![220905-Content-รู้จัก-ปลาทูน่า-(มากุโระ)01 220905-Content-รู้จัก-ปลาทูน่า-(มากุโระ)01](https://www.sgethai.com/wp-content/uploads/2022/09/220905-Content-รู้จัก-ปลาทูน่า-มากุโระ01.jpg)
รู้จัก ปลาทูน่า (มากุโระ) แต่ละส่วน ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
เมื่อพูดถึง อาหารญี่ปุ่น คงเป็นอีกหนึ่งประเภท ที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมรับประทานกัน โดยอาหารญี่ปุ่นในบ้านเรานั้น มีหลายเมนู เช่น ซูชิ ซาชิมิ หรือเมนูอื่น ๆ อีกมากมาย บทความนี้ SGE จะพาไปรู้จักกับ “ปลาทูน่า หรือ มากุโระ” อีกหนึ่งวัตถุดิบในอาหารญี่ปุ่น ที่เป็นที่นิยมมาก ๆ แต่ละส่วนจะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย
ปลาทูน่า (มากุโระ) ญี่ปุ่น คืออะไร?
มากุโระ (Maguro) ที่มักได้ยิน คนเรียกกันในร้านซูชิ และร้านอาหารญี่ปุ่น คือ ชื่อญี่ปุ่นของ ปลาทูน่า นั่นเอง มากุโระเป็นหนึ่งในปลาที่คนญี่ปุ่น นิยมบริโภคในหลายรูปแบบ นิยมที่สุด คือ รูปแบบของปลาดิบ เช่น ซาชิมิ และซูชิ นั่นเอง
![220905-Content-รู้จักปลาทูน่า-(มากุโระ)02 220905-Content-รู้จักปลาทูน่า-(มากุโระ)02](https://www.sgethai.com/wp-content/uploads/2022/09/220905-Content-รู้จักปลาทูน่า-มากุโระ02.jpg)
ส่วนประกอบของ ปลาทูน่า(มากุโระ)
สำหรับเมนูอาหารญี่ปุ่น นอกจากปลาแซลมอนแล้ว ตามต้นตำหรับญี่ปุ่น ยังนิยมนำ ปลาทูน่า มาใช้ทำซูชิ และซาชิมิด้วย โดย เนื้อปลามากุโระ แต่ละส่วนนั้น สามารถจำแนกได้หลายแบบ เพราะตัวปลาชนิดนี้มีขนาดใหญ่ ทำให้แต่ละส่วน มีเนื้อ และไขมันที่ต่างกัน ดังนั้น เนื้อสัมผัส และรสชาติ จึงต่างกันไปด้วย มากุโระ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ด้วยกัน ได้แก่
![220905-Content-รู้จักปลาทูน่า-(มากุโระ)03 220905-Content-รู้จักปลาทูน่า-(มากุโระ)03](https://www.sgethai.com/wp-content/uploads/2022/09/220905-Content-รู้จักปลาทูน่า-มากุโระ03.jpg)
- อาคามิ (Akami) หมายถึง ส่วนเนื้อไม่ติดมัน เนื้อเป็นสีแดง และแน่น
- ชูโทโร่ (Chutoro) หมายถึง ส่วนที่มีมันผสมระดับหนึ่ง เนื้อออกสีชมพู มีไขมันสีขาวแทรกเป็นริ้ว ๆ มีรสหวานของไขมัน
- โอโทโร่ (Otoro) หมายถึง เนื้อที่มีไขมันเป็นส่วนใหญ่ เนื้อเป็นสีชมพูอ่อน มีไขมันแทรกอยู่ในเนื้อ เกือบทุกส่วน รสชาติหวาน มัน นุ่ม ละลายในปาก
ปลาทูน่า(มากุโระ) แต่ละส่วน มีอะไรบ้าง?
-
ส่วนเนื้อแดง
คือ เนื้อที่อยู่บริเวณส่วนกลางด้านข้างของตัวปลา จุดเด่น คือ เนื้อสีแดงสด ไม่มีแถบไขมันสีขาวเหมือนชูโทโร่ โอโทโร่ และใสเหมือนมองทะลุได้ มีชื่อเรียกว่า “อากามิ (Akami)” แต่ส่วนใหญ่ ในร้านซูชิเอง ไม่ค่อยเรียกชื่อนี้ จะเรียก มากุโระ เฉย ๆ นั่นเอง
อาคามินั้น เป็นเนื้อที่มีรสสัมผัสแน่น เนื่องจากมีไขมันแทรกอยู่น้อย ให้แคลอรี่ต่ำ แต่มีโปรตีนสูง จึงดีต่อสุขภาพ เมื่อเทียบกับโอโทโร่ และ ชูโทโร่ แล้ว เนื้อแดงอาคามิ รับประทานได้คล่องกว่า ด้วยสัมผัส และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกเต็มอิ่ม ไม่มีมันติดในปากหลังทานเสร็จ
-
ส่วนเนื้อมันส่วนกลาง
คือ เนื้อติดมันปานกลาง อยู่บริเวณส่วนท้อง และส่วนหลังของตัวปลา ที่ไม่รวมส่วนอื่น ๆ เรียกกันว่า “ชูโทโร่ (Chutoro)” จุดเด่นของชูโทโร่ คือ มีไขมันแทรกในปริมาณที่พอเหมาะ ซึ่งไขมันที่สามารถละลายได้ในปาก ผสมผสานกับความกลมกล่อมของรสชาติของเนื้อแดงอาคามิ เป็นความอร่อยที่ลงตัว สามารถทานได้ทั้งแบบซูชิ ทานดิบ ๆ หรือทานแบบย่าง ซึ่งชูโทโร่ เป็นส่วนที่นิยมทานกันเป็นอย่างมาก เพราะมีรสชาติมันกำลังดี
-
ส่วนเนื้อมันส่วนท้อง
คือ เนื้อที่ติดมันเยอะ เป็นเนื้อบริเวณท้องที่มีไขมันแทรกอยู่มากที่สุด จึงให้รสสัมผัสที่เนียนนุ่มติดมัน เรียกว่า “โอโทโร่ (Otoro) ” จุดเด่นของโอโทโร่ คือ หากรับประทานเข้าไปแล้ว จะให้ความรู้สึกว่า เนื้อสามารถละลายได้ในปาก และมีรสชาติที่หวานละมุนมาก โอโทโร่นั้น เป็นเนื้อส่วนที่มีราคาแพงมากที่สุด เมื่อนำมาทำเป็นซูชิ จึงถูกจัดให้เป็นซูชิสุดหรูนั่นเอง
![220905-Content-รู้จักปลาทูน่า-(มากุโระ)04 220905-Content-รู้จักปลาทูน่า-(มากุโระ)04](https://www.sgethai.com/wp-content/uploads/2022/09/220905-Content-รู้จักปลาทูน่า-มากุโระ04.jpg)
เนื้อปลา มากุโระ ส่วนพิเศษ (Unusual Cut)
เนื้อปลาส่วน Unusual Cut นี้ อาจจะมีขายแค่เฉพาะร้านที่แล่ปลาเองเท่านั้น เนื่องจาก ไม่ใช่ส่วนที่มีปริมาณมากในปลาแต่ละตัว หรือไม่ได้เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้บริโภค ประกอบไปด้วยหลายส่วน ดังนี้
-
เนื้อส่วนหน้าผาก
เป็นส่วนหน้าผากของมากุโระ เรียกว่า “โนเต็น (Noten)” มีไขมันในระดับใกล้เคียงกับชูโทโร่ แต่จะมีเส้นเอ็นแทรกอยู่ด้วย ให้รสสัมผัสที่นุ่ม มัน ละมุนแต่จะมีความหนึบอยู่เล็กน้อย จัดเป็นส่วนหายาก เพราะอาจมีเพียงแค่ 200 กรัมต่อปลาหนึ่งตัวเท่านั้น
-
เนื้อส่วนแก้ม
ในปลาทูน่า 1 ตัว จะมี เนื้อส่วนแก้มเพียง 2 ชิ้นเท่านั้น เรียกว่า “โฮโฮนิขุ (Hoho-niku)” จึงจัดว่าเป็นส่วนที่หายาก โฮโฮนิขุ มีเส้นใยทางอาหารสูง ไม่ว่าจะนำไปทอด หรือทำสเต๊กโดยใช้ความร้อน ก็จะได้เป็นเนื้อที่มีความนุ่มเช่นเดียวกันกับเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ๆ ให้สัมผัสคล้ายกับเนื้อหัวปลา หรือส่วนที่ติดกระดูกนั่นเอง
-
เนื้อส่วนคาง
เนื้อติดมันส่วนคาง เรียกว่า “คามะโทโร่ (Kamatoro)” เป็นเนื้อบริเวณด้านหลังของเหงือก เช่นเดียวกับ โฮโฮนิขุ โดยเนื้อส่วนคาง จะมีเพียง 2 ชิ้นเท่านั้น ในปลาทูน่า 1 ตัว จึงเป็นเนื้ออีกส่วนหนึ่งที่หาได้ยาก ในเนื้อส่วนคางโดยเฉพาะคามะโทโร่นั้น เป็นส่วนที่มีไขมันแทรกอยู่ คนญี่ปุ่นบางกลุ่ม นิยมรับประทานเนื้อส่วนนี้ เพราะนอกจากจะไม่มีไขมันในปริมาณที่มากเกินไปแล้ว ยังรับประทานได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับโอโทโร่
-
เนื้อส่วนมันติดกระดูก
เนื้อส่วนที่ติดกระดูก และเนื้อส่วนที่เหลือ บริเวณกระดูกส่วนกลางของตัวปลาทูน่า เป็นเศษเนื้อที่ชอบนำไปบดกัน เรียกกันว่า “นาคะโอจิ (Naga ochi)” มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์จากไขมันที่แทรกอยู่ และยังนิยมนำไปทำ เนกิโทโร่ เนื้อมากุโระโรยต้นหอม อีกด้วย
เป็นยังไงกันบ้างกับปลาทูน่า หรือมากุโระ จัดว่าเป็นปลาที่มีความพรีเมียม เพราะทุกส่วนในตัวปลา มีรายละเอียด และความอร่อยเฉพาะตัว ที่บอกเลยว่า ไม่ธรรมดาจริง ๆ คงทำให้หลาย ๆ คนหลายสงสัย และเข้าใจในแต่ละส่วนของปลาทูน่ากันมากขึ้นแล้ว สายนักชิมทั้งหลาย อย่าลืมไปหาทาน แล้วมาแชร์กันด้วยนะจ๊ะ
- แจก 10 เมนูทูน่า ทำตามได้ง่ายๆ เพียงแค่มีทูน่ากระป๋อง
- วิธีทำซูชิ 8 หน้า ยอดนิยม ทำกินเองที่บ้าน ทำขายสร้างอาชีพก็ดี
- รวมสูตร 5 เมนู ปลาแซลมอน ในหม้อทอดไร้น้ำมัน
- รู้หรือไม่ ข้าวญี่ปุ่น ต่างจากข้าวไทยอย่างไร? พร้อมบอก วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
เพื่อให้การเก็บปลาทูน่าของคุณเป็นเรื่องง่าย ๆ เก็บได้นาน คงรสชาติอาหารให้สดใหม่ ด้วยการถนอมอาหาร ด้วย เครื่องซีลสูญญากาศ ที่ใช้ร่วมกับ ถุงซีลสูญญากาศ รับรองว่าเก็บอาหารของคุณได้นานขึ้นอย่างแน่นอน รับรองสินค้าคุณภาพ บริการหลังการขาย ที่ประทับใจอย่างแน่นอน!! เลือกดูสินค้าจาก SGETHAI คลิกเลย 👈🏻
อ้างอิงข้อมูลจาก: chillchilljapan.com, allabout-japan.com
![S__42639447](https://www.sgethai.com/wp-content/uploads/2023/02/S__42639447.jpg)
30 มกราคม 2024
โดย
ลำดวน