มะม่วง

3,484 Views

คัดลอกลิงก์

ประโยชน์ มะม่วง พร้อมวิธีปลูกให้แข็งแรง ลูกดก มีผลผลิตตลอดปี

มะม่วง ประโยชน์ ต่อสุขภาพ มีอะไรบ้าง มีคำตอบ พร้อมพาไปดู วิธีปลูกมะม่วง ให้แข็งแรง ลูกดก มีผลผลิตตลอดปี
ใครชอบกินมะม่วง แล้วอยากรู้ว่า มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร รวมถึงจะปลูก มะม่วงพันธุ์ต่าง ๆ อย่างไร
ให้สร้างรายได้อย่างยั่งยืนแล้วละก็ ตามมาดูกันเลย

มะม่วง

ลักษณะทั่วไปของมะม่วง

มะม่วง จัดเป็นต้นไม้ แบบไม้ยืนต้น เติบโตได้ดีในเขตร้อน ลำต้นตรงยาว สูง 10 – 15 เมตร พุ่มไม้มีลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลมหรือรูปไข่ ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตัวแบบสลับบนกิ่ง รูปหอกยาว แกมขอบขนาน โคนมนแหลม ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง สีของดอกแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ มีทั้งสีแดง ชมพู หรือ ขาว สำหรับผลมะม่วง ที่เรานำมารับประทานนั้น รูปร่างมักมีลักษณะกลมไปจนถึงรูปไข่เรียวยาว หากยังเป็นผลดิบอยู่ เปลือกมักมีสีเขียว เนื้อแน่นแข็ง มีรสหวานหรือเปรี้ยวแล้วแต่สายพันธุ์ เมื่อผลสุก เปลือกจะมีสีเหลือง เนื้อจะอ่อนนุ่ม มีรสชาติหวานหอม ส่วนใหญ่จะออกผลช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม

ประวัติมะม่วง

จากร่องรอยของฟอสซิล แสดงให้เห็นว่า มะม่วงเป็นพืชเก่าแก่ ที่มีมานานตั้งแต่ 25 – 30 ล้านปีก่อนเลยทีเดียว โดยถิ่นกำเนิดของมะม่วง เดิมอยู่ในภูมิภาคเอเชียใต้ บริเวณประเทศอินเดีย บังคลาเทศ ก่อนที่จะแพร่กระจายไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศต่าง ๆ ที่อยู่ในเขตร้อน

มะม่วงพันธุ์ต่าง ๆ

มะม่วงพันธุ์ต่าง ๆ ที่นิยมปลูก ในประเทศไทย มีอยู่ 13 ชนิดด้วยกัน คือ มะม่วงเบา มะม่วงแรด มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงเขียวเสวย มะม่วงอกร่อง มะม่วงแก้วขมิ้น มะม่วงแดงจักรพรรดิ์ มะม่วงการะเกด มะม่วงฟ้าลั่น มะม่วงโชคอนันต์ มะม่วงหนังกลางวัน มะม่วงสามปี และ มะม่วงมหาชนก

มะม่วงปลูกกี่ปี

หากนับเฉพาะช่วงที่ออกดอก และ ติดผล ถ้าเป็นฤดูฝน จะอยู่ที่ 85 – 90 วัน แต่ถ้าเป็นฤดูหนาว จะอยู่ที่ 120 – 125 วัน

ราคามะม่วง

ราคามะม่วง ขึ้นอยู่กับ พันธุ์มะม่วง นั้น ๆ เนื่องจากมีราคาไม่เท่ากัน โดยมะม่วงที่มีราคาแพง หรือ ขายได้ราคาที่สุด คือ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก ขายอยู่ที่ 100 บาท/กิโลกรัม รองลงมาคือ มะม่วงน้ำดอกไม้แก่ 80 บาท/กิโลกรัม และ มะม่วงเขียวเสวย 70 บาท/กิโลกรัม ส่วนมะม่วงพันธุ์อื่น ๆ เช่น มะม่วงมัน มะม่วงโชคอนันต์ ขายอยู่ที่ 12 – 35 บาท/กิโลกรัม

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่
ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

มะม่วง ประโยชน์

มะม่วง

1. ให้พลังงานสูง

มะม่วง เหมาะกับการรับประทานเพื่อลดน้ำหนัก เพราะให้พลังงานสูง สามารถทานเพื่อทดแทนอาหารประเภทแป้งได้ โดยหากรับประทานผลมะม่วงดิบ 100 กรัม จะได้รับพลังงานถึง 60 กิโลแคลอรี เลยทีเดียว

2. ชะลอความแก่ รักษาผิวพรรณให้มีสุขภาพดี

เมื่อมะม่วงสุก มีสีเหลือง จะอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยชะลอความแก่ รักษาผิวพรรณให้มีสุขภาพดี โดยมะม่วงที่มีเบต้าแคโรทีนสูงที่สุดก็คือ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มะม่วงเขียวเสวยสุก

3. บำรุงสายตา ลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตา

นอกจากช่วยชะลอความแก่และบำรุงผิวพรรณ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย เบต้าแคโรทีนจะถูกตับของเรา เปลี่ยนให้เป็นวิตามิน A ทำให้มีสรรพคุณในการช่วยบำรุงสายตา ชะลอความเสื่อมของเซลล์ลูกตา รวมถึงลดความเสี่ยงในการเป็นต้อกระจกอีกด้วย

4. ลดความดันโลหิต ช่วยควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกาย

เมื่อทานมะม่วง 100 กรัม จะได้รับโพแทสเซียมสูงถึง 168 มิลลิกรัม ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการลดความดันโลหิต ควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกาย ตลอดจนประโยชน์อื่น ๆ เช่น รักษาภูมิแพ้ กำจัดของเสียในร่างกาย และยังช่วยให้เลือดนำออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงระบบประสาทได้ดี ทำให้จิตใจแจ่มใส ร่าเริงอีกด้วย

5. ทำเป็นของหวาน หรือ แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์

มะม่วง นอกจากนำผลดิบมารับประทานเป็นผลไม้แล้ว ยังสามารถนำผลสุกมาทำเป็นของหวาน ตลอดจนนำไปถนอมอาหารและแปรรูป ทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้มากมาย โดยผลดิบ เอามาทำ มะม่วงน้ำปลาหวาน มะม่วงมันจิ้มพริกเกลือ ผลสุก ทำของหวาน เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง ไอศครีมมะม่วง สมูทตี้มะม่วง สำหรับการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น มะม่วงแช่อิ่ม มะม่วงกวน มะม่วงเชื่อมอบแห้ง

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

เครื่องซีลสูญญากาศ จาก SGE การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

วิธีปลูก มะม่วง ให้มีผลผลิตตลอดปี

มะม่วงพันธุ์ต่าง ๆ

วิธีปลูก มะม่วง ให้แข็งแรง ลูกดก มีผลผลิตตลอดทั้งปี ทำตามได้ไม่ยาก โดยมีเคล็ดลับก็คือ ใช้กิ่งพันธ์ุที่แข็งแรง สมบูรณ์ มาปักชำลงในดิน แล้วรดน้ำใส่ปุ๋ยอย่างเหมาะสม ตลอดจนตัดแต่งกิ่งให้ได้รับแสงอย่างเต็มที่ เพียงแค่นี้ ก็จะสามารถปลูกมะม่วงให้ออกผลได้สมบูรณ์ เป็นที่ต้องการของตลาดได้แล้ว โดยในวิธีนี้ จะมาแนะนำการปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ ในแปลงเพาะปลูก ส่วนจะทำอย่างไรนั้น ตามมาดูกันเลย

อุปกรณ์และวัสดุปลูก

  • กิ่งพันธุ์ต้นมะม่วง (ต้นแม่ควรความสูงอย่างน้อย 80 เซนติเมตร)
  • ปุ๋ยคอก
  • จอบ หรือ เสียม
  • บัวรดน้ำ
  • สแลนกันแดด

วิธีปลูกมะม่วง

  1. คัดเลือกกิ่งพันธุ์ต้นมะม่วงที่มีระบบรากแข็งแรง ติดดอกออกผลง่าย เจริญเติบโตได้ดี มาใช้ในการปักชำ (สำหรับมะม่วงน้ำดอกไม้ แนะนำให้ใช้พันธุ์ตลับนาค) โดยก่อนปลูก 1-2 วัน ต้องงดน้ำ เพื่อให้ดินในถุงแห้ง ป้องกันดินแตกเวลาปลูก
  2. ใช้จอบ หรือ เสียม ขุดหลุมปลูก ให้มีความลึกประมาณ 50 เซนติเมตร จากนั้น นำปุ๋ยคอกมาผสมลงในหลุมปลูก ต้นละ 5 กิโลกรัม
  3. ย้ายกิ่งพันธุ์มะม่วงลงในหลุมปลูก โดยให้ระดับของดินในถุงสูงกว่าระดับดินปากหลุมเล็กน้อย แล้วกลบดินปากหลุมให้มิด
  4. ปักไม้หลักและผูกเชือกยึด เพื่อป้องกันลมโยก และ กิ่งพันธ์ุโอนเอน
  5. หาวัสดุคลุมดินบริเวณโคนต้น เช่น ฟางข้าว หญ้าแห้ง เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้น
  6. นำบัวรดน้ำ มารดน้ำให้ดินชุ่ม แล้วกางสแลนกันแดด ทำร่มเงาเล็กน้อย เพื่อช่วยพรางแสงแดด
  7. หากใครปลูกในแปลงใหญ่ ให้เว้นระยะห่าง ระหว่างต้น 5 – 6 เมตร ระหว่างแถว 5 – 6 เมตร ปลูกในพื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ทั้งหมด 50 ต้น

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้
กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

การดูแลรักษาและการเก็บเกี่ยว

มะม่วงพันธุ์ต่าง ๆ

การให้แสง

  • มะม่วงชอบอากาศร้อน ทนแล้งทนแดดได้ จึงเหมาะสำหรับปลูกกลางแจ้ง

การให้น้ำ

  • ต้นมะม่วง ในระยะแรก เป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก จึงควรรดน้ำเป็นประจำสม่ำเสมอ ให้ดินชุ่มชื้นตลอดเวลา พอเริ่มตั้งตัวได้แล้ว จึงลดปริมาณเหลือ 3 – 4 วัน/ครั้ง
  • ในช่วงแตกกิ่งและติดผล จะต้องรดน้ำทุกวัน อย่าให้ขาด

การให้ปุ๋ย

  • ปุ๋ยปรับสภาพดิน ใส่ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ผสมให้เข้ากันกับดินในหลุม  เพื่อปรับสภาพดินให้มีความร่วนซุย มีธาตุอาหาร เหมาะสำหรับการเจริญเติบโต
  • ปุ๋ยอินทรีย์ ใส่ปีละ 2 ครั้ง คือ ช่วงต้นฤดูฝน และ ปลายฤดูฝน โดยการขุดพรวนดินรอบ ๆ ต้น แล้วหว่านปุ๋ยลงไป กลบดินบาง ๆ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
  • ปุ๋ยเคมี ระยะที่เป็นต้นกล้า ให้ใส่ปุ๋ยแอมโมเนี่ยมซัลเฟต 2 – 4 ช้อนแกงผสมน้ำ 1 ปี๊บ รดที่ต้นกล้าเดือนละ 2 ครั้ง
     ระยะที่ยังไม่ให้ผล ใส่ปุ๋ยสูตร 4-7-5 หรือ 4-9-3 เพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน
    ระยะที่ให้ผลแล้ว ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16

การตัดแต่งกิ่ง

  • เมื่อปลูกจนต้นมะม่วงสูงประมาณ 1 เมตร แต่ยังไม่แตกกิ่งก้านสาขา ให้ใช้กรรไกรหรือมีดคมตัดปลายยอดทิ้ง เพื่อให้ต้นมะม่วงแตกกิ่งก้านสาขาออกมา
  • หากพุ่มต้นมะม่วงหนาทึบเกินไป ให้ตัดแต่งกิ่งจากด้านใน และ ตัดเปิดพุ่มทรงกลาง เพื่อให้แสงแดดส่องมาอย่างทั่วถึง จะทำให้ต้นมะม่วงสังเคราะห์แสง ออกดอกออกผลได้ดียิ่งขึ้น

การเก็บเกี่ยว

  • หลังจากต้นมะม่วงเริ่มออกผล ขนาดเท่าไข่ไก่ ให้นำถุงคาร์บอนมาผูกครอบเอาไว้ เพื่อป้องกันแมลงและศัตรูพืชมากัดกิน และ ทำให้ผิวมะม่วงสวยงาม น่ารับประทาน
  • 45 วัน ต่อมา ให้สุ่มตรวจเก็บมะม่วงจากหลาย ๆ ต้น มาแช่น้ำ เพื่อทดสอบความอ่อนแก่ หาก 8 ใน 10 ลูก จมน้ำ ก็แสดงว่าผลมะม่วงส่วนใหญ่สุกดีแล้ว สามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้เลย (การทดสอบความสุกของมะม่วง โดยการแช่น้ำ อาจจะเหมาะสมเฉพาะ มะม่วงน้ำดอกไม้ ไม่เหมาะกับมะม่วงชนิดอื่น ๆ)
  • ทั้งนี้ หากเป็นฤดูร้อน ผลมะม่วงจะสุกพร้อมเก็บเกี่ยวเร็วขึ้น แต่ถ้าเป็นฤดูหนาว จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ช้าลง อาจต้องรออีกประมาณ 60 วัน ถึงจะเริ่มเก็บผลผลิตได้

มะม่วง หากนำมากิน ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หากปลูกขาย ก็สามารถสร้างรายได้ ดังนั้น หากใครชอบทานมะม่วง แล้วอยากลองปลูกในไร่นา ภายในสวนของตนเอง เพื่อเก็บไว้กินเอง หรือ ปลูกขายแล้วละก็ ลองทำตามวิธีที่ SGE นำมาฝากกันได้เลย รับรองว่า แข็งแรง ลูกดก มีผลผลิตตลอดปี แน่นอน

สำหรับใครที่ต้องการกระถางคุณภาพดี ไว้ปักชำกิ่งพันธุ์ต้นมะม่วง ให้รากเดินดี สมบูรณ์แข็งแรง ก่อนย้ายลงหลุมปลูกแล้วละก็ แนะนำให้ใช้ กระถางต้นไม้ Air Pot ของ SGE ทำจากพลาสติก HDPE ไม่แตกหักง่าย ช่วยให้ดินระบายน้ำและอากาศได้ดี รากต้นมะม่วงเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว สนใจคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.sgethai.com/product/air-pot-planter/ หรือ สอบถามเพิ่มเติมทางโทรศัพท์ Line ของเราได้เลย


บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

21 เมษายน 2022

โดย

Pres

ความคิดเห็น (Comments)

Leave A Comment