220211-Content-รู้จักกับ-ยาฆ่าหญ้า-และวิธีการใช้งานให้ถูกวิธี01

5,019 Views

คัดลอกลิงก์

รู้จักกับข้อดี-ข้อเสีย “ยาฆ่าหญ้า” ใช้งานอย่างไรให้ถูกวิธี

ในปัจจุบันนั้น เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยว่า เกษตรกรบางกลุ่มก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ ยากำจัดวัชพืช หรือยาฆ่าหญ้าอยู่อย่างแน่นอน ด้วยเหตุผลอะไรหลาย ๆ อย่าง ทำให้เกษตรกร มีความจำเป็นจะต้องใช้สารเคมีประเภทนี้อยู่ เพราะการเพาะปลูกพืชผักและผลไม้ทางการเกษตรนั้น คงจะหลีกเลี่ยงได้ยากว่าวัชพืชจะไม่ขึ้นหรือมีเลยในแปลงเกษตร การใช้ยาฆ่าหญ้า หรือยากำจัดวัชพืชก็เป็นอีกทางเลือก เพื่อให้ได้ผลเร็วและเห็นผลในทันที

บทความนี้ SGE จะพาทุกคนไปรู้จักกับ ยาฆ่าหญ้า ว่ามีอะไรบ้าง? ข้อดี-ข้อเสียเป็นอย่างไร? และการใช้งานให้ถูกวิธีนั้นทำได้อย่างไร?

รู้จักกับ “ยาฆ่าหญ้า”

ยากำจัดวัชพืช สารกำจัดวัชพืช หรือ ยาฆ่าหญ้า เป็นสารกำจัดศัตรูพืชที่ใช้ฆ่าพืชที่ไม่ต้องการ ยากำจัดวัชพืชใช้ในการจัดการพื้นที่รกร้างหรือควบคุมวัชพืชในการเกษตร ยากำจัดวัชพืชมีการใช้อย่างกว้างขวางทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ยาฆ่าหญ้ามีทั้งชนิดเลือกทำลายและไม่เลือกทำลาย ชนิดเลือกทำลาย มีฤทธิฆ่าพืชเฉพาะชนิด เช่น 2,4-D ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าทำลายเฉพาะพืชใบกว้าง โดยอาศัยส่วนประกอบทางเคมี ที่เป็นฮอร์โมนพืชสังเคราะห์ ซึ่งเมื่อถูกดูดซึม จะไปรบกวนเฉพาะกระบวนการเติบโตของพืชใบกว้าง ชนิดไม่เลือกทำลายมีฤทธิฆ่าพืชทุกชนิด เช่น ไกลโฟเซต และพาราคว็อท

สารกำจัดวัชพืช หมายถึง สารเคมีใด ๆ ก็ตาม ที่นำมาใช้เพื่อฆ่าทำลลาย หรือยับยั้งการเจริญเติบโตของวัชพืช ไม่ว่าจะเป็นในขณะที่วัชพืชงอกขึ้นมาแล้ว หรือยังเป็นเมล็ดอยู่ ตลอดจนชิ้นส่วนต่าง ๆ ของวัชพืชที่ขยายพันธุ์ได้ที่อยู่ในดิน หรืออยู่บนดิน

220211-Content-รู้จักกับยาฆ่าหญ้า-และวิธีการใช้งานให้ถูกวิธี02

ประเภทของยาฆ่าหญ้า

ชนิดของสารกำจัดวัชพืช สามารถแบ่งชนิดออกได้หลายแบบ แต่ส่วนใหญ่นิยมจำแนกตามช่วงเวลาการใช้

  • สารกำจัดวัชพืชประเภทก่อนปลูก

ใช้พ่นก่อนการตรียมดิน เพื่อฆ่าวัชพืชที่ขึ้นอยู่ก่อน แล้วจึงไถเตรียมดิน หรือใช้พ่นฆ่าวัชพืชแทนการเตรียมดินแล้วปลูกพืชเลย สารกำจัดวัชพืชประเภทนี้ได้แก่ ไกลโฟเซต, พาราควอต, อาทราซีน และ อามีทรีน เป็นต้น

  • สารกำจัดวัชพืชประเภทก่อนงอก หรือที่เรียกกันว่ายาคุมหญ้า

จะใช้ฉีดพ่นหลังปลูกพืชไปแล้ว แต่ก่อนที่วัชพืชจะงอก ช่วงไม่เกิน 10 วัน เป็นการฉีดพ่นที่ผิวดินโดยตรง สารกำจัดวัชพืชจะเข้าไปทำลาย เมล็ด ราก และยอดอ่อนใต้ดินของวัชพืช ควรฉีดพ่นดินที่มีความชื้นเหมาะสม สารกำจัดวัชพืชประเภทนี้ ได้แก่ บิวทาคลอร์, เพรททิลาคลอร์, อ๊อกซาไดอะซอน และอะซีโทคลอร์ (เบติส) เป็นต้น

  • สารกำจัดวัชพืชประเภทหลังงอก หรือที่เรียกกันว่ายาฆ่าหญ้า

เป็นสารเคมีที่ใช้ฉีดพ่นหลังจากวัชพืชงอกแล้วเกินกว่า 10 วัน ขณะที่ฉีดพ่น ควรให้สารกำจัดวัชพืชสัมผัมกับส่วนของวัชพืชให้มากที่สุด สารกำจัดวัชพืชประเภทนี้ ได้แก่ กลุ่มยา 2,4-ดี โซเดียมซอลท์ (เอชโซนัส 95), ฟิโนซาพรอบ-พี-เอทิล, ไตรโคลเพอร์ บิวทอกซีเอทิล เอสเทอร์ (การ์ลอน) และฮาโลซีฟอป อาร์ เมทิล (กาลแล็นท์) เป็นต้น

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

เครื่องซีลสูญญากาศ จาก SGE การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

วิธีใช้ยาฆ่าหญ้าอย่างถูกวิธี ทำได้อย่างไร?

ยาฆ่าหญ้าหรือสารกำจัดวัชพืช เป็นสารที่ใช้เพื่อฆ่าห รือยับยั้งการเจริญของวัชพืช มีข้อดี คือ สะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพที่ดีในการควบคุมวัชพืช แต่เพื่อความปลอดภัยและความเป็นประโยชน์สูงสุด จึงควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสารกำจัดวัชพืช ทั้งเรื่องชนิด การเลือกใช้ และวิธีใช้ยาฆ่าหญ้าที่เหมาะสม

สิ่งที่ควรรู้เป็นอันดับแรกเกี่ยวกับสารกำจัดวัชพืช คือ

  1. สารออกฤทธิ์ หรือสารสำคัญ หรือ Active ingredient (a.i.) คือ ส่วนของสารเคมีหลัก ที่มีผลในการควบคุมวัชพืช โดยในสารกำจัดวัชพืชต่าง ๆ จะต้องระบุเอาไว้ชัดเจนว่ามีสารออกฤทธิ์เป็นสารใด และมีปริมาณเท่าไหร่
  2. สารผสม หรือ Inert ingredient หมายถึง สารอื่น ๆ ที่ใส่เข้ามาผสมด้วย เป็นสารที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์ในทางอ้อม เช่น สารจับใบ สารละลาย สารลดแรงตึงผิว
  3. ชื่อสามัญ หรือ Common name เป็นชื่อที่ตกลงกันไว้ของสารออกฤทธิ์ ที่ไม่ใช่ชื่อทางการค้า เมื่อมีการพูดถึง จะเข้าใจตรงกันว่าเป็นยาชนิดใดในท้องตลาด

โดยทั้ง 3 ข้อนี้ จะมีระบุอยู่ที่ฉลากของสารกำจัดวัชพืช สามารถใช้เป็นข้อพิจารณา เพื่อการเลือกซื้อสารกำจัดวัชพืชได้ ดังนั้น เมื่อต้องทำการเลือกซื้อ จึงควรดูทั้ง 3 สิ่งนี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อ เพื่อที่จะได้ไม่ซื้อสารกำจัดวัชพืชที่ซ้ำกัน หรือออกฤทธิ์แบบเดียวกัน

220211-Content-รู้จักกับยาฆ่าหญ้า-และวิธีการใช้งานให้ถูกวิธี03

ข้อควรปฏิบัติของการใช้ยาฆ่าหญ้า

  • ควรเลือกใช้ให้ถูกชนิด และถูกวิธี โดยสารกำจัดวัชพืช หรือยาฆ่าหญ้าชนิดนั้น ๆ ต้องเหมาะสม และมีฤทธิ์สารตกค้างในระยะสั้น และควรสลายตัวอย่างเร็ว ไม่ควรที่จะใช้สารเคมีที่มีความรุนแรงจนเกินไป
  • ควรใช้ยาฆ่าหญ้าเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และควรเลือกใช้เพียงชนิดเดียวในการฉีดพ่นในแต่ละครั้ง
  • ควรอ่านรายละเอียดบนตัวผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจนและถี่ถ้วน และควรปฏิบัติตามขั้นตอนของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ อย่างเคร่งครัด และหมั่นหาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา
  • ควรสวมเสื้อผ้าป้องกันให้มิดชิด ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย ถุงมือ ชุดป้องกัน หรือเสื้อผ้าหนา ๆ ไม่ควรใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ หรือฟรีสไตล์ ในขณะฉีดพ่น เพราะจะส่งผลกระทบต่อตัวผู้ใช้ได้อย่างง่ายดาย
  • ทำความสะอาดร่างกายทุกครั้ง หลังจากฉีดพ่นยาฆ่าหญ้าเสร็จทันที เพื่อไม่ให้มีสารตกค้างในร่างกายมากเกินไป
  • ควรเทส่วนผสมที่ใช้ในปริมาณที่พอเหมาะและพอควร ตามที่ฉลากบนผลิตภัณฑ์นั้น ๆ กำหนด ไม่ควรเทมากหรือน้อยเกินไป และควรเว้นระยะในการเก็บเกี่ยวผลผลิตหลังจากการฉีดพ่นแล้วสักระยะ

ที่สำคัญเลยเมื่อเราทำการฉีดพ่นสารเคมีไปแล้ว ไม่ควรให้บุคคลอื่น หรือตัวเกษตรกรเอง เข้าไปในพื้นที่อย่างเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้ได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ควรมีระยะเวลาให้สารเคมีสลายตัวก่อน จึงจะเข้าไปยังพื้นที่ได้ เพราะถ้าเข้าไปในทันทีนั้น สารเคมีจะสะสมในร่างกาย หรือบางรายอาจจะแพ้ จะก่อให้เกิดอันตรายอาจจะถึงแก่ชีวิตก็เป็นได้

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่

สารกำจัดศัตรูพืชที่สำคัญในการเกษตรของประเทศไทย มีอะไรบ้าง?

เป็นยากำจัดวัชพืช ที่มีการใช้มากที่สุดในประเทศไทย ทำงานโดยหยุดยั้งการเติบโตของเซลวัชพืช และทำให้เนื้อเยื่อของเซลนั้นแห้งตายลง

  • ไกลโฟเซต (Glyphosate)

เป็นยากำจัดวัชพืช โดยวิธีฉีดพ่นและดูดซึมทางใบ วิธีฉีดเข้าลำต้น หรือหยอดที่ยอด

เป็นฮอร์โมนพืช (ออกซิน) สังเคราะห์ โดยถ้าใช้ในความเข้มข้นต่ำ จะกระตุ้นการเจริญเติบโต ถ้าใช้ในความเข้มข้นสูง จะเป็นสารกำจัดวัชพืชใบกว้าง เพราะมีฤทธิ์ของความเป็นออกซินสูงมาก โดยวัชพืชใบกว้าง ซึ่งเป็นพืชใบเลี้ยงคู่ จะไวต่อการตอบสนองต่อ 2,4-ดี มากกว่าพืชใบแคบ ซึ่งเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว

เป็นยากำจัดวัชพืช ที่ใช้ป้องกันวัชพืชก่อนที่วัชพืชจะงอก เพื่อป้องกันวัชพืช เช่น หญ้าข้าวนก หญ้านกสีชมพู หญ้าดอกขาว กกขนาก หนวดปลาดุก กกทราย และ ขาเขียด

เป็นยากำจัดวัชพืช ที่ใช้กำจัดวัชพืชพวกใบแคบ เช่น หญ้าข้าวนก หญ้านกสีชมพู หญ้าดอกขาว

เป็นยากำจัดวัชพืช ที่ใช้กำจัดวัชพืชประเภทหญ้า เช่น หญ้าดอกขาว หญ้าข้าวนก หญ้านกสีชมพู หญ้าแดง

เป็นยากำจัดวัชพืช ที่ใช้กำจัดวัชพืช เช่น หญ้าข้าวนก หญ้าดอกขาว หญ้าแดง กกขนาก กกทราย หนวดปลาดุก ขาเขียด ผักปอดนา

เป็นยากำจัดวัชพืช ที่ใช้กำจัดวัชพืช เช่น กกขนาก หนวดปลาดุก ขาเขียด ผักปอดนา ผักแว่น

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่

ข้อดี-ข้อเสีย โทษของยาฆ่าหญ้า

  • การใช้ยาฆ่าหญ้านั้น นอกจากจะส่งผลในระยะยาวแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อตัวเกษตรกรผู้ที่ใช้อีกด้วย ทั้งนี้ยาฆ่าหญ้าสามารถเข้าสู่ร่างกายของผู้ใช้ได้ โดยการเข้าสู่ทางผิวหนังของผู้ใช้ การสูดลมหายใจเข้าไป และการกลืนกินหรือดื่มน้ำ โดยแต่ละวิธีนี้จะมีเข้าสู่ร่างกายที่แตกต่างกันไป โดยการกลืนกินนั้นจะพบมากในช่วงที่ฉีดพ่นสารเคมีและละอองของสารเคมีนั้นไปตกอยู่น้ำดื่มบ้าง หรือแม้กระทั่งอาหารที่เกษตรกรนำไปด้วยบ้างนั่นเอง
  • ส่งผลให้คนรอบข้างที่เดินผ่านไปมาในบริเวณใกล้เคียงได้รับสารเคมีโดยการสูดเอาอากาศที่มีละอองสารเคมีเข้าสู่ร่างกายแบบไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ทั้งในพื้นที่แปลงเกษตร และสภาพอากาศ ที่จะทำให้เกิดดินเสื่อมโทรม อากาศเป็นพิษ ภาวะโลกร้อนจากการใช้สารเคมีเป็นประจำ
  • การเกิดพิษแบบเฉียบพลัน จะเกิดขึ้นเมื่อได้รับสารเคมีในปริมาณที่มากแบบทันที จะก่อให้เกิดอาการปวดศรีษะ มึนงง และคลื่นไส้อาเจียน เป็นตะคริว หายใจติดขัด และอาการอาจรุนแรงขึ้นถึงขั้นเสียชีวิตได้
  • นอกจากนี้ ยังมีแบบเกิดอาการรุนแรงเฉพาะจุดและแบบเรื้อรัง ซึ่งถ้าเป็นอาการเฉพาะจุดจะเกิดขึ้นในบริเวณที่โดนสารเคมีชนิดนั้นบ่อย อาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนัง และอาการแพ้ หรือมีรอยไหม้แดง หรือในกรณีที่เป็นหนัก จะทำให้สามารถหลุดเป็นแผ่น ๆ ได้
  • ส่วนในกรณีที่เป็นแบบเรื้อรัง กรณีนี้จะแสดงผลค่อนข้างช้า แต่จะมาเริ่มทราบภายหลังเมื่อได้รับพิษไปแล้ว อาจจะกินระยะเวลานานเป็นเดือน หรือเป็นปี ขึ้นอยู่กับการต้านทานในร่างกายของแต่ละคน อาจจะก่อให้เกิดอาการเป็นหมัน หรือเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ มะเร็ง หรือพาร์กินสัน ได้ ในกลุ่มของ paraquat จะมีการผสมสีฟ้าลงและสารทำให้อาเจียนลงไป เพื่อป้องกันมิให้สับสนกับเครื่องดื่ม เพราะหากรับประทานเข้าไป อาจมีผลกระทบรุนแรงต่อปอด ตับ หรือไตวายได้ 
220211-Content-รู้จักกับยาฆ่าหญ้า-และวิธีการใช้งานให้ถูกวิธี06

อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้ว หากไม่มีอาการรุนแรงมากนัก เมื่อผู้ที่ได้รับพิษจากสารเคมีให้นำผู้ที่ได้รับพิษนั้นนอนในที่ร่มโดยให้ห่างจากแปลงที่พ่นยาฆ่าหญ้า และให้ทำความสะอาดร่างกายในส่วนที่โดนสารเคมีด้วยสบู่หรือน้ำสะอาด แต่ในกรณีที่มีอาการรุนแรงถึงขั้นหัวใจเต้นอ่อน ควรจะรีบนำส่งโรงพยาบาล หรือถ้าหากหัวใจหรือชีพจรเต้นช้าให้ทำการผายปอดเบื้องต้น เพื่อให้หัวใจนั้นสามารถกลับมาทำงานได้ปกติ และรีบนำส่งโรงพยาบาลในทันที ที่สำคัญเมื่อนำส่งโรงพยาบาลแล้วจะต้องบอกรายละเอียดของสารเคมีชนิดนั้นว่าชื่ออะไร ประเภทไหน ให้ได้มากที่สุด หรือถ้ามีฉลากของผลิตภัณฑ์นั้นไปด้วยก็จะเป็นการดี

อย่างไรก็ตาม ถ้าเลี่ยงการใช้สารเคมีได้ก็ควรจะเลี่ยงดีกว่า เพื่อสุขภาพของเราและคนรอบข้าง หากจำเป็นต้องใช้จริง ๆ ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนนำมาใช้ด้วย 👍 หรือลองมองหาตัวช่วยทุ่นแรงอย่าง เครื่องตัดหญ้า เป็นทางเลือกดีไหม? อุปกรณ์การเกษตรที่ได้มาตรฐาน แข็งแรง ทนทาน  อุปกรณ์การเกษตรของเรามีให้เลือกมากมาย รับประกันคุณภาพอย่างแน่นอน

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

สแลนกันแดด NetShade
สแลนกันแดด NetShade

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

220211-Content-รู้จักกับยาฆ่าหญ้า-และวิธีการใช้งานให้ถูกวิธี04


เครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะ

คลิกเลย

220211-Content-รู้จักกับยาฆ่าหญ้า-และวิธีการใช้งานให้ถูกวิธี05


เครื่องตัดหญ้า 4 จังหวะ

คลิกเลย

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

30 มกราคม 2024

โดย

ลำดวน

ความคิดเห็น (Comments)

guest
0 Comments
โหวตสูงสุด
ใหม่สุด เก่าสุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด