ผักโขม ประโยชน์ สรรพคุณ กินเยอะได้ไหม แก้โรคอะไรได้บ้าง?

8,109 Views

คัดลอกลิงก์

สารบัญ

ผักโขม ผักขม (Amaranth) ดีต่อสุขภาพอย่างไร? แก้โรคอะไรได้บ้าง? และมีข้อควรระวังอย่างไร? วันนี้ SGE จะพาไปหาคำตอบ พร้อมบอกข้อมูลที่น่าสนใจอื่น ๆ แบบจัดเต็ม รับรองว่าอ่านบทความนี้จบ ได้ข้อมูลครบแน่นอน!! 

ประโยชน์ “ผักโขม” ผักพื้นบ้าน บำรุงร่างกาย

ประโยชน์ของ ผักโขม ผักขม
  • บำรุงน้ำนม / บำรุงคุณแม่หลังคลอด ผักโขมช่วยเพิ่มน้ำนม ดีต่อแม่ลูกอ่อนที่มีน้ำนมไม่เพียงพอ รวมถึงมีวิตามินเอ วิตามินซี ช่วยให้น้ำนมของคุณแม่สมบูรณ์ ทารกมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
  • ช่วยลดน้ำหนักและลดความอ้วน ผักขมเป็นผักที่ทานแล้วอิ่มเร็วและนาน ช่วยชะลอการดูดซึมไขมันในร่างกาย ทั้งยังมี สารซาโปนิน ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล 
  • ลดอาการปวดท้องประจำเดือน ผักโขมมีส่วนช่วยในการลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อในบริเวณช่องท้อง
  • ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ทั้งมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งรังไข่ เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง
  • ลดความเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ ผู้สูงอายุที่รับประทานผักโขมเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ 
  • ช่วยบำรุงสุขภาพของดวงตา ผักโขมมีวิตามินเอสูง ป้องกันความเสื่อมที่อาจเกิดกับดวงตา
  • ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ผักโขมอุดมไปด้วยไฟเบอร์หรือกากใยอาหารปริมาณมาก ช่วยในการกระตุ้นการขับถ่ายในแต่ละวัน 
  • บำรุงผิวพรรณ ชะลอความแก่ชรา ผักโขมมีสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการแก่และตายของเซลล์ได้ดี
  • บำรุงระบบไหลเวียนโลหิต เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบหัวใจ ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ
  • ป้องกันภาวะเลือดไหลไม่หยุด ผู้ที่มีปัญหาในเรื่องของเลือดออกตามไรฟันบ่อยๆ ควรรับประทานผักโขม เพราะในผักขมมีวิตามินซี วิตามินเค ที่มีส่วนช่วยในการป้องกันภาวะเลือดไหลไม่หยุด
  • ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ให้มีสุขภาพที่แข็งแรง
  • ดีต่อผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ ผักโขมอุดมไปด้วยโปรตีนสูง แนะนำสำหรับผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อ หรืออยู่ในช่วงของการงดรับประทานเนื้อทุกชนิด 
  • ประกอบอาหารได้หลายเมนู ใบอ่อน ยอดอ่อน ต้นอ่อน นำมาลวกหรือต้มให้สุก หรือจะนำมาต้ม ผัด แกง ทอด ได้ตามต้องการ 

สรรพคุณ “ผักโขม” ปรุงเป็นยา

  • ทั้งต้น : ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ, ดับพิษร่างกาย, แก้อาการแน่นท้อง, ปวดท้องประจำเดือน, รักษาฝี กลาก เกลื้อน, แผลพุพอง, ผดผื่นคัน, รักษาโรคริดสีดวงทวารและจมูก, แก้รำมะนาด
  • ราก : ถอนพิษไข้, ใช้รักษาโรคริดสีดวงทวารและจมูก
  • ลำต้น : แก้อาการแน่นหน้าอก, ไอหอบ, แก้อาการบิด มูกเลือด
  • ใบ : ช่วยรักษาแผลพุพอง (การใช้ผักโขมเพื่อสรรพคุณทางยา ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน)
สรรพคุณ ผักโขม

ข้อควรระวังของผักโขม

ผักโขม เป็นหนึ่งในผักที่ ไม่ควรรับประทานสด ในปริมาณที่มากเกินไป

  • ผักโขมดิบมี “กรดออกซาลิก” (Oxalic Acid) ค่อนข้างสูง หากกินเยอะเกินไป จะขัดขวางการดูดซึมธาตุแคลเซียม 
  • ผักโขมมีไฟเบอร์สูง หากกินมากเกินไป ก็อาจก่อปัญหาที่กระเพาะอาหาร มีแก๊ส ท้องอืด เป็นตะคริว 
  • สำหรับผู้ที่เป็น โรคนิ่ว โรคเกาต์ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ กลุ่มผู้ที่สะสมปริมาณของแคลเซียม ควรเลี่ยงการรับประทานผักโขมในปริมาณมาก
  • ผู้ที่รับประทานยากลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น aspirin, warfarin ไม่ควรทานเยอะ เพราะผักโขมจะไปต้านยา เสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันได้

กินผักโขมยังไงให้สุขภาพดี?  

ผักโขมควรทำให้สุก เพื่อทำลายกรดออกซาลิก โทษต่าง ๆ จะหายไปในทันที มีคำแนะนำว่าการปรุงอาหารด้วยวิธีการทอด การคั่ว จะช่วยลดปริมาณสารออกซาเลตได้ดีที่สุด แต่การนำไปนึ่งหรือต้มจะช่วยลดลงได้ในระดับหนึ่ง

Back to top

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

สแลนกันแดด NetShade
สแลนกันแดด NetShade

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ข้อมูลโภชนาการของ ผักขม

ผักโขม 100 กรัม ให้พลังงานทั้งหมด 23 กิโลแคลอรี

สารอาหาร ปริมาณ / หน่วย
โปรตีน 2.9 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 3.6 กรัม
ไขมัน 0.4 กรัม
ใยอาหาร 2.2 กรัม
น้ำตาล 0.4 กรัม
โซเดียม 79 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม 558 มิลลิกรัม
วิตามินเอ 188 %
วิตามินซี 47 %
วิตามินบี 6 10 %
วิตามินอี 7 %
วิตามินเค 604 %
แคลเซียม 10 %
เหล็ก 15 %
แมกนีเซียม 20 %
ฟอสฟอรัส 5 %
ซิงค์ 4 %
ไทอามิน 5 %
ไรโบพลาวิน 11 %

แหล่งข้อมูลประกอบ: Calforlife

Back to top

ผักโขม (Amaranth)

ผักโขม โตสวย สีเขียว
ผักโขม วิธีปลูก

ชื่อวิทยาศาสตร์

Amaranthus lividus

ชื่อสามัญ

Amaranth / Amaranth green

กลุ่มพันธุ์ปลูก

Amaranthaceae

ถิ่นกำเนิด

แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ / แอฟริกาตะวันตก

ผักโขม หรือ ผักขม (Amaranth) เป็นผักที่ขึ้นตามแหล่งธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นริมทาง ป่าละเมาะ ป่ารกร้าง รวมทั้งสวนผักผลไม้เป็นต้น ผักขมยังได้รับการนิยมนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ผัดผักโขม แกงจืดผักโขม ผักโขมอบชีส ขนมปังหน้าผักโขมอบชีส เป็นต้น

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ผักโขม

ลำต้น

ผักโขมเป็น พืชล้มลุก ลักษณะเป็น ไม้พุ่มเตี้ย สูงประมาณ 30 – 150 ซม. ลำต้นอวบน้ำตั้งตรง มีหนาม บางพันธุ์ก้านมีสีแดง

ใบ

ใบเดี่ยว ใบยาวรี รูปร่างคล้ายหัวใจ บางชนิดเป็นรูปไข่คล้ายสามเหลี่ยม ผิวใบเรียบหรือมีขนเล็กน้อย หลังใบเป็นคลื่นเล็กน้อย

ดอก 

ดอกมีสีเขียวและสีม่วงอมเขียว ออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง ดอกย่อยเรียงตัวอัดแน่น เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล

เมล็ด

เมล็ดกลม ขนาดเล็ก สีน้ำตาลเกือบดำ 

Back to top

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้
กระถางผ้า กระถางผ้าปลูกต้นไม้

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

สายพันธุ์ของผักโขม

สายพันธุ์ผักโขม มีมากกว่า 70 สายพันธุ์ทั่วโลก แต่สายพันธุ์ที่พบในประเทศไทย และนิยมนำมารับประทาน มีดังนี้

1 ผักโขมสวน/ผักโขมสี

ผักโขมสวน ผักโขมสี ผักโขมแดง

1 ผักโขมสวน/ผักโขมสี

ผักโขมสวน หรือ ผักโขมสี (Joseph’ s coat, Red amaranth) ใบมีรูปไข่ ปลายใบมน โคนใบสอบ ใบมีสีเขียว เส้นกลางใบมีสีแดง เมื่อปรุงสุกจะมีสีแดงอมม่วงและมีน้ำสีม่วงไหลออกมา ส่วนสายพันธุ์ Joseph’s coat ตรงยอดจะมีสีเหลืองและมีสีแดงที่โคนของใบ

2 ผักโขมไทย / ผักโขมหัด

ผักโขม ไทย ผักโขมหัด

2 ผักโขมไทย / ผักโขมหัด

ผักโขมไทย ผักโขมหัด (Slender amaranth) สูงประมาณ 0.5 – 2 ฟุต ใบเป็นรูปไข่หรือสามเหลี่ยมขนมเปียกปูน ตามเส้นใบมีขน ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบและปลายยอด

3 ผักโขมหนาม

ผักโขม ผักขม ผักโขมหนาม

3 ผักโขมหนาม

ผักโขมหนาม (Spiny amaranth) อายุสั้นประมาณ 2 – 4 เดือน (นิยมเรียกว่าพืชที่มีอายุปีเดียว) เมื่อออกดอก ติดเมล็ดแล้วก็จะค่อยๆ เหี่ยวแห้งตาย ลำต้นมีหนามแหลมตามข้อ 1 – 2 เซนติเมตร

4 ผักโขมจีน

ผักโขมจีน

4 ผักโขมจีน

ผักโขมจีน (Chinese Spinach) เป็นชื่อเรียกในสหรัฐอเมริกา เพื่อให้แตกต่างจากผักขมฝรั่ง (Spinach/ English Spinach) ใบมีสีเขียวอ่อน ก้านยาวเรียว

5 ผักโขมฝรั่ง หรือ ปวยเล้ง

ผักโขม ผักโขมฝรั่ง ปวยเล้ง

5 ผักโขมฝรั่ง / ปวยเล้ง

คนไทยเรียกผักชนิดนี้รวมเป็น ผักขมซึ่งจริง ๆ แล้ว ผักโขมฝรั่ง หรือ ปวยเล้ง อยู่ในสกุล Spinacia ซึ่งเป็นคนละกลุ่มกับผักโขมอย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม ผักโขมฝรั่ง ได้รับความนิยมในการนำมาประกอบอาหารเป็นอย่างมาก 

Back to top

แนะนำเมนู “ผักขม” อร่อย ทำง่าย!

10 เมนูผักโขม อร่อย ง่าย ทำตามได้จริง

รวมเมนู ผักโขม

SGE รวมมาให้แล้ว! ทั้งเมนูคาวและหวาน รวม ๆ แล้วกว่า 10 เมนูด้วยกัน รับรองว่า รสชาติอร่อย ไม่มีซ้ำ ทานได้ทุกวันทุกเวลา ถูกใจคนรักสุขภาพแน่นอน

  • ผักโขมผัดเห็ด
  • ไข่เจียวผักโขม
  • ผักโขม อบชีส
  • สลัดผักโขมโรยงา
  • ขนมปังผักโขมนมสด 
  • ฯลฯ …
Back to top

วิธีปลูก ผักโขม ให้โตดี สวยงาม

ผักขม เป็นพืชที่ชอบแดด ปลูกได้ตลอดทั้งปี ดูแลง่าย ไม่ค่อยพบโรคพืชและแมลงมารบกวน

Amaranth seed ขยายพันธุ์ ผักโขม
วิธีปลูก ผักขม
  • ขั้นตอนที่ 1 เตรียมเมล็ดพันธุ์

    สามารถซื้อเมล็ดผักโขมแบบถุง หรือเก็บเมล็ดแก่ (สุขภาพดี) มาเพาะพันธุ์ได้

  • ขั้นตอนที่ 2 เตรียมดินปลูก

    ผักโขมเติบโตดีใน “ดินร่วนซุย” ระบายน้ำดี การเตรียมดินให้ใช้ ดินร่วน หรือ ดินร่วนปนทราย ผสมกับ วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น มูลสัตว์ แกลบ ขี้เถ้า ขี้เลื่อย ในอัตราส่วนดินกับวัสดุ 2:1ส่วนแปลงปลูกให้ก่ออิฐบล็อกขึ้นแล้วใส่ดินปลูก หรือจะปลูกแบบไถพรวนดินผสมกับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร อัตรา 2-3 กิโลกรัม/ตารางเมตร

  • ขั้นตอนที่ 3 ปลูกผักโขมลงแปลง

    ผักโขมปลูกได้ 2 วิธี คือ หว่านเมล็ดลงทั้งแปลง และ หว่านเมล็ดเป็นแถว 

    • หว่านเมล็ดทั่วแปลง ใช้เมล็ดผักโขม หว่านลง อัตรา 10 กก./ไร่ แล้วคราดดินกลบ รดน้ำให้ชุ่ม
    • หว่านเมล็ดเรียงแถว ระยะห่างระหว่างแถว 20 – 25 ซม. ในอัตรา 10 กก./ไร่ คราดดินกลบ รดน้ำให้ชุ่ม 

    *อัตราส่วนเมล็ด ขึ้นอยู่กับพันธุ์ผักโขมว่าลำต้นใหญ่เพียงใด

  • ขั้นตอนที่ 4 การดูแล

    • น้ำ ให้น้ำทุกวัน วันละ 1 – 2 ครั้ง ตั้งแต่เริ่มปลูกไปจนถึง ก่อนเก็บผลผลิต 1-2 วัน (ให้น้ำในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ให้น้ำขังดิน)
    • ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยสูตร 16-8-8 ประมาณ 2-3 ครั้ง เริ่มใส่ตั้งแต่ระยะที่ต้นอ่อนมีใบแท้ 2-4 ใบ
  • ขั้นตอนที่ 5 เก็บผลผลิต

    เก็บได้ตั้งแต่ 20 – 25 วัน หรือเก็บในระยะต้นอ่อนที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ โดยมีใบแท้ประมาณ 5-10 ใบ ความสูงประมาณ 15-25 ซม. (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่ปลูก)

Back to top

จบไปแล้วกับข้อมูลที่น่าสนเกี่ยวกับ “ผักโขม” ทั้งประโยชน์ สรรพคุณ ข้อควรระวัง และสายพันธุ์ที่นิยมรับประทาน หวังว่าเพื่อน ๆ จะรู้จักพืชชนิดนี้มากขึ้น และรับประทานได้อย่างปลอดภัยที่สุด!

7 กุมภาพันธ์ 2024

โดย

Wishyouwell.

ความคิดเห็น (Comments)