![ประโยชน์ สรรพคุณ มะไฟ ประโยชน์ สรรพคุณ มะไฟ](https://www.sgethai.com/wp-content/uploads/2023/09/มะไฟ_result.webp)
ประโยชน์ มะไฟ ผลไม้รสเปรี้ยวอมหวาน อร่อยแถมดีต่อสุขภาพ!
มะไฟ ผลไม้ที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย รสชาติเปรี้ยวนำ หวานตาม อร่อยถูกใจใครหลายคน
นอกจากรสชาติที่มีเอกลักษณ์แล้ว มะไฟยังอุดมไปด้วยประโยชน์มากมาย จะมีอะไรบ้างนั้นตาม SGE ไปดูกันเลย!
รู้จักกับ มะไฟ ผลไม้วิตามินซีสูง
![รู้จักกับ มะไฟ ผลไม้วิตามินสูง รู้จักกับ มะไฟ ผลไม้วิตามินสูง](https://www.sgethai.com/wp-content/uploads/2023/09/1_result-2.webp)
มะไฟ (Burmese Grape) เป็นพืชพื้นเมืองของอินโดนีเซีย แพร่หลายทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในอินเดียและมาเลเซีย พบได้ทั่วไปในทุกพื้นที่ของประเทศไทย สำหรับชื่อท้องถิ่น ภาคใต้เรียก “ส้มไฟ” ส่วนชาวเพชรบูรณ์เรียก “หัมกัง” มะไฟจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลมีลักษณะทรงกลมเล็ก ออกเป็นพวง ผลอ่อนมีขนคล้ายกำมะหยี่ ผลแก่จะมีผิวเกลี้ยง เปลือกสีเหลืองครีม เนื้อเป็นพูเล็ก เนื้อฟูนุ่มฉ่ำน้ำ มีสีขาวขุ่นหรือสีชมพูตามสายพันธุ์ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน มีคุณประโยชน์และสรรพคุณทางยาหลายอย่าง นำมารับประทานเป็นผลไม้สด และทำเป็นเครื่องดื่มได้
สายพันธุ์มะไฟที่นิยมปลูกในประเทศไทย ได้แก่
- พันธุ์ไข่เต่า ผลกลมรี ก้นแหลม เนื้อสีอมชมพู รสชาติหวานอมเปรี้ยว
- พันธุ์เหรียญทอง ผลใหญ่ ก้นเรียบ สีขาวขุ่น หวานน้อยกว่าพันธุ์ไข่เต่า
- พันธุ์ข้าวเหนียวดำ ผลเล็ก เนื้อสีม่วง รสชาติหวานอมเปรี้ยว
- พันธุ์ทองสยาม ผลใหญ่ เนื้อสีขาวขุ่น หวานมากกว่าพันธุ์อื่น ออกผลดก
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น: ทรงพุ่มโปร่ง ลำต้นกลม เนื้อไม้แข็ง ลักษณะเป็นร่องเล็ก มีรอยแตก ความสูงประมาณ 10-15 เมตร
ใบ: ใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกัน เนื้อใบค่อนข้างบางและเกลี้ยง มีลักษณะเป็นรูปหอก ปลายเรียวแหลม ใบด้านบนมีสีเขียว พื้นผิวมัน ใบด้านล่างมีสีอ่อนกว่า
ดอก: ดอกออกเป็นช่อกระจุก สีชมพูอ่อนหรืออมเหลือง กลีบเลี้ยงมีสีเขียวปนเหลือง ก้านช่อดอกยาว ออกดอกตามลำต้น ซอกใบ และปลายกิ่ง
ผล: ออกเป็นพวง มีลักษณะทรงกลมเล็ก ผิวเปลือกบาง ผลอ่อนมีขนคล้ายกำมะหยี่ เมื่อผลสุกผิวจะเกลี้ยงไม่มีขน มีสีเหลืองอมครีม ภายในผลจะมีเนื้อฟูนุ่มฉ่ำน้ำ มีสีขาวขุ่นหรือขาวใสอมชมพู แล้วแต่สายพันธุ์ที่ปลูก มีรสชาติเปรี้ยวอมหวานและมีกลิ่นหอม
เมล็ด: มีลักษณะรูปไข่อยู่ข้างในเนื้อ เมล็ดมีผิวเรียบลื่นเป็นมันสีน้ำตาล
สรรพคุณและประโยชน์ มะไฟ
![สรรพคุณและประโยชน์ของ มะไฟ สรรพคุณและประโยชน์ของ มะไฟ](https://www.sgethai.com/wp-content/uploads/2023/09/4_result-1.webp)
สรรพคุณทางยา
1) ใบ
- ช่วยแก้พิษฝี
- ช่วยขับปัสสาวะ
- ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ
- ช่วยให้ชุ่มคอ แก้และบรรเทาอาการไอ
- ช่วยแก้โรคหวัด แก้ไข้มาลาเรีย
- ช่วยขับเสมหะและละลายเสมหะ
- ช่วยรักษากลาก เกลื้อน และโรคเรื้อน
2) รากสดหรือรากแห้ง
- แก้วัณโรค
- ช่วยดับพิษร้อน
- ช่วยแก้ฝีภายใน
- ช่วยรักษาโรคเริม
- ใช้แก้พิษตานซาง
- ช่วยบรรเทาอาการไข้ที่มีอาการปวดข้อ ปวดเข่า และมีผื่นคล้ายลมพิษ หรือ “ไข้ประดง”
3) ผล
- ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้อาการท้องร่วง
- ใช้เป็นยาช่วยย่อย รักษาอาการอาหารไม่ย่อย
4) เมล็ด
- บรรเทาอาการปวดท้อง
5) เปลือก
- ต้มใช้แก้โรคผิวหนัง แก้อาการผิวหนังอักเสบชนิดที่เป็นถุงน้ำและลอกออกมา
ประโยชน์
ผลของ มะไฟ เมื่อสุกแล้วสามารถนำมารับประทานสดและทำน้ำผลไม้ได้ มีวิตามินซีสูง ช่วยสร้างคอลลาเจน บำรุงผิวพรรณ เปล่งปลั่ง สดใส ผลอ่อนของมะไฟนำไป ปรุงอาหาร สตูว์ ดอง และ หมักทำไวน์
การปลูกและขยายพันธุ์ มะไฟ
![การปลูกและขยายพันธุ์ มะไฟ การปลูกและขยายพันธุ์ มะไฟ](https://www.sgethai.com/wp-content/uploads/2023/09/3_result-2.webp)
มะไฟ เป็นพืชที่ดูแลง่าย ปลูกได้ในดินทุกชนิด เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย นิยมขยายพันธุ์ด้วยการ เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และทาบกิ่ง ซึ่งทั้งสามวิธีนี้ ตอนกิ่ง จะนิยมมากกว่าวิธีอื่น เพราะให้ผลผลิตเร็วกว่า อย่างไรก็ตรม มะไฟ เป็นต้นไม้ที่สามารถปลูกระบบชิดได้ ไม่จำเป็นต้องเว้นระยะห่างระหว่างต้นมากเกินไป เพราะมะไฟออกลูกที่โคนต้น ไม่ได้ออกที่ยอดเหมือนไม้ผลอื่น นอกจากนี้ มะไฟยังสามารถปลูกไว้ในกระถางไซซ์ใหญ่แล้วใส่ดินตามปกติเหมือนพืชอื่นทั่วไป
เคล็ดลับการปลูกมะไฟที่ชาวสวนแนะนำ คือ ไม่ควรปลูกมะไฟเพียงอย่างเดียวในสวน ควรหากล้วยมาแซม เพราะกล้วยช่วยรักษาความชื้นไว้ในดินได้ดี
วิธีเพาะเมล็ดมะไฟ
ขั้นแรกให้เตรียมดิน (แนะนำให้ใช้ดินร่วนปนทราย) จากนั้นผสมกับปุ๋ยคอก รดน้ำให้ชุ่มชื้นพอสมควร จากนั้นนำเอาเมล็ดที่เตรียมไว้ปลูกลงดิน โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้นไว้ให้พอดี หากบ้านไหนมีพื้นที่น้อย สามารถปลูกแบบชิดได้ แต่ระมัดระวังอย่าปลูกชิดเกินไป เพราะอาจทำให้บังแสงกัน
การให้ปุ๋ยมะไฟ
การให้ปุ๋ยต้องมะไฟ ต้องให้อย่างเหมาะสม ระยะก่อนออกดอก ควรใส่ปุ๋ยสูตรที่ฟอสฟอรัส หรือ สูตรที่ตัวกลางสูง เช่น สูตร 10-30-10 สำหรับกระตุ้นรากและการผลิดอก แต่เมื่อติดผลแล้ว ให้ใส่ปุ๋ยสูตรที่โพแทสเซียม หรือ สูตรตัวท้ายสูง เช่น สูตร 13-13-21 หรือ 14-14-21 ปุ๋ย ช่วยเร่งกระบวนการเคลื่อนย้ายแป้ง น้ำตาล จากใบและต้นไปยังผล ช่วยให้ผลมะไฟมีสีสันสวยงาม น่ารับประทาน
การเก็บเกี่ยวผลผลิตมะไฟ
ใช้กรรไกรคมตัดขั้วทั้งพวงด้วยความระมัดระวัง เพราะหากทำหล่น อาจทำให้ผลช้ำเสียหายได้
เป็นอย่างไรกันบ้างกับประโยชน์ของ มะไฟ ผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานที่เรานำมาฝากกันนี้ มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าที่เราคิดใช่ไหม แต่ถึงอย่างนั้น ควรรับประทานมะไฟในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อป้องกันการท้องอืดหรือไม่สบายตัวด้วยนะคะ สำหรับใครที่อยากหาไม้ผลชนิดนี้มาปลูกไว้ในสวน อย่าลืมนำเทคนิคที่เราได้แนะนำไปใช้ รับรองว่า ได้มะไฟลูกดกอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : เมดไทย, ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพจังหวัดเชียงราย
![jha-profile](https://www.sgethai.com/wp-content/uploads/2023/06/jha-profile.webp)
30 มกราคม 2024
โดย
Wishyouwell.