เจาะลึก ไวน์หวาน (Dessert Wine) คืออะไร? ผลิตจากองุ่นสายพันธุ์ไหน?

ไวน์หวาน (Sweet Wine) ไวน์อีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ไวน์แดง ไวน์ขาว และสปาร์คกลิ้งไวน์

ไวน์ประเภทนี้ผลิตมาจากองุ่นพันธุ์อะไร ทำไมถึงหวานกว่าปกติ? และต้องกินกับอาหารแบบไหนถึงจะเข้ากัน? ตาม SGE ไปหาคำตอบกัน!

ไวน์หวาน (Sweet Wine) คืออะไร?

ไวน์หวาน (Dessert Wine / Sweet Wine) คือ ไวน์ที่มีรสหวานตามชื่อเรียก เพราะมีปริมาณของน้ำตาลมากกว่าไวน์ทั่วไป โดยสัดส่วนน้ำตาลในไวน์หวานมีมากถึง 5 – 28 % (น้ำตาลเหลือจากกระบวนการหมัก) โดยทั่วไปไวน์หวานจะมีรสชาติหวานอร่อยเข้มข้น และมีความหอมผลไม้ธรรมชาติ เช่น ปลือกส้ม แอปริคอ  มะตูม มะเดื่อ ลูกเกด น้ำผึ้ง และคาราเมล โดยประเทศที่ผลิตไวน์หวานจนได้รับความนิยมไปทั่วโลกมีทั้งนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย อิตาลี แคลิฟอร์เนีย โปรตุเกส และแคลิฟอร์เนีย

ไวน์หวานมีทั้งแบบ ไวน์แดง และ ไวน์ขาว หากเป็นไวน์ขาวต้องแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ ส่วนไวน์แดงจะเสิร์ฟที่อุณหภูมิห้องปกติ

เกร็ดความรู้ : ต้นกำเนิดของไวน์หวานมีมาตั้งแต่สมัยโรมัน ได้รับความนิยมควบคู่มากับไวน์ขาว โดยเฉพาะในยุโรป  ต่อมาได้แพร่กระจายไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ถูกยกให้เป็นเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย โดยไวน์หวานที่ได้รับความนิยมในสมัยนั้นคือ Tokaji จากฮังการี และ Constantia จากอัฟริกาใต้ (รองลงมา)

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ประเภท ไวน์หวาน มีอะไรบ้าง?

1. Fortified Wine

Fortified Wine เป็นไวน์ผสมเหล้า เพิ่มแอลกอฮอล์บริสุทธ์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผ่านการกลั่น เช่น Brandy (บรั่นดี) เข้าไปทำให้มีแอลกอฮอล์สูงกว่าไวน์ปกติ15 – 20 % มีหลากหลายชนิดตั้งแต่หวานไปจนถึง Semi-Dry นิยมดื่มก่อนทานอาหารและหลังอาหารช่วงคอร์สของหวาน

2. Lightly–Sweet Dessert Wine

Lightly–Sweet Dessert Wine ไวน์ที่มีรสหวานเล็กน้อยแต่ให้ความสดชื่น เหมาะสำหรับดื่มในช่วงบ่ายที่อบอุ่น ช่วยชูรสชาติของหวานที่ทำมาจากผลไม้และวานิลลา ตัวอย่างเช่น Gewürztraminer, Riesling, Müller-Thurgau, Chenin Blanc และ Viognier

3. Richly Sweet Dessert Wine

ไวน์หวาน ประเภทนี้ ผลิตจากองุ่นคุณภาพสูง ไม่ผ่านการปรุงแต่ง มีรสชาติหวานเข้มข้น อายุนานถึง 50 ปี เนื่องจากมีความหวานและกรดช่วยรักษาความสดใหม่เอาไว้

4. Sweet Red Wine

เป็นไวน์แดงที่อยู่ในประเภทไวน์หวาน ผลิตจากสายพันธุ์องุ่นเฉพาะที่ผู้ผลิตไม่เปิดเผยข้อมูล โดยประเทศผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่จะมาจากอิตาลี

5. Sparkling Sweet Wine

สปาร์คกลิ้งไวน์ที่มีรสหวาน ภายในบรรจุก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และกรดสูง ทำให้ไวน์ประเภทนี้มีรสชาติไม่หวานมาก แต่จะมีความซ่า ความสดชื่น ขณะดื่ม เช่น Demi-Sec จากฝรั่งเศส, Amabile จากอิตาลี และ Dulce จากสเปน ดื่มคู่กับของหวาน เช่น พายแอปเปิ้ล แครนเบอร์รี่-แอปเปิ้ล และเชอร์รี่ที่มีรสชาติเปรี้ยว

ไวน์หวานผลิตจากองุ่นพันธุ์อะไร?

พันธุ์องุ่นที่ใช้ผลิต ไวน์หวาน มีหลายสายพันธุ์ เช่น MOSCATO, MUSCAT, SEMILLON, NERO D’AVOLA และองุ่นสายพันธุ์พื้นเมืองชนิดอื่น ส่วนผลองุ่นที่นำมาหมักจะคัดเลือกองุ่นสุกคาต้น หรือใช้วิธีตากแดดตากลมจนลูกองุ่นเหี่ยวแห้งเกือบเป็นลูกเกดถึงนำมาหมักต่อไป

ลักษณะทั่วไปของไวน์หวาน

รสชาติหวาน มีปริมาณน้ำตาล 5% ขึ้นไป , ปริมาณแอลกอฮอล์น้อย – ปานกลาง ดื่มได้ทุกวัย (ไวน์หวานบางประเภทก็มีแอลกอฮอล์สูง)

ประโยชน์ของไวน์หวาน

  • ป้องกันโรคความจำเสื่อม
  • บรรเทาอาการไข้และเจ็บคอ
  • ลดความเสี่ยงของหัวใจ
  • ป้องกันโรคมะเร็ง

ไวน์หวาน เสิร์ฟแก้วแบบไหน?

แก้วทรง Port / Sherry

ลักษณะแก้วสำหรับเสิร์ฟไวน์หวานจะเป็นแก้วทรงเล็ก ปากแก้วแคบ เหมาะสำหรับไวน์หวานที่มีแอลกอฮอล์สูง ยิ่งมีแอลกอฮอล์สูง ปากแก้วยิ่งต้องเล็ก เพื่อรักษาความหวานของไวน์

ไวน์หวานกินกับอะไรอร่อย?

ไวน์หวานเป็นไวน์ที่ดื่มกับอะไรก็ได้ ถ้าเป็นอาหารคาวนิยมดื่มกับเนื้อรมควัน ส่วนอาหารหวานนิยมดื่มกับขนมทุกประเภท ทั้งเบเกอรี่ เค้ก ซอฟต์ชีส พุดดิ้ง บิสกิต ช็อกโกแลต เครมบรูเล่ รวมถึงผลไม้ชนิดต่าง ๆ ดื่มได้ทั้งก่อนมื้ออาหารเพื่อเรียกน้ำย่อย หรือดื่มหลังอาหารเพื่อล้างปาก

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🥺🙏🏻

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

เก็บไวน์ที่ดื่มไม่หมดไว้ที่ไหนดี? 

ตู้แช่ไวน์ SGE ออกแบบตามหลักสากล มอบสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดสำหรับการเก็บไวน์

ควบคุมอุณหภูมิ (5 – 20 องศาเซลเซียส) หน้าจอระบบสัมผัสระบบไฟ LED
ชั้นวางวัสดุคุณภาพละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ สะอาดปลอดสาร CFCประหยัดพลังงาน

สนใจ ตู้แช่ไวน์ ตู้จ่ายไวน์ คลิกเลย >> https://www.sgethai.com/wine-cellar/

ความหวานจากไวน์หวานได้มาจากไหน?

  • ขัดจังหวะการบ่มไวน์

ยีสต์เป็นตัวเปลี่ยนน้ำตาลให้กลายเป็นแอลกอฮอล์ ในกระบวนการผลิตเราจึงต้องแยกยีสต์ออกมาก่อนที่น้ำตาลจะกลายเป็นแอลกอฮอล์ทั้งหมด

  • เพิ่มความหวาน

วิธีนี้ไม่ได้หมายความถึงการเพิ่มน้ำตาล แต่จะเป็นการเพิ่มองุ่นสดเข้าไปเพื่อเพิ่มความหวานของไวน์

  • Noble Rot

วิธีนี้เป็นการใช้ “เชื้อรา” ทำให้องุ่นหวานขึ้น โดยเชื้อราที่ว่านั้นมีชื่อว่า Noble rot หรือ Botrytis cinerea ซึ่งเป็นเชื้อราที่คุกคามพวงองุ่น ทำให้องุ่นขาดน้ำและเหี่ยวเฉาคล้ายกับลูกเกด แต่ยังคงเหลือน้ำตาลและรสชาติที่เข้มข้นสูงเอาไว้ เชื้อรานี้จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยสภาพอากาศที่เฉพาะเจาะจงและเวลาเก็บเกี่ยวที่ถูกต้อง ทำให้ไวน์หวานที่ได้จากกระบวนการนี้มีราคาแพงกว่าไวน์หวานทั่วไป

  • ตากแห้ง (Straw Mat Wine)

วิธีนี้เป็นวิธีตากแห้งทั่วไป หลังจากเก็บเกี่ยว องุ่นที่ได้จะถูกนำมาตากแดดและนำไปหมักด้วยวิธีเฉพาะเพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้น

  • แช่แข็ง (Ice Wine / Eiswein)

วิธีนี้เป็นการเก็บเกี่ยวโดยคัดเลือกองุ่นที่แข็งคาต้น ต้องอาศัยสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่ประมาณอุณหภูมิ -7 องศา ทำให้ไวน์ประเภทนี้มีราคาแพงและหายากกว่าปกติ

ขอบคุณข้อมูลจาก : Wine Man

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

Wishyouwell.: