ทำความรู้จัก พัดลม กับ โบลเวอร์ ต่างกันอย่างไร?
โบลเวอร์ นั้นจะให้กระแสลมแรงกว่าพัดลมปกติ โปลเวอร์ใช้งานได้ดีสำหรับโรงงาน และงานทำให้แห้ง พัดลม มีต้นทุนถูกกว่าเมื่อเทียบกับโบลเวอร์ ทั้งคู่เหมาะกับการทำความเย็น และการระบายอากาศ โบลเวอร์จะเน้นไปที่การทำงานในพื้นที่เจาะจง ส่วนพัดลมเน้นที่การทำความเย็น และระบายอากาศในวงกว้าง
ถ้าจะนิยามความต่างให้ชัดเจน สมาคมวิศวกรเครื่องกลแห่งประเทศญี่ปุ่น Japan Society of Mechanical Engineers (JSME) ได้กำหนดความแตกต่างของทั้งสองอุปกรณ์ดังนี้
พัดลม (Fan) ใช้เรียกอุปกรณ์ที่ทำงาน ณ ความดันที่น้อยกว่า 1 เมตรน้ำ หรือ 1 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว หรือ 27.7 นิ้วของน้ำ หรือ 1,000 มิลลิเมตรน้ำ อุปกรณ์ในประเภทนี้ส่วนใหญ่ จะมีชื่อเรียกว่า Centrifugal fans, Fan และ Exhausters
โบลเวอร์ (Blower) ใช้เรียกอุปกรณ์ที่ทำงาน ณ ความดันที่มากกว่า 1 เมตรน้ำจนถึง 10 เมตรน้ำ ในกรณีที่ต้องการสร้างอัตราการไหลของลมที่ความดันสูงกว่า 1 บาร์ หรือ 10 เมตรน้ำ จะต้องใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่าเครื่องอัดอากาศ (Air compressor)
การทำงานของโบลเวอร์
โบลเวอร์เองนั้นมีการทำงานคล้ายพัดลม แต่ก็ไม่ได้เหมือนเสียทีเดียว โบลเวอร์ทำงานเหมือนกังหันลมหมุนกลับทิศ มีใบมีดจำนวนหนึ่งติดอยู่กับโรเตอร์ ซึ่งเรียกว่า Impeller เจ้าใบพัดนี้ทำหน้าที่ดูดลม และกวาดอากาศรอบๆมัน โดยปกติก็คือจากด้านข้าง และด้านบน อากาศจะถูกเร่งให้เร็วขึ้นภายใต้การหมุนของใบพัด ก่อนทีจะถูกส่งออกไปด้วยความเร็วสูง
โบลเวอร์หอยโข่ง จะให้ปริมาณลมได้มาก และให้ความดันลมได้สูงพอประมาณ จึงเป็นแบบที่นิยมใช้มากที่สุด ตั้งแต่เครื่องปรับอากาศแบบหน้าต่าง จนถึงเครื่องส่งลมเย็นขนาดใหญ่ โบลเวอร์หอยโข่งมีชื่อมาจากลักษณะการทำงานของลม เป็นโบลเวอร์ที่ทำงานตามทิศทางการไหลของอากาศผ่านโบลเวอร์ ลักษณะพัดลมแรงเหวี่ยง (Centrifugal fan) ลมจะเกิดจากการหมุนของใบพัดที่ติดกับวงล้อ โดยการหมุนของล้อจะเกิดจากต้นกำลังจากภายนอก ทั้งพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า แรงพลังงานกลอื่น ๆ ที่ใช้เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการเคลื่อนที่ และใบพัดหมุน ได้ อากาศจากภายนอกจะถูกดึงเข้าสู่ตัวโบลเวอร์ ในแนวแกนหมุน และถูกเร่งให้มีความเร็วแรงขึ้น ๆ อากาศจะถูกเหวี่ยงออกไปปะทะกับตัวโครงโบลเวอร์ Blower Housing ที่มีลักษณะคล้ายก้นหอย และไหลออกจากโบลเวอร์ในแนวรัศมีของใบพัด แนวลมที่ออกจะตั้งฉากกับเพลาของล้อโบลเวอร์ ที่มีใบพัดเป็นตัวดึงลม พลังงานจลน์ของอากาศจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงาน ในรูปของความดันที่ปากทางออกของโบลเวอร์ ในแนวตั้งฉากกับเพลาของล้อโบลเวอร์
โบลเวอร์แบบนี้ อากาศจะไหลขนานกับแกนของใบพัด และตั้งฉากกับระนาบการหมุนของใบพัด ชุดใบพัดจะถูกติดตั้งบนแกนเพลาขับของมอเตอร์ต้นกำลัง ซึ่งอยู่ภายในตัวโบลเวอร์ ทำให้มอเตอร์สามารถระบายความร้อนออกไปกับอากาศที่ถูกขับเคลื่อน โบลเวอร์ชนิดนี้มีราคาถูก การทำงานของโบลเวอร์มีเสียงดัง เมื่อเปรียบเทียบกับโบลเวอร์แบบหมุนเหวี่ยง และมีช่วงการทำงานของโบลเวอร์ที่ไม่เสถียร จึงเหมาะกับงานระบายอากาศ และงานที่มีความด้านทานลมต่ำ โบลเวอร์แบบนี้ส่วนมากมีขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายง่าย สามารถแบ่งได้ 2 ชนิด คือ ลักษณะที่พัดลมเป็นเกลียว (Tube Axial Fans) และลักษณะที่พัดลมเป็นเส้นตรง (Vane Axial Fans) ข้อมูลจาก : tngroup.co.th
หลักเกณฑ์เบื้องต้นในการพิจารณาเลือก พัดลม และ เครื่องเป่าลม หลังจากการออกแบบมีดังนี้
1. เสียงที่เกิดจากการใช้งาน
2. ความเร็วในการหมุน
3. คุณลักษณะของ กระแสอากาศ
4. ช่วงอุณหภูมิที่ใช้งาน
5. การเปลี่ยนแปลงสภาพของการทำงาน
6. ข้อจำกัดของพื้นที่ และการจัดวาง
7. การบำรุงรักษาหลังการใช้งาน
8. ค่าใช้จ่ายในการซื้อ และการดำเนินการ
9. ใช้จ่ายหลังจากการใช้งาน
10.อายุการใช้งานของอุปกรณ์
11.ลักษณะของงานที่จะนำไปใช้งาน
ข้อมูลจาก : blowercenter.com
สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างโปลเวอร์กับพัดลม คือ โบลเวอร์จะสร้างลมที่เน้นไปในพื้นที่จำกัด ส่วนพัดลมจะใช้งานง่ายกว่า สามารถพกพาไปตามที่ต่าง ๆ และจะดูดลมบริเวณรอบ ๆ และปล่อยออกมาด้านหน้า โบลเวอร์จะเจาะจงกว่าคือ จะดูดอากาศจากด้านบน และด้านข้างมาเก็บไว้ก่อน และใช้ใบพัดเร่งความเร็วก่อนยิงไปยังตำแหน่งที่โฟกัสไว้
เปรียบเทียบการใช้งานแต่ละประเภทของพัดลมกับโบลเวอร์
มุมมอง | ทางเลือกที่ดีที่สุด |
---|---|
ค่าติดตั้งใช้งาน (upfront cost) | พัดลม |
ประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน | พัดลม |
การทำความเย็นในวงกว้าง | พัดลม |
ฟีเจอร์อำนวยความสะดวก | พัดลม |
แรงลมตรง | โบลเวอร์ |
ปริมาณแรงลมสูง | โบลเวอร์ |