พาส่อง ส้มแขก สรรพคุณ และประโยชน์ดีๆ ที่ใครอาจยังไม่รู้!
สารบัญ
ส้มแขก คือ?
ส้มแขก (Garcinia) มีถิ่นกำเนิดใน อินเดีย ศรีลังกา และพบได้ทั่วไปในป่าประเภทร้อนชื้นในประเทศไทย และยังเป็นพืชพื้นบ้านดั้งเดิมของไทย พบมากทางภาคใต้ โดยเฉพาะ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ลงไปถึงสิงคโปร์ ส้มแขกเป็นเพราะอาหารอินเดีย และมาเลเซียหลายชนิด เช่น แกงกะหรี่ แกงมัสมั่น จะใช้ส้มแขกประกอบอาหารแทนมะขามเปียก ก็เลยเรียกติดปากกันว่าส้มแขก ที่จริงส้มแขก สามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย แต่คงเป็นเพราะทางภาคใต้รู้จักที่จะนำส้มแขกมาประกอบอาหารกันมาก ก็เลยปลูกกันมากกว่าที่อื่นนั่นเอง
ส้มแขกมีอยู่ 2 ชนิด คือ
- ชนิดที่ 1 พบมากในประเทศไทย คือ Garcinia atroviridis Griff พบมากในพม่า และทางภาคใต้ของไทย รวมถึงในมาเลเซีย และสิงค์โปร
- ชนิดที่ 2 พบมากในอินเดีย คือ Garcinia cambogia Desr.
โดยส้มแขกทั้ง 2 ชนิดนั้น ทั้งคนอินเดียและคนไทย ใช้เพื่อเป็นเครื่องปรุงรสในอาหาร เพื่อทำให้มีรสเปรี้ยว เช่นแกงกะหรี่ (อินเดีย) หรือแกงส้ม แกงเลียง แกงปลาขนมจีน (ไทย) ชนิดที่ 2 นั้น ถือได้ว่าเป็นสายพันธุ์ต้นส้มแขก ที่นิยมนำมาใช้เป็นสมุนไพร และมีถิ่นกำเนิดในไทย ได้รับความนิยมแพร่หลายจนกระจายออกสู่ในระดับสากล
สารสำคัญใน ส้มแขก มีอะไรบ้าง?
ในส้มแขกโดยเฉพาะในส่วนของตัวผลและเปลือกผลนั้น พบว่า มีสารสำคัญสำหรับชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า กรดไฮดรอกซีซิตริก (Hydroxycitric Acid หรือ HCA) โดยเฉพาะในส้มแขกสายพันธุ์การ์ซีเนียแคมโบเกีย การ์ซีเนีย อะโทร วิริดิส และการ์ซิเนียอินดิคา ซึ่งเป็นพันธุ์ส้มแขกที่อยู่ในป่า แต่ว่าก็สามารถนำมาปลูกได้ในบางพื้นที่ และสามารถให้สารดังกล่าวได้เช่นกัน ซึ่งสารดังกล่าวนี้ เป็นสารสำคัญที่ถูกนำมาใช้ทำอาหารเสริมลดไขมัน และลดน้ำหนักนั่นเอง
-
ดอกส้มแขก
ออกตามปลายยอด ดอกเพศผู้มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ ด้านในสีแดง ด้านนอกมีสีเขียว มีเกสรเพศผู้เรียงอยู่บนฐานรองดอก ส่วนดอกเพศเมีย เป็นดอกเดี่ยวแทงออกจากปลายกิ่งมีขนาดเล็กกว่าดอกเพศผู้ รังไข่มีรูปทรงกระบอก
-
ผลส้มแขก
ลักษณะของผลส้มแขก เป็นผลเดี่ยวคล้ายฟักทองขนาดเล็ก ผิวเรียบสีเขียว เมื่อแก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแก่ มีขนาดใกล้เคียงกับผลกระท้อน เปลือกผลเป็นร่องตามแนวขั้วไปยังปลายผล มีประมาณ 8-10 ร่อง ที่ขั้วมีกลีบเลี้ยงติดอยู่ 2 ชั้น ๆ ละ 4 กลีบ เนื้อแข็ง มีรสเปรี้ยวจัด ในผลมีเมล็ดแข็ง 2-3 เมล็ด ผลส้มแขกมีรสเปรี้ยว นิยมนำมาปรุงอาหาร เช่น แกงส้ม, แกงเลียง, ต้มเนื้อ, ต้มปลา เพื่อให้มีรสเปรี้ยว หรือใช้ทำน้ำแกงขนมจีน
😍 รู้ไหม? ส้มแขกได้ถูกนำมาทานเพื่อลดความอ้วน โดยการรับประทานส้มแขกในระยะแรก อาจจะทำให้รู้สึกหิวบ่อยมากขึ้น เนื่องจากไปเร่งระบบการเผาผลาญอาหาร โดยร่างกายจะค่อย ๆ ปรับตัวไปเอง ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 อาทิตย์ ระหว่างนี้ ให้ดื่มน้ำมาก ๆ หากรับประทานไปนาน ๆ ก็จะช่วยลดความอยากอาหารทำให้รู้สึกไม่หิวได้คล้าย ๆ กับสมุนไพรตัวอื่น เช่น พริกไทยดำ, ถั่วขาว, กระบองเพชร และเมื่อหยุดรับประทานส้มแขก ร่างกายจึงไม่กลับมาอ้วนอีกแน่นอน และที่สำคัญ คือ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างแน่นอน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ประเมินผล และพบว่า ไม่มีการเปลี่ยนหน้าที่ของตับและไต รวมไปถึงระดับน้ำตาลในเลือด และความดันเลือดก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน
ประโยชน์ และสรรพคุณของส้มแขก
ต้นส้มแขก เป็นพืชที่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญของเครื่องปรุงในอาหารไทยมากมาย เช่น ใบอ่อนส้มแขกใช้รองนึ่งปลา, ผลสดใช้ทำแกงส้ม ผลส้มแขกตากแห้ง นำมาใช้เป็นเครื่องปรุงรสอาหารให้มีรสเปรี้ยว เช่น แกงส้ม, แกงเลียง, ต้มปลา, ต้มเนื้อ, แกงส้ม หรือใช้ทำน้ำแกงขนมจีน เป็นต้น หรือจะใช้ใบแทนผลก็ให้รสเปรี้ยวได้เช่นกัน ใบแก่นำมาทำเป็นชาได้ แต่จะมีกลิ่นเหม็นเขียว นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก อย่างหลากหลาย เช่น ชาส้มแขก น้ำส้มแขก ส้มแขกกวน แคปซูลส้มแขก เป็นต้น
นอกจากนี้แล้ว ไม้จากลำต้นส้มแขกแก่ ๆ สามารถนำมาใช้ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ หรือทำเป็นไม้แปรรูปใช้ในการก่อสร้างได้ ซึ่งมีความคงทนแข็งแรงมาก
สำหรับสรรพคุณของส้มแขกตามตำราพื้นบ้าน
ส้มแขกช่วยบรรเทาอาการปวดท้องในสตรีมีครรภ์ เป็นยาระบายอ่อน ๆ ซึ่งสารในส้มแขกจะถูกขับออกทางไตโดยไม่ถูกทำลาย (ไม่ผ่านตับ) และออกฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะด้วย ช่วยลดไขมันส่วนเกินได้ ฯลฯ ส่วนต่าง ๆ ของส้มแขกมีสรรพคุณ ดังนี้
- ดอกส้มแขก ช่วยแก้อาการไอ เป็นยาขับเสมหะ
- ผลแก่และดอกส้มแขก ช่วยลดความดัน
- ดอกส้มแขก ช่วยรักษาโรคเบาหวาน
- ส้มแขก มีสรรพคุณช่วยฟอกโลหิต
- รากส้มแขก ช่วยแก้กระษัย
- ส้มแขก ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องในสตรีมีครรภ์
- ส้มแขก เป็นยาระบายอ่อน ๆ
- ใบส้มแขกสด ช่วยแก้อาการท้องผูก
- ส้มแขก มีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะ
- รากส้มแขก ใช้ทำเป็นยารักษานิ่ว
- ผลส้มแขก สรรพคุณช่วยลดความอยากอาหาร ความรู้สึกหิวอาหาร
- ส้มแขก ช่วยเร่งระบบการเผาผลาญอาหาร ช่วยดักจับแป้ง และไขมันจากอาหารที่รับประทานเข้าไป
- สารสกัดจากส้มแขก ช่วยทำให้ลำไส้เกิดการเคลื่อนไหวตัวได้เร็วขึ้น และขับไขมันออกมา
- ส้มแขก มีสรรพคุณในการช่วยลดน้ำหนัก และช่วยลดไขมันส่วนเกินของร่างกายได้
- ส้มแขก มีคุณสมบัติช่วยสกัดกั้นการเปลี่ยนแปลงของคาร์โบไฮเดรต (อาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล) ไม่ให้เปลี่ยนเป็นไขมันสะสมตามร่างกายได้ แต่จะนำไปเป็นพลังงานให้ร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่อ่อนเพลีย
ข้อควรระวังในการบริโภคส้มแขก
แม้ส้มแขกจะมีประโยชน์ และได้รับความนิยมมากแค่ไหน ส้มแขกก็ยังมีผลเสียบางประการต่อร่างกายอยู่เช่นกัน เหมือนกับการรับประทานอาหารอื่น ๆ ที่ถ้าหากมากเกินไปก็ย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายได้เหมือนกัน ซึ่งข้อควรระวังในการบริโภคส้มแขกที่คุณควรรู้ มีดังนี้
- ส้มแขกมีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น คลื่นไส้ ไม่สบายท้อง ปวดศีรษะ เป็นต้น
- สตรีมีครรภ์ หรือหญิงที่อยู่ในระหว่างการให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงรับประทานส้มแขก เพื่อเป็นการรักษาโรคมากเกินไป เพราะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน และปลอดภัยมากพอที่จะรับประกันได้ว่า จะไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะกับสตรีมีครรภ์
- ผู้ที่เป็นไบโพลาร์ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานส้มแขก เพราะอาจส่งผลให้อารมณ์แปรปรวนได้
- ผู้ที่เป็นโรคตับ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานส้มแขกในทุกกรณีจะเป็นการดีที่สุด เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักมากกว่าเดิม และทำให้ตับถูกทำลายได้ในที่สุด
จะเห็นได้ว่า ส้มแขก นั้นมีประโยชน์ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับคนที่ต้องการลดไขมัน หรือลดความอ้วน ส้มแขกเป็นหนึ่งในผลไม้หรือส่วนผสมที่เหมาะเป็นอย่างนิ่ง แต่บางกลุ่มคนอย่างเช่น สตรีมีครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ป่วยไบโพลาร์ ผู้ป่วยโรคตับ ก็จะต้องระมัดระวังในการรับประทานส้มแขก หรือถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็จะเป็นการดีที่สุด แต่ก็ไม่ใช่เพียงคนกล่าวดังกล่าวเท่านั้น เพราะไม่ว่าอาหารใดก็แล้วแต่ รับประทานมากไปก็ใช่ว่าจะดี ส้มแขกเองก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น หากต้องการให้ร่างกายได้ประโยชน์ของส้มแขกให้ได้มากที่สุดและไม่ก่อให้เกิดโทษใด ๆ ต่อร่างกาย ก็ควรบริโภคส้มแขกแต่พอดีกันด้วยนะจ๊ะ 🥰 สามารถติดตาม สูตรอาหารและบทความอื่นๆ ได้ที่นี่
Leave A Comment