หัวตีแป้งมีกี่แบบ? เจาะลึกทุกประเภท พร้อมวิธีเลือกใช้ให้เหมาะสม
อัปเดตเมื่อ วันที่ 26 พฤษภาคม 2025

ไม่ว่าจะเป็นสายเบเกอรี่หรือเจ้าของร้านขนมที่ต้องทำขนมอบบ่อย ๆ การเลือก หัวตีแป้ง ที่เหมาะสมกับวัตถุดิบและประเภทขนมถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหัวตีแต่ละแบบมีหน้าที่และการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แล้วหัวตีแป้งมีกี่แบบกันแน่? บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักหัวตีแป้งแต่ละประเภท พร้อมวิธีการเลือกใช้ให้เหมาะสม
หัวตีแป้งมีกี่แบบ?
โดยทั่วไป หัวตีแป้ง แบ่งออกเป็น 3 แบบหลัก ๆ ได้แก่ หัวตีตะขอ หัวตีใบพาย และหัวตีตะกร้อ ซึ่งแต่ละแบบก็มีลักษณะการใช้งานเฉพาะที่แตกต่างกัน


1. หัวตีแบบตะขอ (Dough Hook)
- ลักษณะ: เป็นหัวตีที่มีลักษณะเป็นเกลียวคล้ายตะขอ
- หน้าที่หลัก: ออกแบบมาเพื่อใช้นวดโดแป้ง (Dough) เหมาะสำหรับการนวดแป้งที่มีความหนืดสูง เช่น แป้งขนมปัง แป้งพิซซ่า แป้งพาสต้า แป้งขนมปัง
- การใช้งาน: หัวตีตะขอจะช่วยดึงและนวดแป้งให้เกิดกลูเตน ทำให้แป้งมีความยืดหยุ่นและได้เนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่ม
- ข้อควรจำ: ไม่เหมาะสำหรับการตีส่วนผสมเหลว หรือส่วนผสมที่ต้องการความฟู
- ความเร็วแนะนำ: ต่ำ – ปานกลาง

2. หัวตีแบบใบพาย/ ใบไม้ (Flat Beater)
- ลักษณะ: เป็นหัวตีที่มีลักษณะแบน กว้าง มักทำจากโลหะ มีทั้งแบบเรียบและแบบมีขอบยางซิลิโคน
- หน้าที่หลัก: เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หัวตีอเนกประสงค์ ใช้ตีและผสมวัตถุดิบได้หลายชนิด เหมาะสำหรับการผสมส่วนผสมที่มีความหนืดปานกลางถึงสูง
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับตีส่วนผสมที่เป็นจำพวกไขมันให้ขึ้นฟู (Creaming Method) เช่น เนย ครีมชีส น้ำตาล หรือผสมแป้งเค้ก คุกกี้ บัตเตอร์ครีม ไส้ขนม หรือส่วนผสมที่เป็นของเหลวและของแห้งให้เข้ากัน
- ข้อควรจำ: ไม่เหมาะสำหรับการตีส่วนผสมที่ต้องการความฟูมากนัก
- ความเร็วที่แนะนำ: ปานกลาง

3. หัวตีแบบตะกร้อ (Wire Whip)
- ลักษณะ: เป็นหัวตีที่มีลักษณะเป็นเส้นลวดหลายเส้นโค้งงอ คล้ายตะกร้อตีไข่ มีลักษณะเหมือนตะกร้อมือที่เราใช้ทั่วไป
- หน้าที่หลัก: จุดเด่นคือ ช่วยเพิ่มอากาศเข้าไปในส่วนผสม เหมาะสำหรับการเติมอากาศให้กับส่วนผสม ทำให้ส่วนผสมเบาและขึ้นฟู
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับตีของเหลว เช่น วิปปิ้งครีม เมอร์แรง มูส ซูเฟล์ หรือส่วนผสมอื่นๆ ที่ต้องการความฟู
- ข้อควรจำ: ไม่เหมาะสำหรับการผสมส่วนผสมที่มีความหนืดสูง หรือการนวดแป้ง เพราะอาจทำให้หัวตีเสียหายได้
- ความเร็วที่แนะนำ: สูง
เปรียบเทียบหัวตีแป้งแต่ละประเภท
หัวตีแบบตะขอ (Dough Hook) | หัวตีแบบใบพาย/ ใบไม้ (Flat Beater) | หัวตีแบบตะกร้อ (Wire Whip) | |
---|---|---|---|
ลักษณะ | เป็นเกลียวคล้ายตะขอ | แบน กว้าง มีทั้งแบบเรียบและแบบมีขอบยางซิลิโคน | เป็นเส้นลวดหลายเส้นโค้งงอ คล้ายตะกร้อตีไข่ |
หน้าที่หลัก | การนวดแป้งที่มีความหนืดสูง | ผสมส่วนผสมที่มีความหนืดปานกลางถึงสูง | เติมอากาศให้กับส่วนผสม ทำให้ส่วนผสมเบาและขึ้นฟู |
การใช้งาน | ดึงและนวดแป้งให้เกิดกลูเตน ทำให้แป้งมีความยืดหยุ่นและได้เนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่ม | ตีส่วนผสมที่เป็นจำพวกไขมันให้ขึ้นฟู (Creaming Method) | ตีของเหลว เช่น วิปปิ้งครีม เมอร์แรง มูส ซูเฟล์ หรือส่วนผสมอื่นๆ ที่ต้องการความฟู |
ข้อควรจำ | ไม่เหมาะสำหรับการตีส่วนผสมเหลว หรือส่วนผสมที่ต้องการความฟู | ไม่เหมาะสำหรับการตีส่วนผสมที่ต้องการความฟูมากนัก | ไม่เหมาะสำหรับการผสมส่วนผสมที่มีความหนืดสูง |
ความเร็วที่แนะนำ | ต่ำ – ปานกลาง | ปานกลาง | สูง |
วิธีเลือกหัวตีแป้งให้เหมาะสมกับการใช้งาน
การเลือกหัวตีแป้งที่ถูกต้องจะช่วยให้การทำอาหารง่ายขึ้นและไม่ต้องเสียเวลา โดยสามารถเลือกใช้ได้ ดังนี้
เลือกตามประเภทของเมนูที่ทำ
- หากทำขนมปัง ควรใช้หัวตีแบบตะขอ
- หากทำเค้กหรือคุกกี้ ควรใช้หัวตีแบบใบพัด
- หากต้องการตีของเหลวให้ฟู เช่นไข่ หรือวิปครีม ควรใช้หัวตีแบบตะกร้อ
เลือกตามความหนืดของส่วนผสม
- แป้งโดว์ที่เหนียวมาก ควรใช้หัวตีแบบตะขอ
- ส่วนผสมข้นปานกลางถึงมาก ควรใช้หัวตีแบบใบพาย
- ส่วนผสมเหลว ควรใช้หัวตีแบบตะกร้อ
นอกจากจะเลือกหัวตีแป้งแล้ว การเลือกประเภทของ เครื่องตีแป้ง (Pastry blender) หรือที่เรียกกันว่า เครื่องผสม ก็สำคัญเช่นกัน เพราะจะทำให้สามารถเลือกขนาดและกำลังไฟได้เหมาะสมกับเมนูที่ทำ แบ่งเป็น 3 ชนิด ได้แก่ แบบตะกร้อมือ แบบเครื่องไฟฟ้าถือมือ และแบบชุดเครื่องผสมพร้อมโถ

ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดทำขนม หรือเชฟมืออาชีพ การเลือกใช้หัวตีแป้งให้ถูกประเภท จะช่วยลดเวลาและทำให้การทำอาหารสนุกและง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม หวังว่าบทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัย และช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้อย่างมั่นใจนะคะ
เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารสำคัญ และโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สามารถติดตามเราผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย