วิธีทำ แกงบอน แกงไทยโบราณ พร้อมวิธีทำยังไงไม่ให้คันปาก
แกงบอน ทำกินยังไง ไม่ให้คันปาก มีรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบทั้ง 3 รส อร่อยกลมกล่อม หากใครอยากทานแกงไทยโบราณเมนูนี้แล้วละก็
SGE มี วิธีทำแกงบอน แบบละเอียดมาฝากแล้ว รับรองว่า อร่อยครบรส ทำทานเองได้ที่บ้านแน่นอน
สารบัญ
ทำความรู้จัก แกงบอน
แกงบอน เป็นอาหารพื้นบ้าน ทำจาก ก้านของต้นบอน มาต้มกับ พริกแกงคั่ว และ กะทิ ปรุงรสด้วย น้ำปลาร้า น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ แล้วโรยหน้าด้วยใบมะกรูด เนื่องจากยางของต้นบอนมีพิษ กินแล้วคันปาก ทำให้เวลาเก็บมารับประทาน ชาวบ้านจะพูดกับต้นบอนเพราะ ๆ ว่า “บอนจ๋า หวานมั้ยจ๊ะ” คนจึงนิยมเรียกชื่อ แกงบอน อีกอย่างหนึ่งว่า แกงบอนหวาน แกงผักหวาน หรือ แกงนางหวาน
รู้จัก ต้นบอน วัตถุดิบหลัก
ต้นบอน เป็นพืชในตระกูลเผือก มีขึ้นอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย คนภาคต่าง ๆ เรียกพืชชนิดนี้แตกต่างกัน เช่น บอนหอม (ภาคเหนือ) บอนจืด (ภาคอีสาน) บอนเขียว บอนหวาน (ภาคกลาง) สามารถนำเอาก้านของต้นบอน และ เหง้าใต้ดินมารับประทานได้ ด้วยใบไม้ มีลักษณะคล้ายกับหูช้าง ทำให้มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Elephant Ear หรือ Cocoyam, Dasheen เป็นต้น
แกงบอน ทำกินยังไง ไม่ให้คันปาก
ถึงแม้ก้านของต้นบอนจะนำมารับประทานได้ แต่เนื่องจากยางของต้นบอนมีพิษ หากไม่ปอกเปลือกออกให้ดี อาจทำให้กินแล้วคันปากได้ การทำแกงบอน จึงควรเลือกต้นบอนที่ยังอ่อนอยู่ และ มียางน้อย ส่วนใหญ่แล้ว เป็นต้นบอนที่ขึ้นอยู่ชายตลิ่งริมท้องร่อง ไม่ขึ้นอยู่บนบก
เมื่อเลือกต้นบอนอ่อนได้แล้ว ให้นำมาปอกเอาผิวก้านออกจนหมด แล้วต้มจนกว่าจะเนื้อนุ่มดี ประมาณ 30 นาที เสร็จแล้ว เทน้ำทิ้ง จึงนำมาแกงกินได้
วิธีทำแกงบอน ไม่ให้คันปาก
วิธีทำแกงบอน ก่อนอื่นจะต้องนำก้านของต้นบอนไปต้มหรือนึ่งจนสุกเสียก่อน เสร็จแล้ว จึงมาตำพริกแกง ต้มกับน้ำเปล่า หางกะทิ แล้วปรุงรส ด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำมะขามเปียก จนเปรี้ยวหวานเค็มตามชอบเสร็จแล้ว จึงค่อยใส่ก้านของต้นบอนลงไป ก็จะได้เนื้อต้นบอนที่นุ่ม เคี้ยวอร่อย โดยคุณสามารถใส่เนื้อปลาย่างลงไปในพริกแกง เพื่อเพิ่มความเค็ม และ กินเป็นเนื้อสัตว์ในน้ำแกงก็ได้ หรือ จะใส่เนื้อหมู เนื้อไก่ก็ได้เช่นเดียวกัน
ส่วนผสม
- ก้านต้นบอนอ่อน 8 ท่อน
- ปลานิลย่าง 1 ตัว
- หางกะทิ 1 ชาม
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
- น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูด 5 ใบ
ส่วนผสมพริกแกง
- พริกชี้ฟ้าแดงแห้งเม็ดใหญ่ 15 เม็ด
- หอมแดง 5 หัว
- กระเทียม 10 กลีบ
- ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- รากกระชาย 10 – 12 ราก
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อปลาร้า 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำแกงบอน
- ใช้มีดปอกเปลือกก้านต้นบอนอ่อนจนหมด แล้วหั่นเป็นท่อน จากนั้น นำไปนึ่ง หรือ ต้มจนสุก ใช้เวลา 30 นาที
- ทำพริกแกง โดยเตรียมครกกับสาก ใส่พริกชี้ฟ้าแดงแห้งเม็ดใหญ่ เกลือ ตำให้แหลก จากนั้น ใส่หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ซอย กะปิ เนื้อปลาร้า ตำทุกอย่างให้ละเอียดเข้ากัน
- ฉีกเนื้อปลานิลย่าง เป็นชิ้น ๆ แล้วใส่บางส่วนลงไปในพริกแกง ตำให้เข้ากันอีกรอบ
- ตั้งหม้อ ใส่พริกแกงลงไป ตามด้วย น้ำล้างครก 1 ถ้วย น้ำเปล่า และ หางกะทิ คนผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้ว นำไปตั้งไฟ ต้มให้น้ำเดือด
- ปรุงรสด้วย น้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ คนละลายเข้ากัน ให้มีรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ตามชอบ
- ใส่ก้านต้นบอนอ่อนที่ต้มสุกแล้วลงไป ตามด้วย เนื้อปลาย่าง ใบมะกรูด เป็นอันเสร็จ
ด้วยต้นบอนเป็นพืชท้องถิ่น ที่ขึ้นอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย คนไทยจึงนิยมนำ ก้านใบอ่อน มาทำ แกงบอน เพื่อรับประทาน แต่เนื่องจากมีพิษ กินแล้วมักทำให้คันปาก จึงเริ่มหากินได้ยากขึ้นทุกวัน หากใครอยากทำแกงไทยโบราณ เมนูนี้ไว้รับประทานที่บ้าน ลองไปทำตาม วิธีทำแกงบอน ที่ SGE นำมาฝากกันได้เลย รับรองว่า อร่อยกลมกล่อม กินกี่ครั้ง ก็ไม่มีคันปากแน่นอน
สำหรับใครที่อยากตำ พริกแกงคั่ว เพื่อทำแกงบอนด้วยตัวเอง แต่ไม่อยากตำเองให้เมื่อยมือ แนะนำให้ใช้ เครื่องบดพริกแกง จาก SGE เพราะด้วยใบมีดที่เฉียบคม จะทำให้หั่น บด ส่วนผสมแต่ละอย่างเข้ากัน ช่วยให้คุณสามารถทำพริกแกงออกมาได้ ในระยะเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น เหมาะกับทั้งการใช้ในครัวเรือนและธุรกิจร้านอาหาร ที่ต้องการพริกแกงไว้ใช้ในปริมาณมาก หากสนใจ คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sgethai.com/product/meat-mincer-mga/ หรือสอบถามทางโทรศัพท์ Line ของ SGE ได้เลย
29 สิงหาคม 2022
โดย
Pres
