ห้ามพลาด โหระพา สมุนไพรสุดยอดประโยชน์!
โหระพา มีการกระจายพันธุ์ไปทั่วโลกหลายพันปีมาแล้ว โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียและยุโรป กล่าวกันในบางตำราว่าอาณาจักรโรมัน ได้นำโหระพาไปเผยแพร่ทั่วทวีปยุโรป 🌿 แล้วจึงกระจายไปทั่วโลกในเขตร้อน และอบอุ่นทั่วโลก โหระพาจึงนับเป็นพืชจากแถบโลกเก่าทางตะวันออก ที่แพร่หลายที่สุดชนิดหนึ่งจนอาจกล่าวได้ว่าปัจจุบันการปลูกโหระพาในประเทศตะวันตกแถบอบอุ่น มีมากกว่าถิ่นกำเนิดเดิมคือเขตร้อนของเอเชียเสียอีก
โหระพา (Basil) จัดอยู่ในวงศ์กะเพรา มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียและแอฟริกา เป็นพืชพื้นเมืองของอินเดีย แต่แพร่หลายในเอเชียและตะวันตก โหระพาเป็นพืชสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม นิยมอย่างมากในการนำมาประกอบอาหารและแต่งกลิ่นของรสชาติให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น 👉 โดยสรรพคุณของโหระพาที่เรานำมาใช้ในการรักษาโรคหลักๆ แล้วจะใช้แค่ใบและน้ำมันสกัดจากใบโหระพาเป็นหลัก แต่ส่วนอื่นๆ ก็ใช้ได้เหมือนกันไม่ว่าจะเป็น รากหรือลำต้น ก็ถือว่ามีประโยชน์แทบทั้งสิ้นนะคะ วันนี้ SGE ขอนำเกล็ดความรู้มาฝากทุกคนค่ะ ไปดูกันเลย…

ประโยชน์และสรรพคุณ โหระพา
จากการศึกษาข้อมูลทางเพจ Disthai พบว่า โหระพาเป็นพืชที่มีกลิ่นหอม นิยมนำมาประกอบอาหารหลากชนิดในประเทศไทย ซึ่งช่วยปรุงแต่งกลิ่นรสของอาหารให้น่ากินยิ่งขึ้น ช่วยดับกลิ่นคาวของอาหารหลายชนิด เช่น ผัดหอย ผัดเนื้อ ใช้ใบปรุงอาหารเป็นผักโรยชูรสได้หลายชนิด เช่น แกงเผ็ด แกงเลียง ผัด ทอด 🌿 ส่วนใบและยอดอ่อนใช้กินเป็นผักสด เป็นเครื่องแนมอาหารคาวหรืออาหารว่างได้เป็นอย่างดี เพราะโหระพามีใบหนานุ่มกว่ากะเพรา รวมทั้งกลิ่นและรสชาติไม่เผ็ดร้อนเท่ากะเพรา จึงนิยมนำมาใช้เป็นผักจิ้มหรือกินสดมากกว่ากะเพรา 👉 รวมถึงนิยมใช้กินร่วมกับอาหารที่มีรสจัดและกลิ่นแรง เช่น จำพวกหลน (หลนไส้กรอก หลนแหนม หลนกะปิคั่ว ฯลฯ) จำพวกลาบ (ลาบปลาดุก ลาบเลือด ลาบเป็ด ฯลฯ) จำพวกยำ เมี่ยง แจ่ว ก้อย ส้มตำ ฯลฯ เป็นผักกินกับขนมจีนน้ำยา ปลาร้า ซ่าหมู ใช้ใส่ในแกงบางชนิด เช่น แกงเขียวหวาน แกงโสฬส และแกงเผ็ดหมู แกงเผ็ดไก่ เป็นต้น
ใบ | มีกลิ่นฉุน รสร้อน แก้ลมวิงเวียน ขับลมในลำไส้ ขับผายลม แก้ท้องขึ้น ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ปวดท้อง ทำให้เรอ แก้จุกเสียดในท้อง แก้พิษตานซาง ช่วยย่อยอาหาร แก้หวัดช่วยเจริญอาหาร |
---|---|
ต้น | แก้พิษตานซาง แก้เด็กนอนสะดุ้งผวาเพราะโทษน้ำดี |
เมล็ด | แก้บิด ทำให้อุจจาระไม่เกาะลำไส้ ถ่ายสะดวก เป็นยาระบาย ใช้พอกฝีรักษาแผลในกระเพาะอาหาร |

- ช่วยป้องกันความเสียหายในร่างกายของเราจากการทำลายของอนุมูลอิสระ
- ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย มีส่วนในการช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด
- มีฤทธิ์ในการช่วยลดคอเลสเตอรอลและแผ่นคราบพลัคในกระแสเลือด
- มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยขับหัวสิวและต้านการเจริญเติบโตของเชื้อสิว
- ใช้เป็นยาพอกเพื่อดูดซับสารพิษออกจากผิวหนังได้
- ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมสำหรับมารดาที่ให้นมบุตร ด้วยการนำใบมาต้มกับน้ำนมราชสีห์รับประทาน
- มีความเชื่อว่าเป็นยาบำรุงสุขภาพทางเพศได้อีกด้วย
- ช่วยรักษาอาการปวดศีรษะด้วยการใช้ยอดอ่อนต้มกับน้ำ แล้วนำมาดื่มเป็นชา หรือกินเป็นผักสด
- แก้อาการวิงเวียนศีรษะด้วยการนำใบมาต้มดื่ม
- น้ำมันโหระพามีคุณสมบัติช่วยให้จิตใจสงบ มีสมาธิ และช่วยลดอาการซึมเศร้า
- น้ำมันโหระพาช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัส
- น้ำมันโหระพาช่วยคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
- ช่วยรักษาอาการข้ออักเสบ แผลอักเสบด้วยการนำมาตำแล้วพอกหรือประคบ
- น้ำมันโหระพาสามารถใช้ฆ่ายุง ไร และแมลงได้ ด้วยการนำต้น ใบ ราก มาตำรวมกันให้ละเอียดแล้วใส่เหล้าขาวเล็กน้อยคนให้เข้ากัน แล้วนำไปตั้งไฟแค่พอร้อน ทิ้งไว้ให้อุ่นแล้วนำมาพอกที่เข่าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที วันละ 2 ครั้ง อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น
- ช่วยในการบำบัดรักษาโรคเข่าเสื่อม มีฤทธิ์ในการต่อต้านการอักเสบ
- ใบโหระพามีกลิ่นเฉพาะใช้เป็นผักสด นำมาใช้เป็นอาหาร แต่งกลิ่นอาหาร และใช้เป็นเครื่องปรุงรสในอาหาร
- น้ำมันโหระพาก็นำมาใช้ในการแต่งกลิ่นซอสมะเขือเทศ ผักดอง ลูกอม ไส้กรอก ขนมผิง หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่ม
- นำมาใช้ในการแต่งกลิ่นเครื่องสำอางบางชนิด

ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
- หญิงตั้งครรภ์ และหญิงที่กำลังให้นมบุตรสามารถรับประทานโหระพาในปริมาณปกติได้ แต่การใช้ในปริมาณมากอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
- สำหรับสตรีมีครรภ์และเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี รวมถึงผู้สูงอายุ ควรหลีกเลี่ยงน้ำมันหอมระเหยจากโหระพาเพราะทำให้เกิดอาการแพ้ง่าย
- ผู้ที่มีเลือดออกผิดปกติอาจเสี่ยงมีเลือดออกมากยิ่งขึ้นเมื่อรับประทานน้ำมันโหระพาหรือสารสกัดจากโหระพา เนื่องจากมีฤทธิ์ชะลอการแข็งตัวของเลือด
- เมื่อดื่มน้ำโหระพาคั้น ❌ อาจจะมีอาการข้างเคียง คือ จะทำให้มึนงงและระคายเคืองคอเล็กน้อย
- โหระพาอาจมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต ผู้มีความดันโลหิตต่ำควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพราะอาจส่งผลให้มีความดันลดต่ำเกินไปจนเป็นอันตรายได้
- ผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดควรหยุดใช้โหระพาหรืออาหารเสริมโหระพาในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงให้มีเลือดออกมาก

เมนู สปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้ง เบค่อน และโหระพา
ขอทิ้งท้ายด้วยสูตร สปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้ง เบค่อนและโหระพา สูตรของคุณ Nop Piriyanasorn เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ทำเองได้ง่ายๆ เส้นสปาเกตตีเหนียวนุ่ม ผสานรสเผ็ดร้อนจากพริกแห้ง แถมยังเพิ่มกลิ่นหอม ๆ ด้วยใบโหระพา รับรองว่าทุกคนจะต้องเปลี่ยนความคิดที่มีต่ออาหารฝรั่งแน่นอน ยิ่งกินกับ ผักโขมอบชีส ก็ยิ่งเข้ากันไปอีก เหมือนไปนั่งกินอยู่ที่อิตาลีเลย! ถ้าเพื่อน ๆ พร้อมแล้ว ตามมาดูส่วนผสมและวิธีการทำของ สปาเกตตีผัดพริกแห้ง กันเลยดีกว่า…
|
|
#ขั้นตอนการทำ สปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้ง เบค่อน และโหระพา
- ตั้งเตา เติมน้ำเปล่าในหม้อต้มให้เดือดพล่าน โรยเกลือเล็กน้อย ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ต้มนาน 7-8 นาที
- เมื่อเส้นสปาเก็ตตี้สุกในระดับ Al Dante ตักเส้นขึ้นพักไว้ในชาม พรมน้ำมันมะกอกเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน
- ระหว่างต้มเส้นสปาเก็ตตี้ เด็ดใบโหระพา หั่นเบค่อน พริกแห้ง และกระเทียม (หรือจะบดกระเทียมก็ได้ แล้วแต่ชอบ) เตรียมไว้
- ตั้งเตา ใส่น้ำมันมะกอก นำกระเทียมลงเจียวพอส่งกลิ่นหอม ตามด้วยพริกแห้ง จากนั้นก็เติมเบค่อนหั่นชิ้นลงไปทอดพอสุก
- ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ที่พักไว้ลงไปผัดให้เข้ากันดี ปิดเตา โรยใบโหระพาลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วตักม้วนใส่จานเพื่อเสิร์ฟได้เลย