วิธีเลือก เตาอบเบเกอรี่มือใหม่ ข้อควรรรู้เกี่ยวกับเตาอบ

306 Views

คัดลอกลิงก์

ข้อควรรู้ เตาอบเบเกอรี่มือใหม่ เลือกแบบไหน ไม่ให้ผิดหวัง!

หากใครกำลังมองหา “เตาอบเบเกอรี่มือใหม่” สำหรับอบขนมเและเบเกอรี่ แต่เลือกนานเท่าไหร่ก็ไม่ได้ตรงใจสักที

วันนี้ SGE มีเกร็ดความรู้ พร้อมเทคนิคการเลือกเตาอบสำหรับมือใหม่มาฝาก จะมีวิธีเลือกอย่างไร? และ มีอะไรน่าสนใจบ้าง? ตามไปดูกันเลยจ้า!

ในปัจจุบันเตาอบมีหลายประเภทและหลายขนาดให้เลือกใช้ รองรับตั้งแต่ “มือใหม่หัดทำ” ไปจนถึง “เชฟขนมระดับมืออาชีพ” การเลือกเตาอบจึงต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งในการพิจารณาขั้นแรก เราจะพาทุกคนไปรู้จักประเภทของเตาอบ เพื่อให้ตัดสินใจในเบื้องต้นก่อนว่า เตาอบแบบไหนที่เหมาะกับมือใหม่มากที่สุด?

เตาอบตั้งโต๊ะ หรือ เตาติ๊ง (Countertop Oven)

เตาอบตั้งโต๊ะ หรือ เตาติ๊ง (Countertop Oven)

เตาอบไฟฟ้าแบบตั้งโต๊ะ มีขนาดให้เลือกมากมาย เริ่มต้นตั้งแต่ 9 ลิตร ไปจนถึง 60 ลิตร (หรือมากกว่า) เป็นเตาอบที่ติดตั้งใช้งานง่าย ราคาต่ำกว่าเตาอบประเภทอื่น ขนาดของเตาอบจะส่งผลต่อลักษณะการใช้งาน เช่น เตาขนาด 10-20 ลิตร จะไม่ค่อยเหมาะกับการทำเบเกอรี่ มักใช้สำหรับอุ่นอาหารหรือปิ้งขนมปังมากกว่า เนื่องจากห้องอบมีขนาดเล็กและแคบมาก ทำให้ขนมใกล้ขดลวดทำความร้อนมากเกินไป อาจทำให้หน้าไหม้ได้ ดังนั้น หากต้องการเลือกเตาอบประเภทนี้เป็น “เตาอบเบเกอรี่มือใหม่” ที่รองรับการทำเบเกอรี่ แนะนำให้เลือก ขนาดตั้งแต่ 40 ลิตร ขึ้นไป เพราะสามารถรองรับเค้กปอนด์ คุ้กกี้ ทาร์ต และเบเกอรี่อื่น ๆ ได้

เตาอบแบบฝัง (Built-in Oven)

เตาอบแบบฝัง (Built-in Oven)

เตาอบแบบฝัง อบอาหารและทำเบเกอรี่ได้หลายเมนู เหมาะกับการใช้งานในบ้านหรือคอนโด  โดยทั่วไปมีขนาดตั้งแต่ 50 – 90 ลิตร ต้องให้ช่างหรือผู้เชี่ยวชาญติดตั้ง ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ข้อดีของเตาอบแบบนี้คือมีความสวยงาม เปรียบเสมือนเป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ประดับห้องครัว ไม่เปลืองพื้นที่บนเคาน์เตอร์ แต่ราคาค่อนข้างสูง ดังนั้น ก่อนซื้อเป็น เตาอบเบเกอรี่มือใหม่ ต้องพิจารณาถึงความจำเป็นและพื้นที่ในการติดตั้งให้ถี่ถ้วน

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

เครื่องซีลสูญญากาศ จาก SGE การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

เตาอบลมร้อน (Convection Oven)

เตาอบลมร้อน (Convection Oven)

เตาอบลมร้อน หรือ เตาอบคอนเวคชั่น ได้รับฉายาว่าเป็น “เตาเทพ” เนื่องจากเป็นเตาอบที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน มีฟังก์ชันที่เหมาะกับการทำเบเกอรี่และอาหาร จุดแตกต่างที่โดดเด่นของเตาประเภทนี้ คือ มี “พัดลม” ภายในเตา ช่วยกระจายความร้อน หมุนเวียนอากาศได้ดี ทำให้อุณภูมิภายในเตามีความสม่ำเสมอ ทำให้อาหารหรือขนมที่ได้สุกไวและสุกทั่วถึงกว่า ช่วยให้อาหารมีความกรอบแต่ยังคงความชุ่มฉ่ำไว้ได้ดี นอกจากนี้ยังได้เบเกอรี่ที่มีสีน้ำตาลสวย กรอบนอก นุ่มใน ได้สัมผัสที่ต้องการ รองรับเบเกอรี่เกือบทุกประเภท ที่สำคัญคือไม่ต้องสลับถาด หมุนถาด เหมือนกับเตาอบทั่วไป แต่ราคาของเตาประเภทนี้ค่อนข้างสูง สำหรับมือใหม่ที่หัดทำขนมและอยากจะจริงจังในอนาคต หากมีกำลังเพียงพอ เตาคอนเวคชั่นก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี

เตาอบคอมบิ (Combi Oven)

เตาอบคอมบิ (Combi Oven)

เตาอบคอมบิ หรือ เตาอบคอมบิเนชั่น (Combination) เป็นเตาที่รวมฟังก์ชันเตาอบลมร้อนและเตานึ่ง ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ สามารถตั้งโปรแกรมให้ใช้ความร้อนแยก หรือ สองแบบได้พร้อมกัน เหมาะสำหรับใช้ทำอาหารคาวมากกว่า นิยมใช้ในร้านอาหาร โรงแรม หรือภัตตาคาร เนื่องจากมีขนาดใหญ่ ราคาสูง (หากนำมาใช้ในบ้าน อาจจะเกินความจำเป็น)

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ถุงซีลสูญญากาศ

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🥺🙏🏻

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

คุณสมบัติที่ควรมีใน เตาอบเบเกอรี่มือใหม่

เมื่อเลือกประเภทของเตาอบได้แล้ว เรามาดูกันว่าฟังก์ชันที่จำเป็นใน “เตาอบเบเกอรี่มือใหม่” มีอะไรบ้าง?

เตาอบเบเกอรี่มือใหม่ อุณหภูมิ การตั้งค่าความร้อน

ทำความร้อนได้ไม่ต่ำกว่า 250 °C

เตาอบที่ดีต้องสามารถตั้งอุณหภูมิได้ไม่น้อยกว่า 250 องศาเซลเซียส เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย โดยปกติเบเกอรี่จะใช้อุณหภูมิในการอบอยู่ที่ 150 – 200 องศาเซลเซียสแล้วแต่ชนิดและประเภทของขนมนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ชิฟฟอนเค้กใช้อุณหภูมิ 160-180 องศาเซลเซียสในการอบ ในขณะที่สปันจ์เค้ก ใช้อุณหภูมิประมาณ 180-200 องศาเซลเซียส ดังนั้น ยิ่งเตาอบตั้งค่าความร้อนได้สูงมากเท่าไหร่ ยิ่งทำขนมได้หลายชนิดมากขึ้นเท่านั้น

เตาอบเบเกอรี่มือใหม่ ฟังก์ชันตั้งเวลาอบ

ตั้งเวลาอบได้ ไม่น้อยกว่า 90 นาที

ก่อนการเลือกซื้อ เตาอบเบเกอรี่มือใหม่ ทั้งอุณหภูมิและเวลา เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาในลำดับต้น ๆ โดยทั่วไปขนมหรือเบเกอรี่ จะใช้เวลาในการอบอยู่ที่ 20 – 90 นาที แต่ถ้าหากปริมาณเบอเกอรี่ในเตาอบเยอะ ก็อาจต้องเพิ่มเวลาขึ้น หากเลือกเตาอบที่ตั้งเวลาได้น้อย เมื่อทำขนมที่ต้องใช้เวลานาน เราต้องคอยกลับมาตั้งเวลาใหม่จนครบเวลา แย่ไปกว่านั้น หากลืมกลับมาตั้งเวลา ขนมชิ้นนั้นอาจมีเนื้อสัมผัส รสชาติที่ผิดเพี้ยนไปจากสูตรเดิม เนื่องจากความไม่ต่อเนื่องของอุณหภูมิก็ได้

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

เบเกอรี่มือใหม่ ไฟบน – ไฟล่าง ปรับแยกได้อิสระ

ไฟบน – ไฟล่าง ปรับแยกได้อิสระ

เตาอบไฟฟ้าบางยี่ห้อ ให้ความร้อนจากด้านล่างเพียงอย่างเดียว ทำให้ทำขนมบางชนิดได้ผลลัพธ์ที่ไม่ตรงตามความต้องการ เช่น ทาร์ตไข่ ที่ต้องอาศัยความร้อนจากด้านบนเพื่อทำให้หน้าไหม้ เตาอบที่ดีจึงต้องมีระบบทำความร้อนทั้งด้านบน ด้านล่าง สามารถเลือกปรับได้อิสระ เพื่อให้เราเลือกได้ว่าต้องการให้ขนมชิ้นนั้นสุกในลักษณะไหน เช่น สุกล่าง สุกบน หรือสุกทั้งล่าง-บน เป็นต้น

เตาอบเบเกอรี่มือใหม่ หลอดไฟ

หลอดไฟส่องสว่างภายในเครื่อง

สำหรับมือใหม่แล้ว ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าการสังเกตขนมหรือเบเกอรี่ที่อยู่ภายในเตาว่าสุกอยู่ในระดับใด มีสีสวยหรือไม่ มีความฟูมากน้อยแค่ไหน หรือมีอะไรผิดพลาดหรือไม่ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ หรือ เบเกอรี่ชิ้นนั้นไม่ได้เป็นไปอย่างที่ต้องการ จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที

เตาอบเบเกอรี่มือใหม่ ฟังก์ชัน

กระจกนิรภัยหนา 2 ชั้น

เนื่องจากเตาอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้ความร้อนในการทำงาน ส่วนประกอบทุกชิ้นจึงต้องมีคุณสมบัติในการทนความร้อนสูง ประตูกระจกก็เช่นกัน ควรเลือกกระจกนิรภัย ตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป เพื่อความทนทาน กันความร้อนออกมาภายนอกได้ เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาอุณหภูมิให้คงที่

เตาอบเบเกอรี่มือใหม่ แข็งแรง ทนทาน ปลอดสารพิษ

แข็งแรงทนทาน มาตรฐาน Food Grade

เตาอบเบเกอรี่ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้งานร่วมกับขนมและอาหารอยู่ตลอดเวลา วัสดุที่ใช้ผลิตจึงต้องสามารถสัมผัสอาหารได้ (Food Grade) ที่สำคัญคือต้องมีความแข็งแรง ทนทาน ทนต่อความร้อนและสภาพอากาศภายนอกได้ดี จึงจะคุ้มค่า คุ้มราคา และคุ้มการลงทุน

นอกจากจะพิจารณา เตาอบเบเกอรี่มือใหม่ จากประเภทและคุณสมบัติที่จำเป็นในเบื้องต้นแล้ว อย่าลืมเลือกยี่ห้อหรือผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน มีการรับประกันสินค้า พร้อมบริการหลังการขายที่ดี เพื่อความอุ่นใจในการใช้งาน เพราะมือใหม่หลายคนอาจจะยังไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเตาอบมากนัก การได้รับคำปรึกษาจากผู้ขายหรือผู้ผลิตจึงมีความจำเป็นมาก

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ เตาอบเบเกอรี่มือใหม่

อุปกรณ์ทำเบเกอรี่

เตาอบเบเกอรี่ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องทำความเข้าใจก่อนการใช้งาน เพื่อประสิทธิภาพในการทำขนมที่ยอดเยี่ยม

1) การเผาเตาอบก่อนการใช้งาน
การ “เผาเตาอบ” ก่อนการใช้งานจริง เป็นการขจัดสารเคลือบภายในเตาอบด้วยการใช้ความร้อนสูง ทำให้สารเคมีและกลิ่นไม่พึงประสงค์หายไป วิธีทำง่าย ๆ คือ นำอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนของเตาอบ เช่น ถาดรองอบ ตะแกรง เข้าไปในเตา จากนั้นเปิดเครื่อง เปิดไฟบน – ไฟล่าง ปรับอุณหภูมิให้อยู่ที่ 200-250 องศาเซลเซียส แล้วอบทิ้งไว้ประมาณ 30 – 60 นาที เมื่อครบกำหนดเวลา ให้เปิดฝาเตา รอให้เย็นลง จากนั้นนำอุปกรณ์ทั้งหมดไปล้างด้วยน้ำยาล้างจาน ภายในเครื่องให้ทำควาสะอาดด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ด

2) การใช้เทอร์โมมิเตอร์ (Thermometer Oven) ช่วยวัดอุณภูมิ

แม้ว่าเตาอบที่ได้มาตรฐานจะมีอุณหภูมิที่เสถียร แม่นยำ แต่ก็ยังมีช่วงที่อุณหภูมิสวิงขึ้น-ลงบ้าง เพราะมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การเริ่มต้นทำความร้อนที่ต้องใช้เวลาในการอุ่นเครื่อง จำนวนขนม และการเปิดประตูเตาอบ ทำให้อากาศภายนอกเข้าไป ทำให้อุณหภูมิของเตาอบเหวี่ยงได้ อุณหภูมิจริงภายในเตาจึงไม่ตรงกับอุณหภูมิที่เราตั้งค่าหน้าเตาอบ การใช้เทอร์โมมิเตอร์จึงช่วยวัดอุณหภูมิจริงภายในเตาได้ เทคนิค คือ วางไว้ชั้นเดียวกับถาดขนมที่อบ

3) การใช้ถาดอบ กระดาษไขรองอบ อะลูมิเนียมฟอยล์

  • ถาดอบเบเกอรี่ (Baking Tray) เป็นถาดที่ออกแบบพิเศษสำหรับใช้กับเตาอบ หรือ ใช้กับอุณภูมิสูงเป็นพิเศษ นิยมใช้เป็นถาดสแตนเลสที่นำความร้อนได้ดี ทนทาน ปลอดภัย ใช้กับอาหารได้
  • กระดาษไขรองอบ (Baking Paper) เป็นกระดาษสำหรับรองอบ มักใช้งานกับถาดอบเบเกอรี่ ช่วยให้ขนมไม่ติดถาด ลดการทาเนย
  • อะลูมิเนียมฟอยล์ (Aluminum Foil) เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยรักษาความสดของอาหาร ป้องกันการสูญเสียน้ำ การซึมผ่านของไขมันและน้ำมัน แถมยังป้องกันอากาศภายนอกหรือกลิ่นแปลกปลอมเข้าไปสัมผัสกับอาหารอีกด้วย นิยมใช้ห่ออาหารเพื่อเก็บไว้ในตู้เย็น ห่ออาหารสำหรับไปปิกนิก แคมปิ้ง รวมถึงห่ออาหาร พื่อเข้าเตาอบ หรือปิ้งย่างได้

คลิกอ่านเพิ่มเติม : “ฟอยล์ห่ออาหาร” เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ทำได้อย่างไร?

4) วิธีคำนวนองศาฟาเรนไฮต์ให้เป็นองศาเซลเซียส

มือใหม่ที่เพิ่งหัดทำอาหารหรือขนม หากมีสูตรในการทำขนม ควรสังเกตหน่วยอุณหภูมิของเทอร์โมมิเตอร์ให้ดี เพราะอาหารหรือขนมบางสูตรเป็นสูตรของต่างประเทศ อาจใช้เป็นหน่วยฟาเรนไฮต์ หากต้องการเปลี่ยนจากฟาเรนไฮต์มาเป็นองศาเซลเซียส สูตรคือ  C = (℉ – 32) / 1.8

ตัวอย่าง อุณหภูมิ 98.6 องศาฟาเรนไฮต์ เท่ากับกี่องศาเซลเซียส?

C = ( 98.6 – 32 ) / 1.8
C = 66.6 / 1.8
C = 37

5) คำแนะนำ คำเตือน ในการใช้งานเตาอบเบื้องต้น

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบไฟฟ้าของสถานที่ที่จะติดตั้งตรงกับสเปคของเตาอบ
  • ควรติดตั้งเบรกเกอร์ สำหรับเตาอบที่มีกำลังไฟฟ้า 3,000 วัตต์ขึ้นไป
  • การเลือกตำแหน่งในการติดตั้ง ควรเว้นระยะห่างระหว่างตัวเครื่องกับผนังอย่างน้อย 0.5 เมตร เพื่อให้อากาศสามารถหมุนเวียนและระบายความร้อนได้ดี
  • เสียบปลั๊กเตาอบกับเต้ารับโดยตรง ไม่ควรต่อพ่วงสายไฟหรือใช้ปลั๊กสามตาในการติดตั้ง
  • การใช้งานเตาอบในครั้งแรก แนะนำให้ “เผาเตาอบ” เพื่อทำลายสารเคลือบที่เกิดจากกระบวนการผลิต
  • เตาอบทุกประเภท ต้องอุ่นเครื่องก่อนอบ เพื่อให้อาหารสุกตามอุณหภูมิที่ถูกต้อง
  • อย่าเปิดฝาเตาอบหากไม่จำเป็น เพราะความร้อนจะรั่วไหลออก ทำให้อุณหภูมิตกกะทันหัน
  •  การซ่อมแซมหรือบํารุงรักษาควรทําโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย

จะเห็นว่าเทคนิคในการเลือก เตาอบเบเกอรี่มือใหม่ ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงเลือกประเภทและสเปคของเตาอบให้เหมาะกับการใช้งาน เปรียบเทียบกับงบประมาณที่ตั้งไว้ เท่านี้ก็จะได้เตาอบที่ตอบโจทย์ความต้องการเราแล้ว หากใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ อย่าลืมนำคุณสมบัติที่เราได้แนะนำ ไปพิจารณาร่วมกับจุดเด่นของเตาอบที่เล็งไว้ว่าตรงกันหรือเปล่า หากคุณสมบัติขาดไปมาก แนะนำให้เปลี่ยนยี่ห้อ เพื่อผลลัพธ์การทำขนมที่ดีและตรงตามสูตรน้า (●’◡’●) 💖

ขอบคุณข้อมูลจาก : Krua.Co

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

สแลนกันแดด NetShade
สแลนกันแดด NetShade

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

10 ตุลาคม 2023

โดย

Wishyouwell.

ความคิดเห็น (Comments)

Leave A Comment