ข้าวสูญญากาศ เก็บได้นานแค่ไหน? มีปัจจัยอะไรที่ส่งผลต่อระยะเวลาเก็บ
อัปเดตเมื่อ วันที่ 28 ตุลาคม 2025

เคยเจอปัญหาซื้อข้าวสารมาเยอะ แล้วกินไม่ทันไหมคะ? สุดท้ายข้าวก็เริ่มมีกลิ่นอับ ชื้น หรือร้ายกว่านั้นคือมี “มอด” มาเยี่ยมเยือน! 😫 ปัญหาเหล่านี้ทำให้หลายคนเริ่มหันมาสนใจ ข้าวสูญญากาศ ที่เค้าว่ากันว่าเก็บได้นานกว่าข้าวถุงทั่วไปมาก ๆ แต่เอ๊ะ… มันจะนานได้จริง ๆ เหรอ? แล้วนานแค่ไหนกันแน่?
บทความนี้จะพาทุกคนไปหาคำตอบกันค่ะ ตั้งแต่เรื่องอายุการเก็บรักษา ข้อดีต่าง ๆ ไปจนถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการซีลสูญญากาศเลย จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
ทำไมข้าวสารถึงเสื่อมคุณภาพเมื่อเก็บไว้นานๆ?
ก่อนที่เราจะไปดูว่า ข้าวสูญญากาศ เก็บได้นานแค่ไหน เรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่า ว่าปัจจัยที่ทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพมีอะไรบ้าง ซึ่งปัจจัยหลักๆ ได้แก่
- ออกซิเจน การสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ข้าวหืน กลิ่นเปลี่ยน และเกิดการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย
- ความชื้น ความชื้นสูงทำให้ข้าวขึ้นราและเป็นแหล่งอาศัยของแมลงต่างๆ เช่น มอด
- แสงแดด/ความร้อน การโดนแสงแดดและความร้อนโดยตรงจะเร่งปฏิกิริยาการเสื่อมสภาพของข้าว
- แมลงและศัตรูพืช มอดและแมลงอื่นๆ สามารถเข้าถึงและทำลายข้าวสารได้ง่ายหากไม่มีการป้องกันที่ดี

ข้าวสูญญากาศ เก็บได้นานแค่ไหน?
ข้าวสูญญากาศ สามารถเก็บได้นานมากถึง 2 – 3 ปี เลยทีเดียวค่ะ ซึ่งปกติแล้ว ข้าวขาว ที่เราเก็บไว้ในถุงธรรมดาหรือในภาชนะที่ปิดไม่สนิท มักจะเก็บได้ประมาณ 1 ปี โดยที่คุณภาพจะเริ่มลดลงเรื่อย ๆ ส่วน ข้าวกล้อง ที่มีไขมันตามธรรมชาติสูงกว่า จะเก็บได้สั้นกว่า คือประมาณ 6 – 12 เดือน เท่านั้น เพราะมีโอกาสเกิดกลิ่นเหม็นหืนได้ง่ายกว่า
แต่ถ้าหากเราเปลี่ยนมาใช้ การซีลสูญญากาศ อายุการเก็บรักษาของข้าวก็เปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยค่ะ! เพราะว่าการดูดเอาอากาศ (ออกซิเจน) ออกไปจากถุงจนเกือบหมด แล้วปิดผนึกแน่นหนา มันช่วยกำจัดปัจจัยสำคัญที่ทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพและเน่าเสียไปเกือบทั้งหมดนั่นเอง
การซีลสูญญากาศ คือ การดูดอากาศออกจากบรรจุภัณฑ์ ทำให้ไม่มีออกซิเจนและลดความชื้นภายในถุง ซึ่งเป็นการขจัดปัจจัยหลักที่ทำให้ข้าวเสื่อมสภาพออกไป เมื่อไม่มีอากาศและสภาพแวดล้อมที่ทำให้แมลงและจุลินทรีย์เติบโต ข้าวสารที่ถูกซีลสูญญากาศอย่างถูกวิธี จะสามารถเก็บรักษาคุณภาพได้นานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และนี่คือตารางเปรียบเทียบระยะเวลาการเก็บข้าวค่ะ
| ประเภท | สถานที่เก็บ | ระยะเวลาการเก็บรักษา |
|---|---|---|
| ข้าวขาว | ตู้เก็บอาหาร (อุณหภูมิห้อง) | 1 – 2 ปี |
| ข้าวกล้อง | ตู้เก็บอาหาร (อุณหภูมิห้อง) | 6 – 12 เดือน |
| ข้าวขาว (ซีลสูญญากาศ) | ตู้เก็บอาหาร (อุณหภูมิห้อง) | 2 – 3 ปี |
| ข้าวกล้อง (ซีลสูญญากาศ) | ตู้เก็บอาหาร/อุณหภูมิห้อง | 1 – 2 ปี |
| ข้าวขาว/ข้าวกล้อง (ซีลสูญญากาศ) | ช่องแช่เย็น/ช่องแช่แข็ง | 3 ปี ขึ้นไป (อาจถึง 5 ปี หรือนานกว่า) |
ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาการเก็บข้าว
- ความชื้น ต้องควบคุมให้อยู่ในระดับต่ำ เพราะความชื้นสูงทำให้ข้าวขึ้นราและมอดเจริญเติบโตได้
- อุณหภูมิ อุณหภูมิสูงจะเร่งให้ข้าวเหม็นหืน (โดยเฉพาะข้าวกล้อง) และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ควรเก็บในที่เย็นและคงที่
- อากาศ/ออกซิเจน คือตัวการหลักที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นหืนและเป็นปัจจัยให้มอดอยู่รอด การซีลสูญญากาศจึงช่วยกำจัดตัวการนี้
- ชนิดของข้าว ข้าวกล้อง (มีไขมัน) จะเหม็นหืนเร็วกว่าข้าวขาว
เหตุผลที่ ข้าวสูญญากาศ เก็บได้นานกว่า

หัวใจสำคัญของการเก็บรักษาข้าวสูญญากาศให้อยู่ได้นานก็คือ “การเอาอากาศออก” ซึ่งอากาศนี่แหละคือตัวการร้ายที่ทำให้ข้าวเสียคุณภาพ!
1. ป้องกันมอดและแมลงศัตรูข้าว
มอดและแมลงต่าง ๆ ต้องการ ออกซิเจน ในการหายใจและการเจริญเติบโต เมื่อเราดูดอากาศออกจนเกือบหมด มอดที่อาจจะติดมากับข้าวตั้งแต่โรงสีหรือตัวอ่อนของมันก็จะไม่สามารถอยู่รอดและขยายพันธุ์ได้ จึงเป็นการป้องกันมอดได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเองค่ะ
2. ชะลอการเกิดกลิ่นเหม็นหืน
กลิ่นเหม็นหืนในข้าว โดยเฉพาะข้าวกล้องหรือข้าวที่มีจมูกข้าว (เพราะมีน้ำมัน) เกิดจากปฏิกิริยาของไขมันในข้าวกับ ออกซิเจน ในอากาศ (ปฏิกิริยาออกซิเดชัน) การซีลสูญญากาศจึงช่วยตัดวงจรของปฏิกิริยานี้ ทำให้ข้าวคงความหอมและความสดใหม่ได้นานขึ้นค่ะ
3. ป้องกันความชื้นและเชื้อรา
ความชื้นเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ข้าว ขึ้นรา หรือเสื่อมสภาพ การซีลข้าวในถุงพลาสติกหนาและปิดสนิทแบบสูญญากาศจะช่วย ป้องกันความชื้น จากภายนอกไม่ให้ซึมเข้าไปในเมล็ดข้าวได้ ทำให้ข้าวคงความแห้งและลดความเสี่ยงของการเจริญเติบโตของเชื้อราได้ดีเยี่ยม
4. รักษาคุณภาพ สี และรสชาติ
เมื่อข้าวไม่สัมผัสกับอากาศและความชื้นโดยตรง เมล็ดข้าวก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อม ทำให้ กลิ่นหอม รสชาติ และเนื้อสัมผัส ของข้าวถูกถนอมไว้ได้ดีกว่าการเก็บแบบทั่วไป เมื่อนำมาหุงก็ยังคงความนุ่มอร่อยเหมือนข้าวใหม่เลยล่ะค่ะ!!
ตัวช่วยในการซีลข้าวสูญญากาศ
การซีลข้าวสูญญากาศ ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เพราะทุกวันนี้เรามีอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราทำเองที่บ้านได้อย่างง่ายดาย ซึ่งตัวช่วยหลัก ๆ จะมีอยู่ดังนี้
เครื่องซีลสูญญากาศ

เครื่องซีลสูญญากาศ คือ เครื่องมือที่ใช้ดูดอากาศออกจากถุงบรรจุภัณฑ์ แล้วใช้ความร้อนปิดผนึกถุงให้แน่นสนิท ส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น
- เครื่องซีลสูญญากาศแบบภายนอก (External Vacuum Sealer) เป็นที่นิยมใช้ในครัวเรือน มีขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย เหมาะกับการซีลอาหารแห้ง อาหารแช่แข็ง และแน่นอนว่ารวมถึงข้าวสารด้วย
- เครื่องซีลสูญญากาศแบบห้อง (Chamber Vacuum Sealer) มีราคาสูงกว่า มีขนาดใหญ่กว่า มักใช้ในอุตสาหกรรมหรือร้านอาหาร เหมาะกับการซีลอาหารที่มีของเหลวร่วมด้วย แต่ก็ใช้ซีลข้าวได้ดีเช่นกัน
การมีเครื่องซีลสูญญากาศติดบ้านไว้ถือว่า คุ้มค่ามาก เพราะนอกจากจะใช้ซีลข้าวได้แล้ว ยังใช้ถนอมอาหารอื่น ๆ เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรือแม้กระทั่งของใช้ส่วนตัวให้พ้นจากความชื้นได้อีกด้วยค่ะ บอกเลยว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
ถุงซีลสูญญากาศ

การซีลสูญญากาศจะขาดถุงคุณภาพดีไม่ได้เลย! ถุงซีลสูญญากาศ ที่ใช้กับข้าวสารมักจะเป็นถุงพลาสติกหลายชั้นที่มีความหนาและทนทานเป็นพิเศษ โดยชั้นพลาสติกมักจะมีส่วนผสมของ ไนลอน (Nylon) หรือ พอลิเอทิลีน (Polyethylene) ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันการซึมผ่านของอากาศและก๊าซออกซิเจนได้ดี
- เลือกถุงที่มีคุณภาพ ควรเลือกถุงที่ทนทาน ไม่รั่วซึมง่าย และปลอดภัยสำหรับอาหาร (Food Grade) เพื่อให้การซีลมีประสิทธิภาพสูงสุด
- ขนาดและรูปแบบ ถุงซีลสูญญากาศมีหลายแบบให้เลือกใช้มากเลยค่ะ ทั้ง แบบเรียบ ลายนูน ถุงไนล่อน ในการซีลข้าวสูญญากาศนั้นส่วนใหญ่จะเป็น ถุงซีลสูญญากาศ จีบข้าง ค่ะ แถมยังมีหลายขนาดให้เลือกใช้ตามปริมาณข้าวที่เราต้องการซีลอีกด้วยนะคะ
บล็อคซีลข้าว

บล็อคซีลข้าว บล็อคกดข้าว หรือ กล่องแพ็คข้าวสูญญากาศ ไม่ใช่อุปกรณ์ซีลโดยตรง แต่เป็น ตัวช่วย ที่ใช้จัดระเบียบข้าวสารให้เป็นรูปทรง สี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่แน่นหนาและเป็นระเบียบ ก่อนที่จะนำไปซีลสูญญากาศ
- ข้อดี ช่วยให้จัดเก็บง่ายขึ้น ประหยัดพื้นที่ และดูสวยงามเป็นมาตรฐานเดียวกัน (เหมือนข้าวถุงสูญญากาศตามซูเปอร์มาร์เก็ต)
- วิธีการใช้ : ตักข้าวสารใส่ในบล็อค จากนั้นใช้ที่กดกดข้าวให้แน่น ก่อนนำไปบรรจุในถุงซีลและดูดอากาศออก
การใช้บล็อคซีลข้าวจะช่วยให้ถุงข้าวที่ซีลออกมามีรูปทรงที่แข็งแรง ไม่แตกง่าย และสะดวกต่อการจัดเรียงในตู้หรือชั้นเก็บของค่ะ
SET ซีลข้าวสูญญากาศ
เคล็ดลับเพิ่มเติมให้ข้าวสูญญากาศเก็บได้นานยิ่งขึ้น
ถึงแม้การซีลสูญญากาศจะยืดอายุข้าวได้นานมากแล้ว แต่ถ้าเราทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ก็จะช่วยให้ข้าวคงคุณภาพได้ดีที่สุด
- เลือกข้าวที่ใหม่และแห้งที่สุด ควรซีลข้าวที่เพิ่งสีใหม่ ๆ หรือมีความชื้นต่ำที่สุด การซีลข้าวที่มีความชื้นสูงจะทำให้เกิดไอน้ำภายในถุงและเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อรา
- เก็บในอุณหภูมิที่คงที่และเย็น ถึงแม้จะเก็บในตู้เก็บอาหารได้นาน แต่การเก็บในที่ที่อุณหภูมิไม่สูงและคงที่ เช่น ในห้องที่เย็น หรือตู้เย็น จะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของข้าวได้ดีกว่ามากเลยล่ะค่ะ
- หลีกเลี่ยงแสงแดด แสงแดดและความร้อนโดยตรงจะทำให้คุณภาพของข้าวลดลง ควรเก็บข้าวที่ซีลสูญญากาศไว้ในที่มืดและเย็น
- ตรวจสอบการรั่วซึม ก่อนเก็บ ควรตรวจสอบรอยซีลให้แน่ใจว่าปิดสนิท ไม่มีรอยรั่วหรือรอยแตกที่อากาศสามารถเข้าไปได้ เพราะถ้าอากาศเข้า การซีลสูญญากาศก็จะไร้ผลทันทีค่ะ
และทุกคนก็ได้รู้กันแล้วว่า ข้าวสูญญากาศ เก็บได้นานกว่า 2 – 3 ปี ในอุณหภูมิห้อง และอาจจะ นานกว่า 3 ปีขึ้นไป หากเก็บในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง! การหันมาซีลข้าวเองด้วย เครื่องซีลสูญญากาศ และ ถุงซีลคุณภาพ จึงเป็นทางเลือกที่ฉลาดและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ทำให้เรามั่นใจได้ว่าข้าวที่เราจะหุงทุกมื้อ จะยังคงคุณภาพดี หอม อร่อย เหมือนใหม่เสมอ! แถมยังซีลวัตถุดิบอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ใครกำลังเล็ง ๆ อยู่ ติดต่อเซลล์ SGE และเข้ามาลองฟรี ๆ ที่โชว์รูมได้เลยนะคะ 🥰
หวังว่าบทความนี้จะทำให้ทุกคนได้คำตอบว่า ข้าวสูญญากาศ เก็บได้นานแค่ไหน? รวมถึงรู้ว่ามีปัจจัยใดที่ส่งผลต่อการเก็บข้าวสูญญากาศ เพื่อจะได้เก็บข้าวสูญญากาศได้อย่างมั่นใจนะคะ
เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารสำคัญ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สามารถติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย




