ่มสุก ให้ราดน้ำบ๊วยที่ผสมไว้ลงไปให้ทั่ว วางกระเทียมซอย ขิงอ่อน เห็ดหอมหั่น ขึ้นฉ่าย ไว้ด้านบน นึ่งต่ออีก 10 นาที เพื่อให้เนื้อปลาสุกทั่วกัน
  5. พอครบเวลา ให้ยกออกมา ตกแต่งด้วย พริกชี้ฟ้าซอยไว้ด้านบน เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ ปลานึ่งบ๊วย เพิ่มเติมคลิก

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

เครื่องซีลสูญญากาศ จาก SGE การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ปลานึ่งสมุนไพร

เมนูปลานึ่ง

ใครชอบทาน ปลานึ่ง ห้ามพลาดกับเมนู ปลานึ่งสมุนไพร เพราะนอกจากกลิ่นจะหอมฟุ้งด้วยสมุนไพรนานาชนิดแล้ว เมื่อรับประทานเครื่องสมุนไพรต่าง ๆ ก็ยังช่วยบำรุงสุขภาพได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ส่วนผสม

  • ปลานิล 1 กิโลกรัม
  • ตะไคร้ 50 กรัม
  • รากผักชี 6 กรัม
  • ข่า 15 กรัม
  • พริกจินดาแดง 60 กรัม
  • เกลือ 1 1/2 ช้อนชา (ครึ่งช้อนชา ให้ใส่ตอนอยู่ในชามผสม)
  • ผงปรุงรส 1/2 ช้อนชา
  • กระเทียม 30 กรัม
  • หอมแดง 30 กรัม
  • ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
  • ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
  • ใบมะกรูดฉีก 6 ใบ (แยกใส่ตอนโขลกพริก 3 ใบ)
  • ต้นหอม 15 กรัม
  • ผักชี 1 ต้น
  • กะหล่ำปลี ตามชอบ

วิธีทำ

  1. เตรียมครกกับสาก ใส่ตะไคร้ รากผักชี ข่า พริกจินดาแดง ใบมะกรูดฉีก เกลือ กระเทียม หอมแดง ตำทุกอย่างให้เข้ากัน ให้พอแหลกอย่างหยาบ ๆ
  2. ตักเครื่องที่โขลกไว้ลงในชามผสม ใส่ซอสหอยนางรม ผงปรุงรส น้ำตาล เกลือ คนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
  3. แล่ปลานิลออกมาเป็นชิ้น ๆ จากนั้น ใส่ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้ว ใช้ผ้าขาวบางหรือพลาสติกแรปปิดเอาไว้ หัมกในตู้เย็น เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
  4. หั่นกะหล่ำปลีเป็นแผ่น หรือ เส้นเล็ก ๆ ตามชอบ วางลงบนจานสำหรับนึ่ง วางเนื้อปลาลงไป นึ่งในซึ้งนึ่งขณะที่น้ำเดือดจัด ใช้ไฟแรง นึ่งเป็นเวลา 20 นาที จนกว่าเนื้อปลาจะสุก
  5. พอครบเวลา ให้โรยหน้าด้วยใบมะกรูดฉีก ผักชี ต้นหอม นึ่งต่ออีก 5 นาที เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ ปลานึ่งสมุนไพร เพิ่มเติมคลิก

ปลานึ่งเต้าเจี้ยว

ปลานึ่ง

อีกหนึ่งสูตร ปลานึ่ง ที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารแบบจีน โดยการใช้เต้าเจี้ยวมาเป็นส่วนผสมในน้ำราด ทำให้แทนที่จะจิ้มทาน ก็สามารถตักเนื้อปลามารับประทานได้ทันที ใครชอบทานเนื้อปลาจิ้มกับเต้าเจี้ยว ต้องลอง !

ส่วนผสม

  • ปลาทับทิมแล่เอาแต่เนื้อ 700 ก.
  • ขึ้นช่าย 1 ต้น
  • ต้นหอม 2 ต้น
  • พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด
  • ขิงแก่ปอกเปลือก 20 กรัม
  • กระเทียมใหญ่ปอกเปลือก 4 กลีบ
  • เต้าเจี้ยว 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. แล่เนื้อปลาออกเป็นชิ้น ๆ จากนั้น หั่นขึ้นฉ่าย ต้นหอม ออกเป็นท่อน ๆ เตรียมไว้
  2. หั่นกระเทียม ออกเป็นแว่น ๆ และซอยขิง พริกชี้ฟ้าแดง ออกเป็นเส้นเล็ก ๆ
  3. ต้มน้ำในซึ้งนึ่งให้เดือด พอเดือดดีแล้ว ให้นำเนื้อปลาทับทิมใส่จาน นึ่งในซึ้งนึ่งเป็นเวลา 10 นาที
  4. ทำน้ำเต้าเจี้ยว โดยเตรียมชามผสม ใส่เต้าเจี้ยว น้ำมันงา ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย พริกไทยป่น คนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
  5. ตักน้ำเต้าเจี้ยวราดลงไปบนตัวปลาให้ทั่ว โรยหน้าด้วยขิงซอย พริกชี้ฟ้าแดง กระเทียม ขึ้นฉ่าย ต้นหอม นึ่งต่ออีก 5 นาที
  6. จัดจาน วางเนื้อปลาลงไป ราดด้วยน้ำเต้าเจี้ยว แล้วโรยหน้าด้วยขิงซอย พริกชี้ฟ้าแดงซอย เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ ปลานึ่งเต้าเจี้ยว เพิ่มเติมคลิก

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่
ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ปลานึ่งเต้าซี่

เมนูปลานึ่ง

ปลานึ่งเต้าซี่ จะใช้เต้าซี่เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งเป็นถั่วดำที่ถูกหมักกับเกลือแบบบจีน ที่มีรสชาติเค็มมัน เมื่อนำมาทำน้ำราดผสมกับน้ำตาลและพริกไทย ก็ยิ่งทำให้มีรสชาติหวานและมีกลิ่นหอม เมื่อนำมาราดปลาแล้วนำไปนึ่ง ก็จะได้ปลานึ่งที่มีรสชาติถูกปาก อร่อยไปอีกแบบหนึ่ง

ส่วนผสม

  • ปลาจะละเม็ด ขาว 1 ตัว
  • หมูสามชั้นเส้นยาว 1 ชิ้น หรือ เบคอนหั่น 1 แผ่น
  • เต้าซี่ 1 ½  ช้อนโต๊ะ
  • เห็ดหอม (แช่น้ำ) 3 ดอก
  • น้ำแช่เห็ดหอม 1 ถ้วย
  • ผักกาดขาว ลวกสุก 1/2 ถ้วย
  • ขิงอ่อนซอยตามยาว 1/2 ถ้วย
  • พริกชี้ฟ้า สีแดง ซอยเส้นยาว 1 เม็ด
  • พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. ล้างปลาจะละเม็ด ให้สะอาด เสร็จแล้ว ซับให้แห้ง และใช้มีดบั้งบนเนื้อปลา เป็นริ้วทั้ง 2 ด้าน
  2. หั่นผักกาดขาว เป็นชิ้น ๆ วางบนจานสำหรับนึ่ง เสร็จแล้ว นำปลามาวางไว้ด้านบน
  3. จัดวางเห็ดหอม เบคอนหรือ หมู 3 ชั้น หั่นบาง ขิงอ่อนซอย ไว้ด้านบนเนื้อปลาอีกทีหนึ่ง
  4. ทำน้ำราด โดยเตรียมชามผสม ใส่ เต้าซี่ น้ำตาลทราย โรย พริกไทยป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำมาราดปลาให้ทั่ว
  5. ต้มน้ำในซึ้งนึ่งให้เดือด พอเดือดดีแล้ว ให้วางจานปลาลงบนหม้อนึ่ง นึ่ง 8-15 นาที
  6. พอครบเวลา ให้ยกลง โรยด้วยพริกชี้ฟ้า และ ขึ้นฉ่าย ตกแต่งจานให้สวยงาม เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ ปลานึ่งเต้าซี่ เพิ่มเติมคลิก

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ปลานึ่งจิ้มแจ่ว

ปลานึ่ง

อยากทำปลานึ่ง แบบบ้าน ๆ ต้องเมนูนี้เลยกับ ปลานึ่งจิ้มแจ่ว สูตรจาก Youtuber ช่อง อร่อยพุง ที่ใช้ ข่า ตะไคร้ หอมแดง และใบมะกรูดฉีก ยัดเข้าไปในท้องปลาเพื่อดับกลิ่นคาว เมื่อนึ่งปลาจนสุกแล้ว ก็จะได้ปลาที่สุกหอม พร้อมรับประทาน ยิ่งจิ้มทานคู่กับน้ำพริกแจ่ว ก็ยิ่งอร่อย หากใครชอบทานปลานึ่ง แบบง่าย ๆ แล้วละก็ ลองไปทำตามสูตรนี้ได้เลย

ส่วนผสมปลานึ่ง

  • ปลาทับทิม 1 ตัว
  • เกลือป่น
  • มะนาว 1 ซีก
  • ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูก หอมแดง สำหรับยัดไส้
  • ผัก ตามชอบ

ส่วนผสมน้ำพริกแจ่ว

  • พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด
  • พริกแดงจินดา+พริกเขียว 1 กำ
  • กระเทียม 2 หัว
  • หอมแดง 5 หัว
  • มะเขือเทศเล็ก 3 ลูก
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือปลายช้อน

วิธีทำ

  1. นำปลาทับทิมมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้น ใช้กระดาษทิชชู่ซับให้แห้ง บั้งเนื้อปลาเป็นริ้ว 3 ริ้ว แต่ละด้าน เสร็จแล้ว ผ่าท้อง หั่นข่า ตะไคร้ หอมแดง เป็นชิ้น ๆ ใส่เข้าไป ตามด้วยใบมะกรูดฉีก
  2. โรยเกลือ และบีบน้ำมะนาว ลงบนปลาทั้ง 2 ด้าน ต้มน้ำในซึ้งนึ่งให้เดือด เสร็จแล้ว นำปลาใส่จาน นึ่งในซึ้งนึ่งเป็นเวลา 10 นาที พอครบเวลา ให้นำผักใส่จาน นึ่งต่ออีก 5 นาที
  3. ทำน้ำพริกแจ่ว โดยนำ พริกชี้ฟ้าแดง พริกแดงจินดา กระเทียม พริกขี้หนูสวน หอมแดง มะเขือเทศ ไปย่างให้พอไหม้ เสร็จแล้ว นำทุกอย่างมาใส่ครก โขลกให้ละเอียด
  4. ปรุงรสด้วย น้ำมะขามเปียก น้ำปลาร้า และเกลือ โขลกทุกอย่างให้เข้ากัน
  5. จัดจาน วางเนื้อปลาใส่จาน พร้อมผักตามชอบ ตักน้ำพริกแจ่วใส่ถ้วย เสิร์ฟคู่กัน เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ ปลานึ่งจิ้มแจ่ว เพิ่มเติมคลิก

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้
กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

เป็นยังไงกันบ้างกับเมนู ปลานึ่ง ที่นำมาฝากกัน ดูน่าอร่อยไม่แพ้ ปลาทอด หรือ ปลาย่าง เลยใช่มั้ยล่ะ ดังนั้น หากใครชอบทานเนื้อปลาที่ถูกปรุงสุก ด้วยวิธีการนึ่งแล้วละก็ สามารถลองไปทำตามสูตรที่นำมาฝากกันได้ รับรองว่าไม่ยาก แถมยังทำออกมาแล้วสวยงาม นำไปต่อยอดทำขาย เพื่อสร้างรายได้ได้อีกด้วย

ส่วนใครที่ซื้อปลามาแล้ว อยากจะแล่เนื้อเก็บไว้ สำหรับทำเมนูอื่น ไม่ว่าจะต้ม ผัด แกง ทอด แล้วอยากจะเก็บเนื้อปลาให้ยังคงมีความสดใหม่ แม้ผ่านไปแล้วหลายวัน แนะนำให้เก็บในบรรจุภัณฑ์อาหารแบบ ถุงซีลสุญญากาศ ของ SGE เพราะผลิตจากพลาสติกแบบ Food Grade คุณภาพดี เนื้อเหนียว แน่นหนา ช่วยป้องกันอากาศและแบคทีเรียไม่ให้สัมผัสกับวัตถุดิบโดยตรง จึงช่วยให้เก็บไว้ได้นาน และสามารถนำมาประกอบอาหารได้ในวันถัด ๆ ไป

ถุงซีลสุญญากาศ-cover

นอกจากนี้ ยังนำไปแช่แข็ง หรือ อุ่นในไมโครเวฟได้แบบไร้ปัญหา ไม่มีปัญหากรอบแตก หรือเสื่อมสภาพ สามารถทนต่ออุณหภูมิติดลบและความร้อนได้เป็นอย่างดี จึงช่วยให้คุณนำวัตถุดิบออกมาทำอาหารได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผัก หรือ เครื่องเทศต่าง ๆ  หากสนใจ ถุงซีลสุญญากาศ ของ SGE สามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sgethai.com/vacuum-bags/ หรือ สอบถามเพิ่มเติมทาง โทรศัพท์ หรือ Line ของเราได้เลย

22 มีนาคม 2022

โดย

Pres

ความคิดเห็น (Comments)

Leave A Comment