ขนมเกาหลี

2,815 Views

คัดลอกลิงก์

10 สูตร ขนมเกาหลี ยอดฮิต อร่อยเอาใจอปป้า ทำเองได้ ไม่ต้องซื้อ

ขนมเกาหลี ที่น่าสนใจมีมากมาย SGE เลยรวมสูตรมาให้ ตั้งแต่ ดัลโกน่า ในซีรีส์ Squid Game ไปจนถึง คเยรันปัง อินจอลมี
และ ขนมสไตล์สตรีทฟู้ดอื่น ๆ อีกมากมาย รวมแล้วกว่า 10 สูตรด้วยกัน รับรองว่า ทำออกมาแล้ว หน้าตาครีเอทสวยงาม
รสชาติอร่อยฟิน เหมือนบินไปกินถึงเกาหลีเลยทีเดียว ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย

ดัลโกนาคุกกี้

ขนมเกาหลี

เริ่มกันที่ ดัลโกนาคุกกี้ (Dalgona) ขนมเกาหลี จากซีรีส์ชื่อดัง Squid Game ที่โด่งดังไปทั่วโลก หากใครอยากทำไว้รับประทาน หรือ เล่นกับเพื่อน สามารถทำเองไม่ได้ยากเลย เพียงแค่มีน้ำตาล เบกกิ้งโซดา น้ำเปล่า ก็ทำได้แล้ว แค่ต้องหาแม่พิมพ์รูปดาว วงกลม สามเหลี่ยม ร่ม มากดให้ขนมมีลายเหมือนในซีรี่ส์เท่านั้น เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ พร้อมทานเล่นอร่อย ๆ หรือ ท้าทายใครต่อใคร ให้มาเดิมพันด้วยได้ทันที

ส่วนผสม (1 ชิ้น)

  • น้ำตาล 20 กรัม (2 ช้อนโต๊ะ)
  • เบกกิ้งโซดา 1/8 ช้อนชา
  • น้ำเปล่าเล็กน้อย

วิธีทำ

  1. เทเบกกิ้งโซดา ใส่กระชอน ร่อนให้เบกกิ้งโซดาละเอียด เตรียมไว้
  2. ใส่น้ำตาล 20 กรัม หรือ ราว 2 ช้อนโต๊ะ ลงในหม้อต้มขนาดเล็ก ใส่น้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย พอให้ท่วมน้ำตาล นำไปตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อน ปล่อยให้น้ำตาลค่อย ๆ ละลายจนเริ่มไหม้เป็นสีเหลืองทองเล็กน้อยแล้ว ให้ใช้ตะเกียบ คนเรื่อย ๆ จนกว่าจะเป็นสีเหลืองทองคาราเมลทั้งหมด
  3. เมื่อตีจนเป็นสีเหลืองทองคาราเมล และ มีฟองปุดใหญ่ ๆ ขึ้นมา ให้ใส่เบกกิ้งโซดา 1/8 ช้อนชา หรือ ปลายช้อนลงไป คนต่อไปจนกว่าจะไม่มีฟอง และ ได้เนื้อคาราเมลเข้มข้น
  4. เมื่อได้เนื้อคาราเมลเข้มข้นแล้ว ให้เทใส่ถาดอบขนม ปล่อยทิ้งไว้ 10 วินาที แล้วใช้ภาชนะก้นเรียบ เช่น หม้อ จาน ชาม หรือ แก้วน้ำ กดให้แผ่นเรียบเสมอกัน จากนั้น นำแม่พิมพ์รูปต่าง ๆ เช่น รูปดาว ร่ม วงกลม สามเหลี่ยม มากดทับค้างไว้ 2-3 วินาที พักทิ้งไว้ให้เย็น เท่านี้เป็นอันเสร็จ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่

คอร์นด็อกเกาหลี

ขนม

คอร์นด็อกเกาหลี สูตรนี้ไม่ธรรมดา เพราะนำเอามันฝรั่งมาหั่นเต๋า แล้วคลุกแป้งข้าวโพด เพื่อทำเป็นเกล็ดคอร์นด็อก แทนเกล็ดดขนมปังแบบทั่วไป ทำให้ ขนมเกาหลี ชิ้นนี้ ดูอร่อยและน่ารับประทานมากกว่าเดิม สูตรจาก delicious day

ส่วนผสม

  • แป้งสาลี 150 กรัม
  • แป้งข้าวเจ้า 50 กรัม
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำตาล 30 กรัม
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • ยีสต์ 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 100 มิลลิลิตร
  • ไส้กรอก
  • ไม้เสียบลูกชิ้น
  • เกล็ดขนมปัง
  • มันฝรั่งหั่นเต๋า 1 ลูก + แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. เตรียมชามผสม ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป ตามด้วย น้ำตาล ยีสต์ ตีให้เข้ากัน
  2. ใส่แป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า เกลือ น้ำเปล่า แล้วใช้มือนวดทุกอย่างให้เข้ากัน จนกลายเป็นแป้งเนื้อเนียนละเอียด เสร็จแล้ว ใช้พลาสติกแรปปิดปากชาม พักแป้งทิ้งไว้ 10 – 15 นาที ให้แป้งฟูขึ้นเท่าตัว
  3. ระหว่างฟักแป้ง ให้นำไส้กรอกไปต้มในน้ำเดือด แล้วพักทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้น เสียบไม้ลูกชิ้น เตรียมไว้
  4. หั่นมันฝรั่งเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ จากนั้น ตักใส่ถุงพลาสติก แล้วใส่แป้งข้าวโพดลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน จนแป้งข้าวโพดเกาะทั่วมันฝรั่ง เสร็จแล้ว เทใส่จานเตรียมไว้ พร้อมกับ เทเกล็ดขนมปัง เตรียมไว้อีกจานหนึ่ง
  5. พอพักแป้งจนแป้งฟูขึ้นมาเท่าตัวแล้ว ให้เทใส่จาน นำไส้กรอก มาชุบกับแป้ง ให้ทั่วทั้งชิ้น แล้วใช้มือจุ่มน้ำ ลูบแป้งให้เรียบเนียน และ คลุมทั่วทั้งไส้กรอก
  6. นำมาชุบมันฝรั่งหั่นเต๋าคลุกแป้งข้าวโพด ต่อด้วยเกล็ดขนมปัง จนคลุมทั่วทั้งไม้ ให้สวยงาม
  7. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน เปิดไฟแรง วอร์มน้ำมันให้ร้อนดีแล้ว ใส่คอร์ด็อกลงไป ทอดให้มีสีเหลืองทอง ทั่วทุกด้าน เป็นอันเสร็จ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่

โมจิเกาหลี

ขนมเกาหลี

โมจิเกาหลี หรือที่ คนเกาหลีเรียกกันว่า อินจอลมี สามารถทำทานเล่น ๆ  ก็ได้ โดยการคลุกกับผงถั่วเหลืองเกาหลี แล้วรับประทาน หรือ จะทำเป็น บิงซู อินจอลมี ไว้ทานคลายร้อนก็ได้ เป็น ขนมเกาหลี ที่อร่อยและกินได้หลายวิธี แถมยังทำได้ง่ายมาก ๆ เมนูหนึ่ง

ส่วนผสม

  • แป้งข้าวเหนียวสำหรับทำโมจิ 100 กรัม (Glutinous Rice Flour)
  • น้ำตาล 8 กรัม
  • เกลือ 1 กรัม
  • น้ำร้อน 120 กรัม
  • ผงถั่วเหลืองเกาหลี 1 ถุง (Roasted Bean Powder)

วิธีทำ

  1. ทำโมจิเกาหลี โดยเตรียมชามผสมอาหาร ใส่แป้งข้าวเหนียว น้ำตาล เกลือ คนให้เข้ากัน
  2. จากนั้น ค่อย ๆ เทน้ำร้อนลงไป แล้วใช้ช้อนคน จนกว่าแป้งจะเนื้อเนียนข้น เป็นเนื้อเดียวกัน
  3. เอาพลาสติกแรปปิดไว้ ใช้ส้อมเจาะ เป็นรูระบายอากาศไว้ด้านบน แล้วนำไปอบในไมโครเวฟเป็นเวลา 3 นาที
  4. ใช้ไม้พายซิลิโคน ตบแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปคลุกกับผงถั่วเหลืองเกาหลีให้ทั่ว
  5. เสร็จแล้ว หั่นออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ เป็นอันเสร็จ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้
กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ขนมปังกระเทียมครีมชีส

ขนม

ขนมปังกระเทียมครีมชีส สูตรนี้ถือว่าฮิตกันมาในประเทศเกาหลี เพราะนอกจากจะมีรสชาติของเนยกระเทียมแล้ว ยังใส่ครีมชีสไว้ด้านใน ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่ชุ่มฉ่ำ หวานเค็มกำลังดี แถมหน้าตายังสวยงาม เหมาะกับการถ่ายอวดโซเชี่ยล รู้สูตรอย่างนี้แล้ว อย่าลืมไปลองทำ ขนมเกาหลี เมนูนี้กันด้วยล่ะ

ส่วนผสมแป้ง

  • แป้งขนมปัง  400 กรัม
  • น้ำตาลทราย 40 กรัม
  • ยีสต์  6 กรัม
  • ไข่ไก่เบอร์ 2 จำนวน 2 ฟอง
  • นมข้นจืด 200  มิลลิลิตร
  • น้ำมันรำข้าว 20 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

ส่วนผสมไส้ครีมชีส

  • ครีมชีส 500 กรัม
  • ครีมเทียมข้นหวาน 100 กรัม
  • น้ำมะนาว 10 กรัม

ส่วนผสมเนยกระเทียม

  • เนยเค็ม 250 กรัม
  • ครีมเทียมข้นหวาน 100 กรัม
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • กระเทียมสับ 75 กรัม
  • ออริกาโน่ 1 ช้อนชา
  • พาสเลย์ 1 ช้อนชา

วิธีทำแป้งขนมปัง

  1. เตรียมชามผสม ใส่ส่วนผสมที่เป็นของแห้งลงไปในโถผสม แป้งขนมปัง +ยีสต์ และน้ำตาลทรายตีด้วยความเร็วต่ำให้พอเข้ากัน
  2. จากนั้น ตวงนมข้นจืด 200 มิลลิลิตร เทลงไปในชามผสม ตามด้วยกลิ่นวานิลลา ไข่ไก่ ใช้เครื่องตี ตีจนแป้งจับตัวกันเป็นก้อนใส่น้ำมันรำข้าวลงไป ตีจนแป้งเนียน ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที  แป้งที่ได้ที่แล้ว จะขึงเป็นแผ่นฟิล์มได้
  3. รวบแป้งให้หน้าตึง พักแป้งประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง หรือจนกว่าแป้งจะฟูขึ้นเป็น 2 เท่า
  4. พอแป้งขึ้นฟูแล้ว แบ่งแป้งเป็น 6 ส่วนเท่า ๆ กัน จะได้แป้งก้อนละประมาณ 125 กรัม
  5. คลึงเป็นลูกกลมๆพักแป้งให้ฟูขึ้นประมาณ 80 %
  6. นำไปอบอุณหภูมิ 170 องศา ไฟบน-ล่างประมาณ 25  นาที จากนั้น พักให้เย็นสนิท

วิธีทำไส้ครีมชีส

  1. ทำไส้ครีมชีสต่อ ตีครีมชีส กับครีมเทียมข้นหวาน ตีจนขึ้นฟูเล็กน้อยจากนั้น ใส่น้ำมะนาว หรือจะเป็นน้ำเลม่อนก็ได้

วิธีทำเนยกระเทียม

  1. ทำเนยกระเทียม โดยนำเนยสดรสเค็ม ต้มด้วยไฟอ่อนจนเนยละลายหมด จากนั้น ดับเตา ใส่กระเทียมสับลงไป เพิ่มรสชาติหวานมันด้วยครีมเทียมข้นหวาน คนให้เข้ากัน
  2. ตีไข่ 2 ฟอง แล้วเทลงไปในหม้อ ใส่ออริกาโน่ พาสเลย์ คนให้เข้ากัน เทใส่ชาม

วิธีทำขนมปังกระเทียมครีมชีส

  1. ผ่าขนมปังเป็น 6 แฉก บีบไส้ครีมชีสลงไปตามร่อง
  2. นำมาชุบเนยกระเทียมให้ทั่วบีบครีมชีสลงไปตรงกลาง ตกแต่งด้วยพาสเลย์ นำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศา ไฟบน-ล่าง  ประมาณ 15-20  นาที เป็นอันเสร็จ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

เครื่องซีลสูญญากาศ จาก SGE การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ขนมซุปถั่วแดงใส่โมจิ

ขนมเกาหลี

ขนมซุปถั่วแดงใส่โมจิ ภาษาเกาหลีเรียกว่า Patjuk เป็นขนมเนื่องในโอกาสพิเศษของคนเกาหลี มักทำกินกันเฉพาะในวันเหมายัน ซึ่งเป็นวันที่กลางคืนยาวที่สุดของปี เพื่อเฉลิมฉลองและอวยพรให้คนในครอบครัว เพื่อนฝูง มีความสุข ประสบความสำเร็จ และ ขับไล่สิ่งที่ไม่ดีออกไป  ถือเป็น ขนมเกาหลี ท้องถิ่นอย่างหนึ่ง ใครอยากกิน ลองทำตามสูตรนี้ได้เลย รับรองว่า นอกจากจะอร่อยแล้ว อาจได้รับสิ่งดี ๆ ตามความเชื่อคนเกาหลีเข้าไปอีกด้วย

ส่วนผสม

  • ถั่วแดงแห้ง 1 ถ้วย
  • น้ำเปล่า 10 ถ้วยตวง (ต้มถั่วแดง)
  • แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง
  • น้ำร้อน 1 ถ้วยตวง
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา (ใส่แป้งโมจิ)
  • น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย + น้ำเปล่า 1 ถ้วย
  • เกลือ 2 ช้อนชา (ใส่น้ำซุป)
  • น้ำตาลทราย ตามชอบ

วิธีทำน้ำซุป

  1. นำถั่วแดงมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วพักให้สะเด็ดน้ำ
  2. ตั้งหม้อ ใส่น้ำเปล่าจนท่วม แล้วใส่ถั่วแดงลงไป ต้มด้วยไฟแรงเป็นเวลา 30 นาที พอครบแล้ว ให้ลดไฟเป็นไฟอ่อน ต้มต่ออีก 1 ชั่วโมง 30 นาที
  3. พอครบเวลาแล้ว ให้เตรียมกระชอนและชามผสม เทถั่วแดงและน้ำต้มถั่วแดงลงไป แยกเอาเนื้อถั่วแดงและน้ำต้มออกจากกัน เสร็จแล้ว พักทิ้งไว้ให้เย็น
  4. พอเย็นดีแล้ว ให้ใช้ช้อนหรือที่บด บดถั่วแดง ให้น้ำและเนื้อถั่วเหลว จากถั่วแดง ไหลลงไปในชามด้านล่าง หากน้ำเริ่มแห้งแล้ว ให้ใช้มือคั้นเนื้อถั่วแดงอีกรอบ เพื่อเอาน้ำและเนื้อถั่วแดงออกมาให้หมด ให้เหลือแต่เปลือก
  5. เทน้ำถั่วแดงที่ได้ ใส่หม้อต้ม แล้วต้มด้วยไฟกลาง

วิธีทำโมจิ

  1. ทำแป้งโมจิ โดยเตรียมชามผสม ใส่แป้งข้าวเหนียว น้ำตาล เกลือ คนให้เข้ากัน
  2. จากนั้น ค่อย ๆ เทน้ำร้อนลงไป แล้วใช้ช้อนคน จนกว่าแป้งจะเริ่มจับตัวเป็นตัวก้อน เสร็จแล้ว ใช้มือนวดแป้งต่อ จนกว่าเนื้อแป้งจะเนียนข้น เป็นเนื้อเดียวกัน
  3. เอาแป้งโมจิใส่ถุงพลาสติก พักทิ้งไว้ 20 นาที จากนั้น ใช้มือนวดต่ออีกรอบ จนเนื้อแป้งเนียนและนุ่ม
  4. พอครบเวลา ใช้มือดึงแป้งบางส่วนออกมา โรลให้เป็นม้วนกลมยาว แล้วแบ่งออกมาเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปั้นให้เป็นก้อนกลม ขนาดเท่า ๆ กัน
  5. พอน้ำถั่วแดงร้อนได้ที่แล้ว ใส่โมจิลงไป ต้มต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าโมจิจะสุก และ ลอยขึ้นมา
  6. เพิ่มความเข้มข้นของน้ำซุป ด้วยการผสมแป้งข้าวเหนียว ½ ถ้วย + น้ำเปล่า 1 ถ้วย คนให้ละลายดี แล้วเทลงไปในหม้อต้ม คนให้ละลายเข้ากัน แล้วปรุงรสด้วยเกลืออีก 2 ช้อนชา
  7. พอน้ำซุปมีความข้นเหนียว เข้มข้นดีแล้ว ให้ตักเสิร์ฟใส่ชาม โรยหน้าด้วยน้ำตาลทรายตามชอบ เป็นอันเสร็จ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

คเยรันปัง

ขนม

คเยรันปัง (gyeranppang) ขนมปังสไตล์สตรีทฟู้ดแบบใหม่ของคนเกาหลี ซึ่งจะมีลักษณะเป็นขนมปังชิ้นเล็ก ๆ ทรงวงรีอยู่ด้านล่าง ด้านบนท็อปปิ้งด้วยชีส ไส้กรอก และ ไข่ นำไปอบจนสุกดี ชิ้นพอดีคำ น่ารับประทาน ซึ่งถ้าหากใครอยากกินไม่ต้องบินไปถึงเกาหลี สามารถทำตามสูตรนี้ได้เลย อร่อยไม่แพ้ต้นฉบับ แถมยังสามารถปรับเปลี่ยนท็อปปิ้งได้เองตามใจชอบ

ส่วนผสม

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1.5 ถ้วยตวง
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • เนยจืดละลาย 1/3 ช้อนโต๊ะ
  • เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
  • ชีสหั่นเส้น 1 ชิ้น
  • ไส้กรอก 1 ชิ้น
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง (ท็อปปิ้ง)

อุปกรณ์

  • แม่พิมพ์ขนมปังรูปวงรี

วิธีทำ

  1. เตรียมชามผสม ใส่น้ำตาลทราย ไข่ไก่ ตีให้ละลายเข้ากัน
  2. จากนั้น ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ เบกกิ้งโซดา เกลือ น้ำเปล่า คนให้ทุกอย่างละลายดี จนเป็นเนื้อแป้งเหลว เนื้อเนียนข้น
  3. นำพู่กันจุ่มเนยละลาย แล้วทาให้ทั่วแม่พิมพ์ขนมปังรูปวงรี
  4. เทแป้งเหลวลงไปในแม่พิมพ์ ประมาณ 1/3 ส่วน จากนั้น พับชีสครึ่งหนึ่งใส่ลงไป ตามด้วยไส้กรอกหั่นชิ้น และ ไข่ไก่ทั้งฟอง
  5. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที เป็นอันเสร็จ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้
กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ขนมหยักกวา

ขนมเกาหลี

ขนมหยักกวา (Yakgwa) ขนมเกาหลี แบบท้องถิ่น ที่แต่ก่อนเป็นขนมชาววัง หรือ ขนมของขุนนางชั้นสูงเท่านั้น ก่อนที่จะกลายเป็นขนมที่นิยมกันทั่วไป ลักษณะเป็น คุกกี้เคลือบน้ำตาล ใช้น้ำเชื่อมข้าวเป็นส่วนผสมหลัก ทั้งในส่วนของแป้งคุกกี้และน้ำเชื่อม ทำให้มีรสชาติหวานอร่อย ทานได้ทุกเวลา

ส่วนผสมแป้งขนม

  • แป้งอเนกประสงค์ 250 กรัม
  • ผงอบเชย 1 ช้อนชา
  • น้ำตาล 100 กรัม
  • น้ำเชื่อมข้าว 25 มิลลิลิตร
  • น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร
  • น้ำมันพืช 50 มิลลิลิตร

ส่วนผสมน้ำเชื่อม

  • น้ำเชื่อมข้าว 350 กรัม
  • น้ำผึ้ง 70 กรัม
  • น้ำเปล่า 120 มิลลิลิตร
  • ขิงหั่นแว่น 4 – 5 ชิ้น
  • แยมรสเลม่อน 1 ช้อนโต๊ะ

อุปกรณ์

  • แม่พิมพ์คุกกี้รูปดอกไม้

วิธีทำแป้งขนม

  1. เตรียมชามผสม ใส่น้ำตาลทราย น้ำเปล่า คนให้ละลายดี
  2. จากนั้น ใส่น้ำเชื่อมข้าว น้ำมันพืช คนให้ละลายเข้ากันอีกครั้ง
  3. ใส่แป้งอเนกประสงค์ ผงอบเชย เสร็จแล้ว ใช้ไม้พายและมือ นวดแป้งให้เข้ากัน จนได้แป้งเนื้อเนียนนุ่ม เป็นก้อนเดียวกัน
  4. แบ่งแป้งออกมา กดใส่แม่พิมพ์คุกกี้รูปดอกไม้ ให้สวยงาม
  5. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป วอร์มน้ำมันให้ร้อนได้ที่แล้ว ใส่แป้งขนมลงไป ทอดให้แป้งขนมสุกดี จนมีสีน้ำตาลทอง เสร็จแล้ว พักให้สะเด็ดน้ำมัน

วิธีทำน้ำเชื่อม

  1. เตรียมหม้อต้ม ใส่น้ำเชื่อมข้าว ตามด้วย น้ำผึ้ง น้ำเปล่า ขิงหั่นแว่น แยมรสเลม่อน คนทุกอย่างให้ละลายเข้ากัน
  2. เปิดไฟกลางค่อนไฟอ่อน ต้มให้น้ำเดือด และ เคี่ยวให้มีความข้นเหนียว พอเหนียวข้นได้ที่แล้ว ให้พักทิ้งไว้ให้เย็น
  3. นำแป้งขนมมาชุบให้ทั่ว เป็นอันเสร็จ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่

ขนมปังรูปปลาไส้ถั่วแดง

ขนม

ภาษาเกาหลี เรียกว่า Bungeoppang อีกหนึ่ง ขนมเกาหลี สุดครีเอท ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้อยากลิ้มลอง โดยการจะทำขนมชนิดนี้ได้นั้น จะต้องมีแม่พิมพ์ขนมปังรูปปลาถึงจะทำได้ หากใครอยากทานแล้วละก็ ลองหาซื้อแม่พิมพ์ขนมปังรูปปลามา แล้วลองทำสูตรที่นำมาฝากกันได้เลย รับรองว่า เหมือนที่สตรีทฟู้ดเกาหลีขายกันแน่นอน

ส่วนผสม

  • แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
  • เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง + 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  • ถั่วแดงบดสำเร็จรูป

อุปกรณ์

  • เตาแม่พิมพ์ขนมปังรูปปลา

วิธีทำ

  1. เตรียมชามผสม ใส่แป้งอเนกประสงค์ เกลือ น้ำตาลทราย น้ำเปล่า คนให้ละลายเข้ากัน จากนั้น เทผ่านกระชอน เพื่อกรองเอาเม็ดแป้งออก ให้ได้เนื้อแป้งเหลว เนื้อเนียนละเอียด
  2. นำเตาแม่พิมพ์ขนมปังรูปปลามาตั้งไฟ ทาน้ำมันให้ทั่ว จากนั้น เทแป้งขนมปังลงไปให้เต็มแม่พิมพ์ ประมาณครึ่งหนึ่ง
  3. ตักถั่วแดงบดลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ เสร็จแล้ว เทแป้งที่เหลือลงไปจนเต็มแม่พิมพ์
  4. ปิดฝา ทอดแป้งให้สุก โดยใช้ไฟอ่อน เป็นเวลา 3 นาที จนแป้งสุกดี และ กลายเป็นสีเหลืองทองทั้ง 2 ด้าน เป็นอันเสร็จ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ถุงซีลสูญญากาศ

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🥺🙏🏻

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

แพนเค้กไส้ถั่ว

ขนมเกาหลี

แพนเค้กไส้ถั่ว หรือที่เรียกว่า Hotteok เป็นขนมแพนเค้กที่ฮิตกันมากในเกาหลี โดยสูตรนี้ จะนำถั่ววอลนัทมาบดให้ละเอียด ทำเป็นไส้ถั่วอยู่ข้างใน เมื่อกินคู่กับแป้งแพนเค้กสูตรทำเอง จะได้รสชาติแป้งหนานุ่มด้านนอก และ ไส้ถั่วที่หนุบหนับอยู่ด้านใน กินเป็นของว่างก็ดี หรือ จะกินแทนอาหารมื้อหลักก็ได้

ส่วนผสม (8 ชิ้น)

  • แป้งอเนกประสงค์ 2 ½ ถ้วยตวง
  • ถั่ววอลนัทสับละเอียด 2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย ไม่ขัดสี 1/2 ถ้วยตวง
  • ผงอบเชย 1 ช้อนชา
  • ยีสต์ 2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทรายขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า
  • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. เตรียมชามผสม ใส่น้ำเปล่า ตามด้วย ยีสต์ น้ำตาลทรายขาว เกลือ น้ำมันพืช คนให้ละลายเข้ากัน
  2. ใส่แป้งอเนกประสงค์ลงไป จากนั้น ใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน จนแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อน เสร็จแล้ว ใช้ฝาหม้อ หรือ พลาสติกแรปปิดปากชาม พักแป้งทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง
  3. พอครบเวลาแล้ว ให้ใช้มือนวดแป้งอีกรอบ แล้วแบ่งแป้งออกมา 8 ก้อนเท่า ๆ กัน
  4. ทำไส้แพนเค้ก โดยเตรียมชามผสม ใส่น้ำตาลทรายไม่ขัดสี ผงอบเชย ถั่ววอลนัทสับละเอียด คนให้เข้ากัน
  5. ตั้งกระทะ เปิดไฟกลางค่อนไฟอ่อน ใส่น้ำมันลงไป แล้วนำแป้งแต่ละก้อน มาแผ่เป็นแผ่นบาง ตักไส้ถั่ววอลนัทลงไป ห่อให้เรียบร้อย แล้วใส่ลงในกระทะ
  6. ใช้ทัพพีกดแป้งให้เป็นแผ่นบาง แล้วทอดให้แป้งแต่ละด้านสุก จนมีสีเหลืองทองทั้ง 2 ด้าน เสร็จแล้ว ตักเสิร์ฟใส่จาน เป็นอันเสร็จ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้
กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ขนมซงพยอน

ขนม

ขนมซงพยอน (Songpyoen) เป็น ขนมเกาหลี ท้องถิ่น อีกหนึ่งชนิด ที่มักทำกินกันในช่วงวันไหว้พระจันทร์ ลักษณะเป็นขนมทำจากแป้งข้าวเจ้า ชิ้นเล็ก ๆ สอดไส้เมล็ดงาบด คลุกเคล้ากับเกลือและน้ำผึ้ง แล้วนำไปนึ่งจนแป้งสุก ปัจจุบัน นิยมทำเป็นสีสันพาสเทล เช่น สีเขียว สีเหลือง สีม่วงทำให้เป็นขนมอีกหนึ่งชนิดที่คนเกาหลีชื่นชอบ

ส่วนผสม

  • เมล็ดงา 1 ถ้วยตวง
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำผึ้ง 1 ถ้วย
  • ข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • สีผสมอาหาร สีเขียว สีเหลือง สีม่วง ตามชอบ
  • น้ำร้อน (สำหรับผสมแป้ง)
  • น้ำมันงา

วิธีทำ

  1. เตรียมครกกับสาก ใส่เมล็ดงาลงไป ตำให้แหลกพอหยาบ ๆ จากนั้น เทใส่ชามผสม ใส่เกลือ น้ำผึ้ง คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2. นำข้าวเจ้าไปซาวน้ำ แล้วเทน้ำออก ใส่เกลือลงไป 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน แล้วเทใส่เครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียดเป็นเวลา 3 นาที จนกลายเป็นผงละเอียด
  3. เทผงข้าวใส่กระชอน กรองให้ละเอียดใส่ลงในชามผสม แล้วแบ่งแป้งออกเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กัน
  4. เทน้ำร้อนลงในแต่ละชามแค่พอเล็กน้อย แล้วนวดแป้งให้จับตัวเป็นก้อน จากนั้น ใส่สีผสมอาหารแต่ละสีลงไป นวดจนได้แป้งสีขาว สีเขียว สีเหลือง สีม่วง ตามที่ต้องการ
  5. หยิบแป้งแต่ละสีบางส่วนขึ้นมา แผ่เป็นแผ่นบาง จากนั้น ใช้ช้อนตักไส้ถั่วใส่ลงไป แล้วห่อให้เรียบร้อย โดยเวลาห่อให้ห่อจนเป็นรูปร่างคล้ายเกี๊ยวหรือขนมปั้นสิบ
  6. เตรียมซึ้งนึ้ง ต้มน้ำให้เดือด เสร็จแล้ว นำขนมใส่จาน แล้วเอาไปนึ่งด้วยไฟแรง ใช้เวลานึ่ง 12 นาที
  7. พอครบเวลา ให้นำขนมขึ้นมาจุ่มน้ำเปล่าเล็กน้อย แล้วใส่น้ำมันงาลงไป คลุกเคล้าเล็กน้อย เป็นอันเสร็จ

เป็นยังไงกันบ้างกับ 10 สูตร ขนมเกาหลี ทั้งแบบขนมท้องถิ่น และ สตรีทฟู้ด ที่นำมาฝากกัน ดูน่ารับประทาน และ น่าลิ้มลองมาก ๆ เลยใช่มั้ยล่ะ หากใครชื่นชอบอาหารเกาหลี แล้วอยากลองทำ ขนมเกาหลี ไว้รับประทานเอง บ้างแล้วละก็ ลองทำตามได้เลย รับรองว่า ได้ทั้งรสชาติและความอร่อย เหมือนบินไปถึงเกาหลีแน่นอน

สำหรับใครที่อยากทำ ขนมเกาหลี ไม่ว่าจะเป็น ขนมปังกระเทียมครีมชีส คเยรันปัง โมจิเกาหลี แล้วอยากได้อุปกรณ์ที่ช่วยให้ ตีแป้ง ผสมแป้ง ได้อย่างสะดวกสบาย แนะนำ เครื่องตีแป้ง ของ SGE มีหัวตี 3 แบบ ช่วยให้คุณสามารถตีแป้ง ผสมแป้งให้เข้ากันได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับทำขนมเกาหลีสูตรต่าง ๆ รวมถึง เค้กและเบเกอรี่อื่น ๆ แบบสุด ๆ ราคาเริ่มต้นที่หลักร้อยเท่านั้น หากสนใจคลิกดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sgethai.com/stand-mixer/

12 กรกฎาคม 2022

โดย

Pres

ความคิดเห็น (Comments)

Leave A Comment