ทำความรู้จัก พริกไทย
พริกไทย เป็นเครื่องเทศที่มนุษย์นำมาใช้ประกอบอาหารตั้งแต่โบราณ เดิมมีถิ่นกำเนิดในแถบตอนใต้ของเทือกเขากาต รัฐเกราละ ในประเทศอินเดีย ต่อมาเมื่อมีการค้าขายแลกเปลี่ยนผ่านเส้นทางสายไหมทางทะเล ระหว่างอินเดียกับอาณาจักรโบราณทางตะวันตกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรโรมัน หรือ อียิปต์โบราณ ฯลฯ ก็ได้ทำให้พริกไทยกลายเป็นที่รู้จักและเป็นเครื่องเทศยอดนิยมของคนทั่วโลก
ด้วยในสมัยโบราณ พริกไทยเป็นพืชท้องถิ่น ที่หาได้เฉพาะในอินเดีย แถมยังเป็นที่ต้องการสูง ทำให้ พริกไทยกลายเป็นของมีค่ามาก ๆ ถึงขนาดถูกเรียกขานกันว่าเป็น ทองคำสีดำ เลยทีเดียว จวบจนปัจจุบัน พริกไทย ก็ยังคงเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตกร เนื่องจากมีความต้องการสูงในตลาด และ ราคาขายค่อนข้างดี โดยหากวางขายในตลาด พริกไทยดำจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2xx – 3xx บาท ส่วนพริกไทยขาว ราคาอยู่ที่ 3xx – 4xx บาท
โดยพื้นที่ปลูกพริกไทยที่สำคัญของประเทศไทยนั้น ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดจันทบุรี ตราด และ ระยอง ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้ให้กับเกษตกรแล้ว ในแง่ของการส่งออก พริกไทย สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย จากการส่งออกเฉลี่ย 1.x – 4.x ล้านเหรียญสหรัฐฯ อีกด้วย ทำให้ พริกไทย นอกจากจะเป็นเครื่องเทศที่เราขาดไม่ได้แล้ว ยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้เราอย่างคาดไม่ถึงอีกด้วย
พริกไทย ใช้ทำอะไรได้บ้าง
พริกไทย ใช้ทำอาหารได้หลากหลายชนิด โดยในอาหารตะวันตก มักใช้ในการหมักเนื้อสัตว์สำหรับทำสเต็ก และ ปรุงรสอาหารต่าง ๆ ในอาหารไทยก็เช่นกัน มักใช้ปรุงรสอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเมนู ต้ม แกง ผัด ทอด ย่าง ต่างก็ใช้พริกไทยเป็นเครื่องเทศ เพื่อช่วยเพิ่มรสชาติ ตัวอย่างเช่น ไก่ย่างพริกไทยดำ หมูกระเทียมพริกไทยดำ ปูผัดพริกไทยดำ ข้าวต้ม หรือ ก๋วยเตี๋ยวต่าง ๆ เป็นต้น
พริกไทยแบบไหนที่คนนิยมใช้กัน
พริกไทยที่นำมาทำอาหาร ส่วนใหญ่ใช้อยู่ 2 ชนิดด้วยกันคือ พริกไทยดำ และ พริกไทยขาว โดยความแตกต่างของพริกไทยทั้ง 2 ชนิด ไม่ได้อยู่ที่สายพันธุ์ของต้นพริกไทยที่ปลูก แต่อยู่ที่ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว โดยมีความแตกต่างกัน ดังนี้
พริกไทยดำ : จะเก็บมาจากผลพริกไทยที่มีสีเขียวแก่ แต่ยังไม่สุก หรือ มีผลสุกอยู่ในรวงแค่ 1 เม็ด พอเก็บได้แล้ว จะถูกนำไปตากแห้งทั้งเปลือก จนกลายเป็นพริกไทยดำ
พริกไทยขาว : เก็บมาจากพริกไทยที่สุกเต็มที่ จนมีสีส้มหรือสีแดง มาแช่ในน้ำเพื่อลอกเปลือกออก แล้วนำเอาเฉพาะเมล็ดไปตากให้แห้ง
สรรพคุณของพริกไทยดำ
ไม่ใช่แค่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหาร แต่พริกไทยยังมีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายมากมาย โดยถึงแม้ส่วนใหญ่จะยังเป็นแค่ผลการทดลอง ยังไม่มีการวิจัยในคนทั่วไป พื่อยืนยันถึงประสิทธิภาพมากนัก แต่ก็อาจกล่าวได้ว่า พริกไทยมีสรรพคุณดังต่อไปนี้
1. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี
เนื่องจากพริกไทยมีรสร้อนแรง จึงช่วยกระตุ้นการหลั่งของน้ำย่อยในกระเพาะ ช่วยให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยลดการเกิดก๊าซในระบบทางเดินอาหาร แก้อาการจุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ อีกด้วย
2. ลดระดับคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด
พริกไทยดำ สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลในหลอดเลือดได้ เนื่องจากในพริกไทยดำมีส่วนประกอบของสาร “ไพเพอร์รีน” ที่มีคุณสมบัติในการควบคุมการก่อตัวของเซลล์ไขมันใหม่ให้ลดลง พร้อมกับทำลายเซลล์ไขมันเก่าที่สะสมอยู่ภายในร่างกายให้หมดไป ทำให้ไม่เกิดการสะสมของไขมัน ซึ่งเป็นสำเหตุสำคัญ ที่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
3. ช่วยลดความอ้วน
จากงานวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า พริกไทย อาจมีส่วนช่วยในการลดความอ้วนและลดน้ำหนักได้เมื่อมีฤทธิ์ทั้งช่วยกระตุ้นการหลั่งของกรดน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดี และ ยังช่วยควบคุมการก่อตัวของเซลล์ไขมัน ไม่ให้ไขมันที่ไม่ดีในเลือดเพิ่มสูง หากผู้ที่มีโรคอ้วนหรือน้ำหนักเกิน รับประทานพริกไทยในปริมาณที่เหมาะสม ก็อาจกลับมามีน้ำหนักที่ปกติได้
4. ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุที่สำคัญได้ดีขึ้น
ปัจจุบัน มีรายงานว่า สารไพเพอรีน ในพริกไทยดำ สามารถช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุที่สำคัญได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เซเลเนียม วิตามินบี เบต้าแคโรทีน เคอร์คูมิน รวมทั้งสารอาหารอื่น ๆ ทำให้หากได้รับพริกไทยคู่กับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ เช่น ขิง ข่า ขมิ้นชัน ฯลฯ ก็จะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากสารต่าง ๆ มากขึ้น
วิธีปลูกพริกไทยให้ได้ผลดี
วิธีปลูกพริกไทย นิยมปลูกโดยใช้ การปักชำ เพราะโตเร็วและให้ผลดี อีกทั้งโดยลักษณะทางพฤกษศาตร์พริกไทยเป็นพืชในตระกูลไม้เถาเลื้อย เวลาปลูกจึงไม่ต้องการรากแก้วที่แข็งแรง แต่ต้องการเสาหลักค้ำยันไว้ให้เลื้อยเติบโตได้ดี ดังนั้น หากไม่ปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ให้พริกไทยได้เลื้อยขึ้นไป ก็ต้องหาเสาไว้เป็นหลักให้กับต้นพริกไทยด้วย
วิธีปลูกพริกไทย
- เลือกเถาพริกไทย ให้ได้ช่วงความยาวประมาณ 5-7 ข้อ โดยในช่วง 5 – 7 ข้อนี้ ให้เลือกที่มีรากแก้ว กิ่ง และ ใบ ติดมาด้วย (ควรตัดออกมาปลูก 2 เถา เพื่อให้ได้ผลผลิตเยอะ และ ให้ไม้เถาเลื้อยสามารถเติบโตเป็นพุ่มไม้ได้)
- ตัดแต่งกิ่ง โดยถ้าตามกิ่งมีใบไม้เยอะ ให้ตัดใบไม้ออก เพื่อลดการคายน้ำ
- ขุดหลุมลึก ให้พอฝังเถาพริกไทยลงไปได้ประมาณ 3 ข้อ จากนั้น หาเสาปูนหรือเสาไม้มาปักลงดิน วางเถาพริกไทยแนบกับเสาไว้ แล้วกลบดินให้แน่น
วิธีดูแลรักษา
- ช่วงแรกให้รดน้ำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง จากนั้น ค่อย ๆ เว้นช่วง 2 – 3 วัน จนกระทั่งเมื่อโตเป็นพุ่มดีแล้ว ให้คอยรดน้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง โดยต้นพริกไทยจะเติบโตได้ดีที่สุด ในดินทั่วๆ ไปที่มีการระบายน้ำได้ดี และ มีอากาศ อบอุ่นและความชื้นที่พอเหมาะ
สำหรับใครที่อยากปลูกพริกไทยในบ้าน แต่ยังไม่มีกระถางต้นไม้ อยากจะได้กระถางราคาถูก ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ใช้งานได้ทนทาน สามารถลองเข้าไปดูกระถางต้นไม้ ของ SGE ได้ เพราะมีหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบกระถางผ้า และกระถางต้นไม้ ช่วยให้คุณปลูกพริกไทยที่บ้านได้อย่างง่ายดาย ราคาเริ่มต้นที่ 9 บาทเท่านั้น ! สนใจคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sgethai.com/plant-pot/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง โทรศัพท์ หรือ Line ของเราได้เลย
Leave A Comment