องุ่นไซมัสคัส ประโยชน์ พร้อมวิธีปลูก ให้ผลกลมโต สีเขียวสวย ไม่มีเมล็ด

องุ่นไซมัสคัส ประโยชน์ มีอะไรบ้าง SGE มีคำตอบ พร้อมพามาดู วิธีปลูกองุ่นไซมัสคัส ให้หวานอร่อย ไม่มีเมล็ด
ใครสนใจองุ่นชนิดนี้ ไม่ว่าจะซื้อกิน หรือ ปลูกขายแล้วละก็ ตามมาดูกันเลย

องุ่นไซมัสคัส

องุ่นไซมัสคัส คือ

องุ่นไซมัสคัส หรือ องุ่นไชน์มัสแคท เป็นองุ่นสายพันธุ์จากญี่ปุ่น ถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้น โดยสถานีวิจัยองุ่นและพลับอะซึกิ จ.ฮิโรชิมา เมื่อปีพ.ศ 2531 ก่อนที่จะขึ้นทะเบียนพันธุ์ในปีพ.ศ. 2541 โดยเป็นการนำเอาองุ่น 2 สายพันธุ์ คือ Akitsu 21 x Muscat of Alexandria กับ องุ่นพันธุ์ Hakunan x Kaiji มาผสมกัน ทำให้ได้องุ่นลูกผสมสายพันธุ์ใหม่ ที่มีรสหวานกรอบอร่อย และ ได้รับความนิยม

ลักษณะทั่วไปขององุ่นไซมัสคัส

ผลขององุ่นไซมัสคัส มีขนาดใหญ่กว่าองุ่นทั่วไป มีรูปร่างกลมถึงวงรี เปลือกนอกมีสีเขียวสดใส ผิวมีความเรียบเนียน เรียบตึง โปร่งแสง เป็นมันเงา ถ้าผลมีเมล็ด จะมีขนาดประมาณ 10 กรัม ถ้าไม่มีเมล็ด จะมีขนาด 12 กรัมขึ้นไป

องุ่นไซมัสคัส รสชาติ

รสชาติขององุ่นไซมัสคัส เปลือกนอก มีความแน่น หวานกรอบอร่อย เมื่อกัดเข้าไป จะมีความนุ่มชุ่มฉ่ำ และ มีรสหวาน เนื่องจากองุ่นไซมัสคัสมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง โดยรวมให้ความรู้สึกเหมือนกินเยลลี่

องุ่นไซมัสคัส ปลูกกี่วัน

หากปลูกที่ญี่ปุ่น ปลูกประมาณ 80 วัน หลังดอกบานเต็มที่ ถึงจะได้เวลาเก็บเกี่ยว แต่ถ้าปลูกที่ประเทศไทย จะมีอายุการเก็บเกี่ยวที่เร็วกว่า คือ ปลูกประมาณ 70 วัน หลังดอกบานเต็มที่ ก็จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว

องุ่นไซมัสคัส ราคา

องุ่นไซมัสคัสแพคขายกัน 1 – 3 ช่อ ขึ้นไป ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 300 – 420 บาท ถ้าเป็นเกรดพรีเมี่ยม ขายกันอยู่ที่ 1,000 – 2,390 บาท

Sponsored (โฆษณา)

องุ่นไซมัสคัส ประโยชน์

องุ่นไชน์มัสแคท

1. ช่วยบำรุงผิวพรรณ

องุ่นไซมัสคัส อุดมไปด้วย วิตามิน C  สูง ซึ่งมีคุณสมบัติต่อต้านสารอนุมูลอิสระ  และ ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนในชั้นเซลล์ผิว เมื่อรับประทานแล้ว จะช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดี

2. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

เนื่องจาก องุ่นไชน์มัสแคท มีวิตามิน C และ สารฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มให้แข็งแรง ช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ได้หลายชนิด เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ เป็นต้น

3. ป้องกันโรคกระดูกพรุน

วิตามินอีกหนึ่งชนิด ที่มีอยู่ในองุ่นไซมัสคัส คือ วิตามิน K ซึ่งมีคุณสมบัติสำคัญคือ ช่วยสะสมแคลเซียมไปยังเนื้อเยื่อกระดูก เมื่อรับประทานองุ่นชนิดนี้บ่อย ๆ จะช่วยให้ร่างกายสามารถสะสมแคลเซียมได้ดี ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนในกลุ่มผู้สูงอายุได้

4. ทำอาหารคาวหวานได้

ด้วยความที่มีรสหวาน กรอบอร่อย ไม่เหมือนองุ่นชนิดอื่น ๆ ทำให้คนนิยมนำ องุ่นไซมัสคัส มาทำเป็น อาหาร ของหวาน และ น้ำผลไม้ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สลัด มูส แยม เค้ก ไอศกรีม น้ำองุ่นไซมัสคัส ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มคุณค่าและสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำให้มีประโยชน์มากกว่าการนำมากินเป็นแค่ผลไม้

Sponsored (โฆษณา)

วิธีปลูกองุ่นไซมัสคัส ให้หวานกรอบ ไม่มีเมล็ด

องุ่นไซมัสคัส

ปลูกองุ่นไซมัสคัส ให้อร่อย ผลควรมีขนาดใหญ่ และ ไม่มีเมล็ด เพื่อให้กินง่าย ไม่ต้องคายเมล็ดทิ้ง โดยการปลูกนั้น จะต้องคอยจัดทรงต้น ตัดแต่งกิ่ง ตัดแต่งช่อดอกอยู่เสมอ เพื่อให้ผลองุ่นไม่เบียดกัน ซึ่งจะทำให้ได้ผลองุ่นที่มีขนาดใหญ่สมบูรณ์ น่ากิน

การขยายพันธุ์

ใช้ได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การปักชำ การตอนกิ่ง หรือ ใช้ต้นกล้าติดตา เสียบยอดบนต้นตอ ก็ได้

ฤดูกาลที่เหมาะกับการปลูก

ช่วงที่เหมาะกับการปลูกองุ่นไซมัสคัส คือ เดือนมกราคม – เดือนมีนาคม ของทุกปี เพราะเป็นช่วงที่อากาศร้อนในตอนกลางวัน และ อากาศเย็นในตอนกลางคืน ทำให้ต้นองุ่นเจริญเติบโตได้เร็ว

วิธีปลูกองุ่นไซมัสคัส

  1. เพาะต้นกล้าให้แข็งแรง โดยจะใช้วิธี ปักชำ ตอนกิ่ง หรือ ใช้ต้นกล้าติดตา เสียบยอดบนต้นตอ ก็ได้ แล้วแต่ความถนัด
  2. วางแผนผังแปลงเพาะปลูก ตามแบบที่ต้องการ (แบบตัว T ระยะปลูก 1.5×8 เมตร, แบบตัว H ระยะปลูก 3×8 เมตร, แบบตัว Y ระยะปลูก 1.5×8 เมตร)
  3. เตรียมแปลงเพาะปลูก โดยขุดหลุมแต่ละหลุม ให้กว้าง – ยาว ห่างกัน ในระยะที่เหมาะสม สำหรับฝังเสาปูนแต่ละต้น เสร็จแล้ว ขึ้นโครงหลังคา ทำเป็นโรงเรือนสำหรับคลุมแปลงเพาะปลูก
  4. ฝังเสาปูนลงไปในหลุมแต่ละหลุมเป็นแนวยาว จากนั้น ใช้เชือก หรือ ไม้ไผ่ พาดผ่าน ทำเสาแต่ละต้น ให้เป็นรูปตัว T ตัว H หรือ จะหาโครงเหล็กต่อเติมเสาแต่ละต้น ให้เป็นรูปตัว Y ก็ได้ แล้วแต่ชอบ
  5. ย้ายต้นกล้ามาอยู่ตรงหลุมเสา (ถ้าพื้นที่ตรงช่องว่างระหว่างกลางเสาเหลืออยู่ ให้หาไม้ไผ่ค้ำยันแล้วเอาต้นองุ่นมาลงดินเพิ่มก็ได้) จากนั้น รดน้ำเช้า – เย็นทุกวัน แล้วใส่ปุ๋ย 1 ครั้ง ทุก ๆ 7 วัน จนกว่าต้นกล้าจะแตกกิ่ง
  6. เด็ดกิ่งให้แตกออก และ คอยเด็ดยอดใบอยู่เสมอ เพื่อให้ต้นองุ่นแตกกิ่งไปเรื่อย ๆ จนพุ่มไม้ขยายใหญ่
  7. พอช่อดอกบานเต็มที่ หลังจากนั้น 1 – 3 วัน ให้นำช่อดอกจุ่มลงในสารละลายที่มีสเตรปโตมัยซิน ความเข้มข้น 200 ppm (AGREPT 1 มิลลิลิตร) ร่วมกับจิบเบอเรลลิค แอซิด ความเข้มข้น 25 ppm (นันโต จิปเปอร์ 0.8 กรัม) และ CPPU ความเข้มข้น 5 ppm (Fulmet 5 มิลลิตร) ผสมกันในน้ำ 1 ลิตร เพื่อทำให้องุ่นไซมัสคัสไม่มีเมล็ด
  8. หลังดอกบานเต็มที่ 10-15 วัน ให้จุ่มช่อผลลงในสารละลายจิบเบอเรลลิค แอซิด ความเข้มข้น 25 ppm เพื่อขยายขนาดของผล
  9. หลังดอกบานเต็มที่ 45 วัน ให้ตัดแต่งช่อผล หากผลองุ่นเบียดกัน เสร็จแล้ว จุ่มช่อผลลงในสารละลายจิบเบอเรลลิค แอซิด ความเข้มข้น 25 ppm และ CPPU ความเข้มข้น 5 ppm เพื่อทำให้ผิวผลองุ่นมีสีเขียวหรือเหลืองช้าลง
  10. พอครบ 70 – 80 วัน หลังดอกบานเต็มที่ ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว
Sponsored (โฆษณา)

การดูแลรักษาองุ่นไซมัสคัส

องุ่นไชน์มัสแคท

การให้แสง

ควรปลูกในโรงเรือน เพื่อให้แสงลอดผ่านได้ดี ทำให้ต้นองุ่นไซมัสคัสได้รับแสงแดดได้อย่างเต็มที่ และ ป้องกันไม่ให้ใบโดนน้ำค้าง จนเกิดเชื้อรา

การให้น้ำ

ให้น้ำเช้า – เย็น วันละ 30 นาที ถ้าเป็นช่วงออกผลแล้ว ควรให้น้ำสม่ำเสมอเป็นพิเศษ

การให้ปุ๋ย

ให้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยเคมี พร้อมกับนำ ฟางข้าว มาคลุมดิน เพื่อช่วยกักเก็บความชื้น และ ทำให้ดินร่วนซุย โดยความถี่ในการให้ปุ๋ย หากเป็นช่วงแรก ๆ ให้ 1 ครั้ง ทุก ๆ 7 วัน เพื่อเร่งให้ต้นโตไว

เพราะองุ่นไซมัสคัสมีผลกลมโต กรอบหวาน ชุ่มฉ่ำ และ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หากใครชอบกินองุ่นแล้วละก็ ลองไปหาซื้อรับประทานกันได้เลย รับรองว่า ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพแน่นอน ส่วนใครที่สนใจอยากปลูกองุ่นชนิดนี้ ไม่ว่าจะเป็น คนทั่วไป หรือ เกษตรกรแล้วละก็ ลองปลูกกันได้ ตาม วิธีปลูกองุ่นไซมัสคัส ที่ SGE นำมาฝาก เพราะด้วยความเป็นที่ต้องการของตลาด จะทำให้คุณขายดิบขายดี จนสามารถสร้างรายได้ให้กับคุณได้อย่างแน่นอน

สำหรับใครที่อยากได้กรรไกร ไว้ตัดแต่งกิ่งองุ่นไซมัสคัส ให้แตกกิ่งสวย จัดช่อดอกได้ง่าย ขอแนะนำ กรรไกรตัดกิ่งไฟฟ้า ของ SGE มีใบมีด ทำจากเหล็กอัลลอยด์แท้ ตัดแต่งกิ่งได้อย่างคมกริบ แถมแบตเตอรี่ยังใช้งานได้ถึง 2 ชั่วโมง ช่วยให้คุณตัดแต่งกิ่งต้นองุ่นไซมัสคัสได้อย่างง่ายดาย สนใจคลิกดูเพิ่มเติมที่ https://www.sgethai.com/product/electric-pruning-shears/


บทความที่น่าสนใจ