กล้วยไข่

5,764 Views

คัดลอกลิงก์

กล้วยไข่ ประโยชน์ พร้อม วิธีปลูกกล้วยไข่ ให้ได้ผลผลิตดี

กล้วยไข่ คนไทยชอบทานอยู่แล้ว ยิ่งเป็นสินค้าส่งออก ที่สร้างรายได้จำนวนมากให้กับเกษตกร ก็ยิ่งทำให้มีคนสนใจนำมาปลูกกันมากขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากมีกลิ่นหอม ทานได้อร่อยแล้ว กล้วยชนิดนี้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายอีกด้วย หากอยากรู้ว่า กล้วยไข่ มีดีอะไร และมี วิธีปลูกกล้วยไข่ ให้ได้ผลดีอย่างไร แล้วละก็ SGE รวบรวมมาให้แล้ว พร้อมบอกถึงประโยชน์ที่หลายคนไม่รู้เกี่ยวกับกล้วยชนิดนี้

ทำความรู้จัก กล้วยไข่

กล้วยไข่

กล้วยไข่ เป็นพืชในตระกูลกล้วย ลำต้นสูงประมาณ 2.5 เมตร ใบ ลักษณะเป็นใบยาวรูปไข่ ม้วนงอขึ้น ก้านใบมีสีเขียวอมเหลือง บริเวณช่อดอกมีขนอ่อน เวลาออกผล 1 เครือ จะมีประมาณ 6 – 7 หวี ใน 1 หวีมีผลประมาณ 12 – 14 ผล ลักษณะของผลค่อนข้างเล็ก เวลาสุกจะมีสีเหลือง เมื่อผลงอมอาจมีจุดดำ ๆ ประปราย รสชาติหวานอร่อย ด้วยมีลักษณะสั้นป้อม ทำให้นิยมเรียกกันว่า กล้วยไข่

โดยกล้วยไข่ สามารถปลูกได้ในทุกภาคของประเทศไทย เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ราบ ชอบดินร่วนซุยและชอบฤดูฝน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการปลูกกล้วยไข่ จึงอยู่ในช่วงปลายเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม ด้วยมีรสชาติที่หวานอร่อย ทำให้เป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้จำนวนมากให้แก่เกษตกร โดยตลาดส่งออกที่สำคัญ ก็คือ ประเทศจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และ ญี่ปุ่น

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

เครื่องซีลสูญญากาศ จาก SGE การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ประโยชน์ของ กล้วยไข่

กล้วย

กล้วยไข่ จัดอยู่ในพืชตระกูลกล้วย ทำให้มีสารอาหารและแร่ธาตุเหมือนกับกล้วยชนิดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน B วิตามิน C ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม นอกจากนี้ ก็ยังมีเส้นใย ที่จะช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหาร และ น้ำตาลที่จะช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย โดยสามารถจำแนกเป็นประโยชน์ออกมาได้เป็นข้อ ๆ ดังนี้

1. ให้พลังงานสูง

กล้วย 1 ใบ สามารถให้พลังงานได้ถึง 89 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วย โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร และน้ำตาล ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย ทำให้อิ่มท้องง่าย เหมาะกับคนที่อยากลดน้ำหนัก หรือ คนที่อยากรับประทานข้าวน้อยลง

2. ช่วยรักษาแผลในลำไส้ ลดอาการกระเพาะอาหารอักเสบ

เพราะมีความนิ่มและเส้นใยสูง ทำให้กล้วยไข่เหมาะกับเป็นอาหารอ่อน สำหรับผู้ป่วยที่มีแผลในลำไส้ หรือ โรคกระเพาะอาหารอักเสบ เนื่องจากจะไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองในผนังลำไส้และกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ ยังช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย เช่น ท้องผูก ท้องเสีย ได้อีกด้วย

3. ช่วยให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้ปกติ

กล้วยไข่ มีโพแทสเซียสสูง ซึ่งมีส่วนช่วยควบคุมในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจให้ทำงานปกติ ซึ่งถ้าหากโพแทสเซียมในเลือดต่ำ อาจก่อให้เกิดอาการอ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง ท้องผูก เป็นตะคริว หายใจลำบากได้

4. ช่วยลดการเกาะตัวของคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด

ในกล้วยไข่มีโคลีน (Choline) ซึ่งเป็นสารที่สามารถช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันในร่างกาย และช่วยในการกระจายตัวของคอเลสเตอรอล ไม่ให้คอเลสเตอรอลเกาะที่ผนังเส้นเลือดแดงหรือผนังของถุงน้ำดี แต่จะได้ประสิทธิภาพดี ก็ต่อเมื่อร่างกายได้รับ วิตามินบี 12 กรดโฟลิก และ กรดอะมิโนแอล-คาร์นิทีน ที่เพียงพอเท่านั้น

5. ช่วยรักษาผิวพรรณให้มีสุขภาพดี

การรับประทานกล้วยไข่ ช่วยรักษาผิวพรรณให้มีสุขภาพดีได้ เนื่องจากมีวิตามิน C สูง ซึ่งจะเข้าไปช่วยให้ผิวดูขาว สว่างสดใส และยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน และ ลดการทำลายคอลลาเจน ที่เกิดขึ้นในชั้นเซลล์ผิวให้ลดลง แม้มีอายุที่มากขึ้น จึงช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดี

6. ช่วยลดอาการเมาค้าง

เวลาดื่มแอลกอฮอลล์เยอะ ร่างกายจะสูญเสียน้ำตาลมาก ทำให้เกิดอาการเมาค้าง ซึ่งถ้าหากรับประทานกล้วยไข่ จะช่วยลดอาการเมาค้างได้ เนื่องจากมีน้ำตาล ซึ่งจะเข้าไปชดเชยระดับน้ำตาลในร่างกายที่ต่ำลง ทำให้รู้สึกดีขึ้น

7. ช่วยทำให้อารมณ์ดี และ นอนหลับง่ายขึ้น

ในกล้วยมีกรดอะมิโนชนิดหนึ่งชื่อว่า ทริปโตเฟน ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนให้เป็นสารเซโรโทนิน (Serotonin) เข้าสู่ระบบประสาท ช่วยทำให้สมองผ่อนคลาย รู้สึกมีความสุข อารมณ์ดี และยังช่วยให้นอนหลับง่าย สบายยิ่งขึ้นได้อีกด้วย

8. ช่วยเสริมความจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์

สารโคลีน (Choline) นอกจากช่วยกระจายคอเลสเตอรอลไม่ให้อุดตันในหลอดเลือด ยังเป็นสารที่สามารถผ่านระบบกรองระหว่างเลือดและสมอง ตรงเข้าไปยังเซลล์สมองเพื่อผลิตสารเคมีที่ช่วยในเรื่องความทรงจำอีกด้วย จึงช่วยเสริมความจำให้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่

กล้วยไข่ ทำอาหารอะไรได้บ้าง

กล้วยไข่

กล้วยไข่ นอกจากกินเล่นแล้ว สามารถแปรรูป โดยผลดิบ นำไปทำเป็นกล้วยฉาบ ทำแป้งกล้วยสำหรับทำขนมไทย ส่วนผลสุก รับประทานเป็นผลไม้ หรือ นำไปทำขนมไทยอย่าง กล้วยบวชชี กล้วยไข่เชื่อม  กินคู่กับกระยาสารท หรือ จะดัดแปลงทำเป็น ข้าวเม่าทอด ไว้รับประทานก็ได้

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

วิธีปลูกกล้วยไข่ ให้ได้ผลผลิตที่ดี

กล้วย

 กล้วยไข่ เป็นพืชที่เติบโตได้ดีในดินร่วนซุย และ ชอบช่วงฤดูฝนเป็นพิเศษ หากต้องการปลูกจึงควรปลูกในช่วงปลายเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้ ไม่แนะนำให้ปลูกต้นกล้วยไข่ในพื้นที่โล่งมากเกินไป เพราะหากเจอปัญหาลมพัดแรง จะเสี่ยงทำให้ต้นกล้วยไข่หักโค่นล้ม หรือ หักครึ่งต้นได้ในระยะตกเครือ หากเป็นไปได้ ควรปลูกไม้กันลมไว้ด้วยจะยิ่งดี

วิธีปลูกกล้วยไข่

  1. ก่อนปลูก ควรไถพรวนดินทั้งแปลง แล้วตากดินไว้ 5 – 7 วัน (หากเป็นดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ ให้ใส่ปุ๋ยเคมีบำรุงดินด้วย โดยให้ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตราครึ่งกิโลกรัมต่อต้น)
  2. ขุดหลุมลึกและกว้าง 50 เซนติเมตร จากนั้น คลุกดินที่ขุดขึ้นจากหลุมกับปุ๋ยคอกเก่า รองก้นหลุมด้วยใบไม้ หรือ ฟางข้าวแห้ง แล้วเกลี่ยดินที่ผสมไว้กลับลงหลุม
  3. วางหน่อกล้วยลง หากต้องการให้ต้นกล้วยตกเครือในทิศทางเดียวกัน ให้หันรอยแผลที่ตัดแยกจากต้นแม่ไปทิศทางเดียวกัน แล้วกลบหน่อกล้วยให้ลึกประมาณ 25 – 30 เซนติเมตร
  4. กลบดินเหยียบอัดพอแน่น พูนกลบดินให้สูงเหนือผิวดินเป็นรูปหลังเต่า เพื่อป้องกันน้ำขังขณะรดน้ำหรือฝนตกชุก ในช่วงหน้าฝน หากฝนตกบ่อย ให้ทิ้งช่วง และ ให้น้ำพอเป็นครั้งคราว
  5. เมื่อมีอายุ 5 – 6 เดือน ต้นกล้วยไข่จะเริ่มแทงหน่อขึ้นมา ให้คอยตัดแต่งหน่อกล้วย โดยเลือกหน่อไว้เพียง 2 หน่อ เพื่อทดแทนต้นแม่ โดยเลือกหน่อที่อยู่คนละด้านของต้นแม่ เนื่องจากมีระบบรากที่แข็งแรงส่วนการตัดแต่งกิ่งและใบ แนะนำให้ตัดใบที่แห้งและใบที่เป็นโรคทิ้งไป ให้เหลือเก็บไว้ในระยะเครือจวนแก่เพียง 4 – 5 ใบก็พอ
  6. เมื่อมีอายุ 8 – 12 เดือน กล้วยจะเริ่มให้ปลี นับจากวันปลูกสังเกตการออกปลีจะเห็นมี ใบธง จะมีขนาดเล็กกว่าใบทั่วไปและตั้งตรง ก้านปลีเริ่มยืดยาวออก ปลีมีน้ำหนักมากขึ้นจึงโน้มห้อยลง ปลีจะเริ่มบานให้เห็นดอก ไล่เวียนจากโคนมายังปลาย เมื่อได้รับการผสมเกสร ดอกจะพัฒนาเป็นผลกล้วย รวมระยะเวลาการบานใช้เวลา 10 – 15 วัน จากนั้น ให้ตัดปลีที่ยังไม่บานออก
  7. เมื่อต้นกล้วยไข่เริ่มให้ผลผลิต เครือกล้วยมีน้ำหนักมาก แนะนำให้ใช้ไม้ไผ่หรือไม้เนื้ออ่อนก็ได้ ค้ำต้นกล้วยไข่ เพื่อป้องกันลมพัดโยกไม่ให้ต้นกล้วยไข่หักพับลงด้วย ในแต่ละเครือจะมีหวีสมบูรณ์อยู่ประมาณ 5 – 6 หวี และหนึ่งหวีมีประมาณ 10 – 16 ลูก เฉลี่ยแล้วในหนึ่งเครือจะมีผลกล้วย 70 ผล โดยประมาณการเก็บเกี่ยว ตัดเครือเมื่อครบ 90 วัน

วิธีดูแล

  • การให้ปุ๋ย หากปลูกต้นกล้วยไข่ ในดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ ต้องให้ปุ๋ยเคมีบำรุงดินด้วย ครั้งแรกใส่หลังจากต้นกล้วยไข่ตั้งตัวแล้ว 1 เดือน โดยเลือกใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตราครึ่งกิโลกรัมต่อต้น และใส่อีกครั้งในระยะตกเครือ ด้วยปุ๋ยสูตร 13-13-21 หรือ 14-14-21 อัตราครึ่งกิโลกรัม ถึงหนึ่งกิโลกรัมต่อต้น
  • การกำจัดวัชพืช ตลอดระยะการปลูกต้องหมั่นกำจัดวัชพืชด้วยเครื่องตัดหญ้าเป็นวิธีดีที่สุด ส่วนวิธีขุดสับจะมีผลเสียคือเป็นการทำลายระบบรากของต้นกล้วย
  • การกำจัดศัตรูพืช เมื่อพบการระบาดของ ด้วงงวงไชเหง้า ซึ่งเป็นศัตูพืชที่สำคัญของต้นกล้วย ให้ฉีดพ่นด้วย เฮ็พตาคลอ ตามอัตราแนะนำราดลงบริเวณโคนต้น จะช่วยป้องกันแมลงชนิดนี้ได้

วิธีเก็บเกี่ยว

หลังจากปลีกล้วยแทงออกจากปลีโผล่พ้นยอด ให้เก็บไม้ค้ำออกจนหมดแปลง ตัดเครือด้วยมีดคม นำปลายเครือตั้งขึ้นให้โคนอยู่ด้านล่าง ควรปฏิบัติอย่างนุ่มนวล อย่าให้กล้วยช้ำ ปล่อยให้ยางไหลออก ไม่ไปเปรอะเปื้อนผลกล้วย เมื่อน้ำยางแห้ง จึงเคลื่อนย้ายเข้าเก็บในโรงเรือน ก่อนส่งขายหรือมีผู้รับซื้อมาซื้อถึงที่

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่

กล้วยไข่ เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มาก นอกจากทานเป็นผลไม้ก็อร่อยแล้ว ยังสามารถนำมาทำของหวานได้อีกหลากหลาย จนกลายเป็นสินค้าส่งออกสำคัญ ที่สร้างรายได้ให้กับเกษตกรจำนวนมาก หากใครสนใจอยากปลูกแล้วละก็ ทำตาม วิธีปลูกกล้วยไข่ ที่เรานำมาฝากกันได้เลย รับรองว่า ปลูกแล้วโตไว เก็บผลผลิตส่งขายได้ดีแน่นอน

สำหรับใครที่อยากเก็บกล้วยไข่ สำหรับนำไปแปรรูป หรือ ทำของหวาน ไว้ได้นาน ๆ โดยไม่ให้เน่าเสีย แนะนำให้หั่นกล้วยไข่เป็นชิ้น ๆ เก็บใส่ ถุงร้อน ถุงเย็น หรือ ถุงซีลสุญญากาศ แล้วใช้เครื่องซีลสุญญากาศ ของ SGE ปิดผนึกถุงให้แน่น ด้วยแถบซีลที่หนา จะช่วยให้ป้องกันอากาศเข้าได้เป็นอย่างดี ช่วยให้เก็บกล้วยไข่ได้นานหลายวัน สามารถแช่ช่องฟรีซและนำมาใส่ไมโครเวฟเพื่อละลายน้ำแข็งได้ทันที สนใจคลิกดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sgethai.com/vacuum-sealer/

2 มิถุนายน 2022

โดย

Pres

ความคิดเห็น (Comments)

Leave A Comment