11 ไม้อวบน้ำ ยอดฮิต ใบสีเขียวมันเงา ตกแต่งได้ทุกมุมของบ้าน

1. เอชิวาเลีย (Echeveria)

ใครชอบ ดอกกุหลาบ ต้องชอบ ต้นเอชิวาเลีย แน่นอน เพราะไม้อวบน้ำชนิดนี้ มีใบที่ประกอบและเรียงซ้อนกัน คล้ายการเรียงซ้อนของกลีบดอกกุหลาบ ทำให้มีความสวยงาม ไม่ต่างจากต้นกุหลาบจริง ๆ จนมีชื่อเล่นว่า กุหลาบหิน ซึ่งถ้าหากใครอยากมอบกุหลาบให้กับคนรักในแบบที่แปลกใหม่ แนะนำเจ้าต้นไม้ชนิดนี้เลย โดยคุณสามารถขยายพันธุ์มันได้ ด้วยการปักชำ ส่วนการดูแล เพียงตั้งกระถางไว้ในที่มีแสงรำไร และ รดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เท่านี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้ต้นเอชิวาเลียเติบโตได้อย่างสวยงามแล้ว

2. ฮาโวร์เทีย (Haworthia)

เสน่ห์ของ ฮาโวร์เทีย ที่ทำให้มันเป็น ไม้อวบน้ำ ยอดนิยม อยู่ที่ใบของมัน ซึ่งมีลักษณะกลมมน เขียวใส คล้ายหยดน้ำ ทำให้ต้นไม้ต้นนี้เป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คน โดยนอกจากจะมีสีเขียวแล้ว ยังมีสีเขียวเข้มอมดำ และ สีเหลืองอมด่าง ที่ให้ความสวยงามไปอีกแบบ สำหรับวิธีดูแล ถึงแม้จะคล้ายหยดน้ำ แต่ก็ไม่ได้ชอบน้ำมาก จึงควรรดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และวางในที่ ๆ โดนแสงแดดอ่อน ๆ โดยดินที่ใช้ปลูก ก็ควรระบายน้ำและอากาศได้ดี เพื่อช่วยให้รากเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

3. ซีดัม (Sedum) 

ซีดัม เป็นไม้อวบน้ำที่มีลำต้นและใบค่อนข้างเล็ก เหมาะกับคนที่ชอบปลูกต้นไม้จิ๋ว ประดับตามโต๊ะทำงานหรือ มุมต่าง ๆ ภายในบ้าน โดยใบมีสีเขียวมิ้นต์ ลักษณะสั้นป้อม โคนกลมมน ปลายใบแหลม คล้ายเมล็ดข้าว ประโยชน์ของมัน นอกจากจะปลูกเป็นต้นเดี่ยว ๆ เพื่อความสวยงามได้แล้ว ยังสามารถนำไปปลูกรวมกับไม้อื่น ๆ ในกระถางใหญ่ได้ด้วย เนื่องจากค่อนข้างทนและไม่ต้องการการดูแลมาก เวลารดน้ำ ให้รดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น แต่ควรวางไว้ในที่ที่มีอากาศเย็นสบายด้วย

4. ยูโฟเบีย ซูโด โกลโบซ่า (Euphorbia pseudo globosa)

ไม้อวบน้ำ ที่มีลักษณะคล้าย แคดตัส แต่ว่าเป็นคนละชนิดกัน โดยคนไทยนิยมเรียกว่า ยูโฟเบียนักกล้าม เพราะลำต้นสั้นป้อม มีรูปทรงแท่งหกเหลี่ยม คล้ายคนเบ่งกล้าม โดยต้นไม้ชนิดนี้จะไม่มีใบ แต่สามารถออกดอกสีเหลืองขนาดเล็กที่ปลายยอดได้ สำหรับวิธีการปลูก สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการเพาะเมล็ดและปักชำหน่อหรือกิ่ง ส่วนดินควรใช้ดินโปร่งหรือดินที่ระบายน้ำและอากาศได้ดี เวลาดูแลรักษา ให้รดน้ำเมื่อดินแห้ง และวางไว้ในที่มีแสงแดดจัด

5. ไลทอปส์ (Lithops)

เป็น ไม้อวบน้ำ ที่มีรูปร่างแปลกตาไม่เหมือนใคร เพราะมีลักษณะภายนอกแข็งคล้ายกับหิน ทำให้คนไทยเรียกมันด้วยชื่อต่าง ๆ นา ๆ ไม่ว่าจะเป็น ศิลาดล ก้อนหินมีชีวิต ฯลฯ โดยปกติแล้ว 1 ต้นจะมี 2 ใบ มีโคนใบเชื่อมติดกันอยู่ลึกลงไปในดิน ทำให้ดูแล้วมีรอยแยกตรงกลาง ซึ่งไลทอปส์นั้นมีหลายสีมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น สีเขียว สีขาวหม่น สีครีม สีน้ำตาลอมแดง สีเขียวอมน้ำตาล ฯลฯ ยิ่งถ้ามีลวดลายก็จะทำให้มีสีสันที่สะดุดตามากยิ่งขึ้น สำหรับการดูแลนั้นก็ไม่ยาก เพียงแค่หมั่นคอยรดน้ำสม่ำเสมอ ก็เพียงพอแล้ว

6. กุหลาบแพนด้า (Panda Plant/Kalanchoe tomentosa)

กุหลาบแพนด้า จัดอยู่ในพืชตระกูลเดียวกับ เอชิวาเลีย หรือ กุหลาบหิน แต่ว่ามีลักษณะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ตรงที่มีลำต้นสูง ใบเรียวยาว ปลายกลมมน มีขนสีเงิน รวมถึง ลักษณะพิเศษคือ ขอบใบมีสีน้ำตาล ซึ่งคล้ายกับสีขนของแพนด้าหางแดง จนกลายเป็นชื่อเรียกที่ทุกคนรู้จัก โดยหากใครต้องการปลูก ให้ใช้ดินที่สามารถระบายอากาศและน้ำได้ดี และ คอยรดน้ำไม่ให้ดินแห้ง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

7. เฟเนสตราเรีย (Fenestraria)

ไม้อวบน้ำ อีกหนึ่งชนิดที่มีรูปทรงแปลกตา เพราะเป็นต้นไม้ที่มีลำต้นตั้งตรง ลักษณะคล้ายทรงกระบอกโผล่พ้นดินขึ้นมาเล็กน้อย นิยมปลูกเป็นกอรวม ๆ กัน เพื่อความสวยงาม โดยการดูแลรักษาพืชชนิดนี้ ให้ใช้ดินร่วนปนทราย หรือ ดินที่ระบายน้ำและอากาศได้ดีในการปลูก เวลารดน้ำ ให้รดน้ำวันละ 1 ครั้ง หรือ 1-2 วัน/ครั้ง และวางไว้ในที่ ๆ โดนแสงรำไร ไม่วางไว้ในที่แสงแดดจัด

8. แอนนาแคมเซโรส์ รูเฟสเซนส์ (Anacampseros Rufescens)

เจ้าไม้อวบน้ำชนิดนี้ มีใบประกอบและเรียงซ้อนกันเป็นพุ่ม ด้วยมีสีสันที่โดดเด่น คือ ใบมีสีชมพูแซมกับสีเขียว หรือ เปลี่ยนเป็นสีแดงอมชมพู เมื่อโดนแสงแดดเยอะ ๆ คนไทยจึงนิยมเรียกมันว่า ลูกชุบ โดยถือเป็นไม้อวบน้ำอีกหนึ่งชนิดที่ดูแลรักษาง่าย เพราะเพียงแค่รดน้ำ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว

9. สร้อยไข่มุก (String of pearls)

หากใครอยากได้ ไม้อวบน้ำ สำหรับแขวนกับกระถาง ไว้ตกแต่งบ้านแล้วละก็ สร้อยไข่มุก ถือว่าตอบโจทย์ เพราะเถาและใบของมันสามารถเลื้อยลงมาจากกระถาง คล้ายกับสายสร้อย โชว์ใบที่มีความมนกลมคล้ายไข่มุก เพิ่มความสวยงามให้กับตัวบ้านได้ โดยเวลาปลูก ให้ปลูกในที่ร่มและรดน้ำวันละ 1 ครั้ง ไม่ควรให้โดนแสงแดดเยอะเกินไป เพราะจะทำใบพับเหี่ยว ไม่สวยงาม

10. ฟัวคาเรีย (Faucaria) 

อีกหนึ่งไม้อวบน้ำ ที่ใบของมันประกอบเรียงซ้อนกันเป็นพุ่ม ลดหลั่นกันอย่างสวยงาม โดยรูปร่างของใบคล้ายสามเหลี่ยม มีสีเขียว ขอบใบหยัก ปลายใบแหลม ด้วยลักษณะของพุ่มใบที่อ้ากว้างเป็นพิเศษ ทำให้ดูคล้ายเสือที่กำลังอ้าปาก ทำให้เป็นที่รู้จักกันในนาม กรามเสือ โดยต้น ฟัวคาเรีย ค่อนข้างชอบอากาศเย็นและชอบแสงแดดมาก แต่ไม่ชอบความชุ่มน้ำ จึงควรวางไว้ในที่โดนแสงแดดจัด และรดน้ำวันละ 1 ครั้งก็พอ

11. คลาสซูล่า (Classula)

คลาสซูล่า หรือที่รู้จักกันในชื่อ ต้นไม้สวรรค์ หรือ ต้นใบเงิน เป็นไม้อวบน้ำอีกหนึ่งชนิดที่มีความสวยงาม ใบมีความกลมมน ผิวมันเงา และ มีขอบใบสีแดง แม้จะเลี้ยงง่ายและทนแล้งได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ควรนำไปตากแดดจัดเพราะจะทำให้ใบไหม้และเน่าตายได้ เวลารดน้ำ จึงควรรดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งหรือ เมื่อดินแห้งก็พอ และ ให้เติมกาบมะพร้าวลงไปในดิน เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในดินด้วย

เป็นยังกันบ้างกับ 11 ไม้อวบน้ำ ยอดฮิตที่นำมาฝากกัน สวยงามกันไปคนละแบบเลยใช่มั้ยล่ะ ซึ่งถ้าหากใครชอบแบบไหน ก็ไปหามาปลูกกันได้ โดยเคล็ดลับสำคัญในการดูรักษาก็คือ ใช้ดินที่ระบายอากาศและน้ำได้ดี รดน้ำให้ดินชุ่มน้ำ ไม่แห้งอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับชนิดของต้นไม่ที่ปลูก เพียงเท่านี้ ก็จะสามารถปลูกไม้อวบน้ำให้อยู่คู่กับเราไปได้อีกนานแล้ว

ที่สำคัญ ก็คือ ควรปลูกไม้อวบน้ำ ไว้ในที่ ๆ มีแสงรำไร ไม่โดนแดดโดยตรงด้วย ซึ่งถ้าหากใครอยากให้พื้นที่ปลูกของคุณ มีร่มเงา ช่วยลดความเข้มของแสงไม่ให้ส่องกระทบโดยตรงช่วยให้ไม้อวบน้ำเจริญเติบโตได้ดีแล้วละก็ ขอแนะนำ สแลนกันแดด ของ SGE ผลิตจากพลาสติกที่มีความเหนียวเป็นพิเศษ แข็งแรง ทนทาน ไม่ขาดง่าย แถมยังมีคุณสมบัติช่วยกรองแสง กันความร้อนได้เป็นอย่างดี มีหลายสี ไม่ว่าจะเป็นสีเขียว สีดำ หรือ สีขาวแบบอลูมิเนียมฟอยล์ หากสนใจคลิกดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sgethai.com/shading-net/ หรือ สอบถามผ่านทาง โทรศัพท์  Line ของเราได้เลย

บทความที่น่าสนใจ

• 6 ต้นไม้บังแดด สามารถปลูกในกระถางได้
• แนะนำ 8 ไม้พุ่ม ทนแดด ทนฝน ปลูกเป็นไม้ประดับได้
• รู้จัก 8 ต้นไม้จิ๋ว พร้อมวิธีการปลูก และการดูแลรักษาเบื้องต้น
• 10 พืชสมุนไพร ปลูกง่าย ๆ ในบ้าน สรรพคุณมากมาย เก็บกินได้ทั้งปี