รู้จัก โยเกิร์ต ประโยชน์มากมาย มีดีต่อร่างกายอย่างไร?

หนึ่งในอาหารยอดนิยมในหมู่สาว ๆ คงต้องมี “โยเกิร์ต (Yogurt)” อยู่ในลิสอาหารด้วยอย่างแน่นอน 😋 เพราะด้วยความที่หาซื้อง่าย มีรสชาติอร่อย อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสาว ๆ ถึงชอบซื้อตุนไว้ในตู้เย็นเพื่อเก็บไว้ทานยามโหยหาอาหารว่าง แล้วประโยชน์ของโยเกิร์ตที่ดีต่อสุขภาพเป็นอย่างไรกันนะ? ตาม SGE ไปดูกันเลยจ้าาาา . . .

โยเกิร์ต (Yogurt) คืออะไร?

เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนมสด, นมพร่องมันเนย หรือนมถั่วเหลือง โดยการใช้แบคทีเรีย แลคโตบาซิลัส เอซิโดซิส และสเตรปโตคอคคัส เทอร์โมฟิลลัส เป็นหลักใส่ลงไปหมักผลิตภัณฑ์นมต่าง ๆ แบคทีเรียเหล่านี้ช่วยย่อยน้ำตาลแล็กโทสในนมให้เป็นกรดแล็กติก ทำให้มีภาวะกรด และมีรสเปรี้ยวโดยมีความเป็นกรด – เบสอยู่ระหว่าง 3.8 – 4.6 นมเปรี้ยว มี 2 ชนิด คือ ชนิดแรกเป็นนมเปรี้ยวที่มีลักษณะเป็นน้ำคล้ายเครื่องดื่ม อีกชนิดหนึ่งเป็นนมเปรี้ยวที่มีลักษณะเหลวข้นที่เรียกว่า โยเกิร์ต

โยเกิร์ต 2021-1

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้
กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

โยเกิร์ตมีโปรตีนมากกว่านมถึงร้อยละ 20 แล้วยังมีวิตามิน และเกลือแร่อยู่หลายชนิดด้วยกัน ทั้งวิตามินบี, วิตามินดี และแคลเซียม แถมยังมีโพรไบโอติกส์อยู่มาก จึงเหมาะที่จะทานเป็นอาหารเช้าในทุก ๆ วัน เพราะไขมันต่ำ แต่มีสารอาหารมากมายที่จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แถมกินแล้วไม่อ้วนอีกด้วย

ประโยชน์ของโยเกิร์ต มีอะไรบ้าง?

1. แก้ท้องผูก
ท้องผูกเป็นอาการที่เกิดได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเด็ก หรือผู้ใหญ่ สาเหตุเกิดมาจากการกินอาหารที่มีกากใยน้อยเกินไป ซึ่งชาวบัลแกเรียนิยมกินโยเกิร์ตเป็นประจำ เพราะช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหาร และระบบขับถ่าย โยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่ดีต่อลำไส้จึงสามารถช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นภายในลำไส้ทำให้ขับถ่ายคล่องในทุก ๆ เช้า แล้วโยเกิร์ตยังช่วยแก้อาการท้องเสีย การติดเชื้อบริเวณลำไส้ได้อีกด้วย

2. ควบคุมน้ำหนัก
โยเกิร์ตอุดมไปด้วยโปรตีน จึงช่วยให้อิ่มท้อง แต่ถ้าหากต้องการลดน้ำหนัก ควรเลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ หรือกรีกโยเกิร์ต เพราะมีโปรตีนสูงเป็น 2 เท่าของโยเกิร์ตทั่วไป แล้วยังให้แคลอรี่ต่ำ เมื่อเทียบกับโยเกิร์ตที่แต่งกลิ่นธรรมชาติ ซึ่งแคลอรี่และน้ำตาลสูงมาก ทางที่ดีที่สุดคือ ควรผสมโยเกิร์ตกับผลไม้สด ๆลงไปเพื่อรสชาติที่อร่อยกลมกล่อม แล้วยังได้วิตามิน และไฟเบอร์อีกด้วย

3. ช่วยกระตุ้นการทำงานลำไส้
แลคโตบาซิลัสในโยเกิร์ต เป็นจุลินทรีย์ที่ร่างกายต้องการ ซึ่งจะไปช่วยหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ เอชไพโลไร ที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะ ลดการอักเสบของลำไส้ ยังมีผลการวิจัยว่าคนที่กินโยเกิร์ตเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้

4. ช่วยรักษาเชื้อราในช่องคลอด
สาว ๆ มักมีปัญหาเชื้อราบริเวณช่องคลอด ลองหันมากินโยเกิร์ตเป็นประจำดูสิ เพราะโยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ที่สามารถช่วยกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้อันเกิดเนื่องมาจากเชื้อราต่าง ๆ แค่รับประทานโยเกิร์ตเป็นประจำทุกวัน จะช่วยลดอาการช่วยลดการติดเชื้อลงถึง 3 เท่าเลย แล้วโยเกิร์ตช่วยรักษาช่องคลอดอักเสบอันเกิดจากเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรียได้

5. มีแคลเซียมสูง
โยเกิร์ตอุดมไปด้วยแคลเซียม และฟอสฟอรัส จึงช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟันให้แข็งแรง เพราะโยเกิร์ตมีกรดแลกติก ที่จะช่วยย่อยแคลเซียมให้เล็กลงทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมไปใช้ได้ง่ายขึ้น แคลเซียมที่ได้จากโยเกิร์ตจะทำให้กระดูกแข็งแรง ลดความเสี่ยงการเป็นโรคกระดูกพรุน ป้องกันความดันสูง ต้านมะเร็งลำไส้ ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งบริเวณเนื้อเยื่อกระดูก ที่สำคัญโยเกิร์ตให้โปรตีน และแคลเซียมสูงกว่านมธรรมดาทั่วไป

6. ช่วยลดกลิ่นปาก
เพียงแค่ทานโยเกิร์ตเป็นประจำ สามารถช่วยลดระดับไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก และลมหายใจมีกลิ่นเหม็น แล้วยังช่วยบำรุงเหงือก และฟัน ลดอาหารเหงือกอักเสบได้อีกด้วย สาเหตุที่ทานโยเกิร์ตแล้วช่วยให้ไม่มีกลิ่นปาก เนื่องจากแลคโตบาซิลลัส และสเตรปโตคอคคัส จะช่วยกำจัดแบคทีเรียในปาก จึงช่วยลดกลิ่นปากจากการสะสมของแบคทีเรียได้นั่นเอง

7. ช่วยลดคอเลสเตอรอล
การรับประทานโยเกิร์ตซึ่งมีโพรไบโอติกอยู่ด้วย จะสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในร่างกายได้ โยเกิร์ตจะช่วยลดคอเลสเตอรอล LDL ซึ่งเป็นไขมันชนิดเลวให้ลดลง แล้วการรับประทานโยเกิร์ตยังช่วยลดความดันโลหิต และยังกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานได้ดีขึ้นด้วย นอกจากนี้โยเกิร์ตยังช่วยลดระดับไตรกลีเซอรไรด์ กลูโคส และน้ำตาลในเลือด


▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

เครื่องซีลสูญญากาศ จาก SGE การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

คุณค่าทางโภชนาการของโยเกิร์ต

โยเกิร์ต 100 กรัม ให้พลังงานทั้งหมด 59 แคลอรี

ไขมัน : 0.4 กรัม คลอเรสเตอรอล : 5 มิลลิกรัม โซเดียม : 36 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม : 141 มิลลิกรัม คาร์โบไฮเดรต : 3.6 กรัม น้ำตาล : 3.2 กรัม
โปรตีน : 10.2 กรัม วิตามินบี 6 : 3 เปอร์เซ็นต์ วิตามินบี 12 : 13 เปอร์เซ็นต์
แมกนีเซียม : 3 เปอร์เซ็นต์ โรไบพลาวิน : 16 เปอร์เซ็นต์ สังกะสี : 3 เปอร์เซ็นต์
ไทอามิน : 2 เปอร์เซ็นต์ ไนอาซิน : 1 เปอร์เซ็นต์ ฟอสฟอรัส : 14 เปอร์เซ็นต์

วิธีทำโยเกิร์ต ทำเองได้ง่าย ๆ 

ส่วนผสม โยเกิร์ต
• นมสด 3.8 ลิตร (สามารถใส่นมผงเพิ่มโปรตีนได้)
• กรีกโยเกิร์ต หรือโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ​1⁄2 ถ้วย

ขั้นตอนการทำโยเกิร์ต

1. เทนมสดลงในหม้อ ใส่นมผงตามลงไป ใช้ไฟอ่อนต้มจนเดือด ปิดไฟ
2. พอส่วนผสมนมอุณหภูมิลดลงเหลือประมาณ 95 – 115 องศาเซลเซียส
3. ตักส่วนผสมผลไม้ หรือธัญพืชตามชอบเล็กน้อยลงไป คนผสมกับกรีกโยเกิร์ตให้เข้ากัน
4. เทกลับลงไปคนผสมให้เข้ากันแล้วตักใส่ภาชนะ แช่ตู้เย็น พร้อมเสิร์ฟ

👉 เมนูลดน้ำหนักด้วยโยเกิร์ต มีอะไรบ้าง? : โยเกิร์ตธัญพืช, สมูทตี้กีวีโยเกิร์ต, เมล็ดเจียโยเกิร์ต, อโวคาโดโยเกิร์ต, สลัดโยเกิร์ตผลไม้รวม

โยเกิร์ตไม่เหมาะสำหรับใครบ้าง?

  • การแพ้แลคโตส เกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดแลคเตสเอนไซม์ที่จำเป็นในการย่อยแลคโตส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่พบในนมอาจมีอาการ เช่น ปวดท้อง, ท้องเสียหลังจากบริโภคผลิตภัณฑ์นม ดังนั้น ผู้ที่แพ้แลคโตสอาจต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานโยเกิร์ต
  • การแพ้นม นมประกอบด้วยเคซีน ซึ่งเป็นโปรตีนที่บางคนแพ้ ซึ่งนมอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยา เช่น เป็นลมพิษ, คันบวมแดง ไปจนถึงภูมิแพ้ที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้
โยเกิร์ต 2021-3

การเลือกโยเกิร์ตเพื่อสุขภาพ

สำหรับการลดน้ำหนัก การควบคุมแคลลอรี่ มีดังนี้

  • โยเกิร์ตดัชชี่ ไขมัน 0% ให้พลังงาน 80 แคลอรี่
  • โยเกิร์ตเมจิ ไขมัน 0% รสธรรมชาติ ให้พลังงาน 70 แคลอรี่
  • โฟร์โมสต์โยเกิร์ต ไขมันต่ำ ให้พลังงาน 110 แคลอรี่
  • โยเกิร์ตโยลิดา รสธรรมชาติ ให้พลังงาน 70 แคลอรี
  • โยเกิร์ตดัชชี่ 0% Fat รสธรรมชาติ ให้พลังงาน 80 แคลลอรี่
  • โยเกิร์ตริชเชส Fiber รสธรรมชาติ ให้พลังงาน 80 แคลลอรี่
  • โยเกิร์ตเมจิบัลแกเรีย รสธรรมชาติ ให้พลังงาน 60 แคลลอรี่
  • โยเกิร์ตปาร์ตี้แดรี่ไลท์ ไขมัน 0% รสธรรมชาติ ให้พลังงาน 60 แคลอรี่
  • บัตเตอร์ฟลาย ออร์แกนิก โยเกิร์ต ให้พลังงาน 60 แคลอรี่

จะเห็นได้ว่าจากการศึกษาพบว่าผู้หญิงที่กินโยเกิร์ตเป็นประจำจะมีสุขภาพช่องคลอดดีช่วยป้องกันการผลิตแคนดิดาเป็นเชื้อราชนิดหนึ่ง และลดการอักเสบในช่องคลอดได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการออกกำลังลดพุง ลดหน้าท้อง ลดไขมัน ลดน้ำหนัก และนักกีฬา อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่แพ้นม แพ้แลคโตสควรระมัดระวังการกินเกิร์ตอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้เช่นเดียวกัน สามารถติดตาม บทความอื่นๆ ได้ที่นี่