การปลูกพริก

1,834 Views

คัดลอกลิงก์

แชร์วิธี การปลูกพริก ในกระถาง สำหรับเก็บไว้ทานเอง ใช้เวลาไม่นาน

พริก เป็นพืชผักสวนครัวที่ขาดไม่ได้สำหรับอาหารไทย ซึ่งเป็นอาหารรสจัด ทำให้พริกอยู่คู่กับคนไทยมานานแสนนาน การปลูกพริก ไว้เองที่บ้านก็คงจะสะดวก และประหยัดเงินได้ไม่น้อย

พริกคืออะไร

พริก (Capsicum annuum) เป็นผลของพืชในกลุ่มสปีชีส์ Capsicum มีรสชาติเด่น คือ เผ็ด ร้อน อยู่ในตระกูล Nightshade ซึ่งอยู่ในจำพวกเดียวกันกับพริกหวานและมะเขือเทศ พริกมีหลายสายพันธุ์ เช่น พริกป่นและพริกฮาลาปิโน (jalapeño) ส่วนใหญ่ใช้เป็นเครื่องเทศ สามารถปรุงให้สุก ปรุงแห้ง หรือทำเป็นผงได้ พริกชี้ฟ้าแดงชนิดผง เรียกอีกอย่างว่า ผงปาปริกา (Paprika)

สารแคปไซซิน (Capsaicin) เป็นสารประกอบสำคัญทางชีวภาพที่สำคัญของพริก ซึ่งทำให้พริกมีรสชาติที่ไม่เหมือนใคร กลิ่นฉุน และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย

ข้อมูลทางโภชนาการของพริกแดงดิบ 15 กรัม ( 1 ช้อนโต๊ะ )

  • แคลอรี่: 6
  • น้ำร้อยละ 88
  • โปรตีน: 0.3 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต: 1.3 กรัม
  • น้ำตาล: 0.8 กรัม
  • ไฟเบอร์: 0.2 กรัม
  • ไขมัน: 0.1 กรัม

พริกให้สารอาหารคือคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และเส้นใยอาหารเล็กน้อย

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่

การปลูกพริก

ประโยชน์ของพริก

  1. พริกช่วยลดการอุดตันของเส้นเลือด หรือการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองอุดตัน การบริโภค พริก เป็นประจำจะช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากการอุดตันของเส้นเลือด นับเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหัวใจล้มเหลว เนื่องจากพริกช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความดัน เพราะว่าใน พริก มีสารจำพวกเบตาแคโรทีนและวิตามินซี ซึ่งช่วยเสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรงเพิ่มการยืดตัวของผนังหลอดเลือด ทำให้ปรับตัวเข้ากับแรงดันระดับต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
  2. พริกช่วยลดปริมาณสารคอเลสเตอรอล สารแคปไซซินช่วย ป้องกันมิให้ตับสร้างคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-Low density lipoprotein) ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้มีการสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-high density lipoprotein) มากขึ้น ทำให้ปริมาณของไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือดต่ำลง เป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค
  3. พริกช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง เนื่องจาก พริก เป็นพืชผักที่มีวิตามินซีสูง การบริโภคอาหารที่มีวิตามินซีมากๆ จะช่วยปกป้องการเกิดโรคมะเร็งได้ วิตามินซียับยั้งการสร้างไนโตรซามีนซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร วิตามินซีช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบของกระดูกอ่อน รวมถึงเป็นส่วนประกอบของผิวหนัง กล้ามเนื้อและปอด คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่สามารถหยุดกแพร่กระจายของเซลล์เนื้อร้ายได้ นอกจากนี้ วิตามินซียังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) คือสามารถยุติหรือขัดขวางบทบาทของอนุมูลอิสระ (free radicals) ที่จะก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์จนเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด สารเบตาแคโรทีนใน พริก ช่วยลดอัตราการเสี่ยงของโรคมะเร็งในปอด และในช่องปาก คนที่รับประทานผักที่มีสารเบตาแคโรทีนน้อย จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งมากกว่าคนที่รับประทานผักที่มีเบตาแคโรที นสูงถึง 7 เท่า คุณสมบัติของสารเบตาแคโรทีนจะช่วยลดอัตราการกลายพันธุ์ของเซลล์และทำลาย เซลล์มะเร็ง สำหรับ พริก บางชนิดที่มีสีม่วงจะมีสารพวกแอนโทไซยานิน ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ คือ สามารถทำลายอนุมูลอิสระได้เช่นกัน
  4. พริกช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด เช่น ลดอาการปวดฟัน บรรเทาอาการเจ็บคอ และการอักเสบของผิวหนัง เป็นต้น ในปัจจุบันมีการใช้สารแคปไซซินเป็นส่วนประกอบของขี้ผึ้ง ใช้บรรเทาอาการปวดอันเนื่องมาจากผดผื่นคันและอาการผื่นแดงบริเวณผิวหนัง รวมทั้งอาการปวดที่เกิดจากเส้นเอ็น โรคเกาต์ หรือโรคข้อต่ออักเสบ เป็นต้น นอกจากนี้ผลการทดลองใหม่ๆยังบ่งชี้ว่าสารแคปไซซินช่วยลดอาการปวดศีรษะและไมเกรนลงได้
  5. พริกช่วยเสริมสร้างสุขภาพและอารมณ์ดี เนื่องจากสารแคปไซซินมีส่วนในการส่งสัญญาณให้ต่อมใต้สมองสร้างสาร เอนดอร์ฟินขึ้น
    สารเอนดอร์ฟินเป็นเปปไทด์ขนาดเล็ก (โปรตีนสายสั้นๆ) มีคุณสมบัติคล้ายมอร์ฟีน คือ บรรเทาอาการเจ็บปวด ในขณะเดียวกันก็สร้างอารมณ์ให้ดีขึ้น ยิ่งรับประทานเข้าไปมากเท่าใด ร่างกายก็จะสร้างเอนดอร์ฟินขึ้นมามากขึ้นเท่านั้น ปกติร่างกายของคนเราจะสร้างสารเอนดอร์ฟินขึ้นภายหลังการออกกำลังกาย ดังนั้นการออกกำลังกายแม้จะทำให้ร่างกายเมื่อยล้า แต่ผู้ออกลังกายจะรู้สึกสดชื่นแจ่มใส ถ้าต้องการบรรเทาความเผ็ดของอาหารในปากควรดื่มแอลกอฮอล์ หรือรับประทานอาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบมากกว่าการดื่มน้ำ เพราะการดื่มน้ำมีผลเพียงช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนได้เท่านั้น แต่ความเผ็ดก็ยังไม่ได้ลดลง เนื่องจากว่า น้ำ ละลายสารดังกล่าวได้ไม่ดีนั่นเอง

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

เครื่องซีลสูญญากาศ จาก SGE การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ผลข้างเคียงของพริก

ความรู้สึกแสบร้อน

พริกเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีรสเผ็ดร้อนและแสบสารที่เป็นสาเหตุคือแคปไซซิน ซึ่งจับกับตัวรับความเจ็บปวด และทำให้เกิดความรู้สึกแสบร้อนอย่างรุนแรง ด้วยเหตุนี้ สารสกัดจากพริกจึงใช้เป็นส่วนผสมหลักในการทำสเปรย์พริกไทยในปริมาณสูง เพราะจะทำให้เกิดอาการปวด อักเสบ บวม และแดงอย่างรุนแรง แต่เมื่อเวลาผ่านไปการได้รับแคปไซซินเป็นประจำ อาจทำให้เซลล์ประสาทบางส่วน รับความรู้สึกความเจ็บปวดได้น้อยลง

อาการปวดท้องและท้องร่วง

การรับประทานพริก อาจทำให้เกิดอาการลำไส้แปรปรวนในบางคนอาจมีอาการปวดท้อง รู้สึกแสบร้อนในลำไส้ ลำไส้บิดตัว และท้องร่วงได้พบได้บ่อยในผู้ที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) พริกสามารถทำให้อาการแย่ลงกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทานเป็นประจำด้วยเหตุนี้ผู้ที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวน อาจต้องจำกัดการบริโภคพริก และอาหารรสเผ็ดอื่นๆ

ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง

มะเร็งเป็นโรคร้ายแรง ที่มีการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติ มีหลักฐานเกี่ยวกับผลของพริกต่อการเกิดมะเร็ง ทั้งในด้านบวกและด้านลบ  การศึกษาในหลอดทดลองและสัตว์ทดลอง ระบุว่าแคปไซซินซึ่งเป็นสารประกอบจากพืชในพริกอาจเพิ่มหรือลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งก็ได้ การศึกษาในมนุษย์ พบความเชื่อมโยงว่าการบริโภคพริกสามารถเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งถุงน้ำดี และมะเร็งกระเพาะอาหาร

ในประเทศอินเดีย ผงพริกสีแดงได้รับการระบุว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งช่องปาก และโรคมะเร็งลำคอ

 ไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าพริกเป็นสาเหตุของมะเร็ง แต่คนที่กินพริกในปริมาณมาก มีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็ง จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบว่าการบริโภคพริกอย่างหนักหรืออาหารเสริมที่มีสารแคปไซซินนั้นปลอดภัยในระยะยาวหรือไม่

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่

การปลูกพริก

การปลูกพริก ด้วยกระดาษทิชชู่

อุปกรณ์

  • เมล็ดพริกที่สมบูรณ์
  • กล่องพลาสติกถนอมอาหารหรือกล่องพลาสติกที่มีฝาปิด
  • กระดาษทิชชู่
  • มีด หรือคัตเตอร์
  • น้ำสะอาด

วิธีทำ

1 นำมีดมาเฉือนเม็ดพริกที่เราเตรียมไว้เป็น 2 ซีก แล้วให้เราแซะเอาเมล็ดพริกด้านในที่มีความสมบูรณ์ที่สุดมาวางใส่ลงในชาม

2 ถัดมาให้เรานำกระดาษทิชชู่มาวางที่ก้นของกล่องพลาสติกที่เราได้เตรียมเอาไว้ เทน้ำสะอาดใส่ลงไปให้ชุ่มแต่ไม่ต้องให้น้ำขังแผ่นกระดาษทิชชู่ นำเมล็ดที่เราได้เตรียมไว้ เกลี่ยให้กระจายทั่วกล่อง อย่าให้ทับซ้อนกัน

3 จากนั้นให้เราปิดฝากล่องให้สนิท แล้วนำไปแช่ที่ช่องแช่เย็นธรรมดาของตู้เย็น ทิ้งระยะเวลาเอาไว้ประมาณ 1 คืน

4 เมื่อครบเวลา 1 คืน ให้นำกล่องพริกออกมาวางในอุณหภูมิห้อง เป็นระยะเวลา 7 วัน โดยที่ยังไม่ต้องเปิดฝา ไม่ต้องใส่น้ำเพิ่มลงไป เราจะเห็นได้ว่า ต้นอ่อนของพริกจะค่อยๆมีการเติบโต จากนั้นเมื่อครบเวลาก็ให้นำลงปลูกในกระถางได้เลย

กล่องพลาสติกที่เราเลือกใช้ควรเป็นกล่องพลาสติกแบบใส เนื่องจากจจะได้สังเกตการเจริญเติบโตของพริกในกล่องได้

ดินที่เหมาะสมสำหรับ การปลูกพริก

ได้แก่ ดินร่วนปนทราย มีความอุดมสมบูรณ์ดี  การระบายน้ำดี  พริก ถ้าปลูกในฤดูฝนจะมีปัญหาว่าเป็นโรคเหี่ยว  เนื่อง จากเชื้อรา  และบัคเตรีเข้าทำลาย  ควร ปลูกพริก หมุนเวียนสลับกับข้าว  ถั่ว  และพืชอื่น ๆ

การปลูกพริก ในประเทศไทย ที่นิยม  และรู้จักกันทั่วไป มีอยู่ประมาณ  6  ชนิด

  1. พริกบางช้าง ขนาดของผล โตกว่า พริก มัน ผลตรงกลมโคนผลใหญ่  ปลาย เรียว  ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ  2.5  เซนติเมตร  ยาว  10-12  เซนติเมตร  ผิวเรียบ  ผลอ่อนสีเขียว  ผลแก่สีแดงจัด  รสไม่สู่เผ็ด  มีเนื้อมาก  เมล็ดน้อย  อบแห้งสีจะแดงดี
  2. พริกขี้หนู มีขนาดต่าง ๆ กัน ผลมีขนาดเล็ก  ผลสี เขียว  หรือเหลือง  พันธุ์ ทั่ว ๆ  ไป  ส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์ของท้องถิ่นต่าง ๆ  ผล แก่จะมีสีแดง  มีรสเผ็ดจัด
  3. พริกหยวก ผลโตป้อม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง  3-4  เซนติเมตร  ยาว  8-10  เซนติเมตร  ปลายทู่ไม่เกลี้ยงบุบ เป็นร่อง  มีเมล็ดในน้อย  ใส้ ใหญ่  สีเขียวแกมเหลือง  ผล แก่สุกแดงเป็นมัน  รสไม่สู้เผ็ด  หรือ เผ็ดน้อย  ราคาแพง  ปลูกกัน น้อยกว่า พริก อย่างอื่น
  4. พริกมัน ผลมันเรียบ ผลตรง  กลม  และเล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง  0.6  เซนติเมตร  ยาว  6-8  เซนติเมตร  มี เมล็ดในมาก  เมื่ออ่อนผลจะมีสีเขียวจัด  เวลาแก่เป็นสีแดง  รสเผ็ด
  5. พริกยักษ์ ผลโตป้อม  บริเวณรอบ ๆ  ข้อผลเป็นรอยบุ๋ม  ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6-8  เซนติเมตร  ยาว  10-12  เซนติเมตร  มี เมล็ดในน้อย  เนื้อผลหนา  สีผลเมื่ออ่อนเขียวจัดเป็นมันเวลาแก่สีแดง  รส ไม่เผ็ด  ปลูกได้ดีในช่วงเดือนตุลาคม  เก็บเกี่ยวประมาณเดือนธันวาคม  จะได้ราคาดี
  6. พริกสิงคโปร์ ขนาดผลโต เส้นผ่าศูนย์กลาง  1.5-2  เซนติเมตร  ยาว  8-12  เซนติเมตร  ปลาย งอหยิก  ผิวไม่เรียบ  มุมเป็นร่อง  ๆ  มีเมล็ดน้อย  ผลเมื่ออ่อนมีสีเขียวจัด  เวลาแก่เป็นสีแดง  มีรสเผ็ด

เมื่อพริกที่เราปลูกไว้ผลิดอกออกผลแล้วก็สามารถใช้ กรรไกรตัดกิ่งไฟฟ้า ของ SGETHAI แบบไร้สายที่มาพร้อมเเบตเตอรี่ให้ได้ใช้งานถึง 2 ก้อน พกพาได้ง่าย เสียงรบกวนน้อย ใช้งานได้สะดวกสบาย เหมาะสำหรับตัดเเต่งกิ่งไม้ทั้งในสวนหรือตกเเต่งทรงต้นไม้ให้สวยงาม

กรรไกรตัดกิ่ง


บทความที่น่าสนใจ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้
กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

2 พฤษภาคม 2024

โดย

Gab

ความคิดเห็น (Comments)

guest
0 Comments
โหวตสูงสุด
ใหม่สุด เก่าสุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด