วิธีใช้ ปุ๋ยคอก บำรุงพืช ให้มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ดินดี พืชผักโตไว

ปุ๋ยคอก ใช้บำรุงพืชอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ SGE มี วิธีใช้ปุ๋ยคอก มาฝาก พร้อมข้อควรรู้ เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะทำให้การใช้ปุ๋ยคอก ให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
ใครเป็นพี่น้องเกษตรกร หรือ คนรักในการปลูกพืช ทำสวน แล้วละก็ ไม่ควรพลาด !!!

ปุ๋ยคอก คือ ?

ปุ๋ยคอก

ปุ๋ยคอก คือ มูลสัตว์จากสัตว์ชนิดต่าง ๆ ที่ผ่านการหมักหรือย่อยสลายแล้ว ส่วนใหญ่เป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อการเกษตร เช่น ขี้หมู ขี้วัว ขี้ไก่ โดยธาตุอาหารในปุ๋ยคอก อาจมีปริมาณมากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ชนิดของอาหารที่สัตว์นั้น ๆ กิน อายุของสัตว์ หรือ วิธีการเก็บรักษา ทั้งนี้ ปุ๋ยคอกที่สดใหม่ จะมีปริมาณธาตุอาหาร สูงกว่าปุ๋ยคอกที่เก็บไว้นาน เนื่องจากปุ๋ยชนิดนี้สูญเสียธาตุอาหารออกไปในรูปแบบของก๊าซได้ง่าย

ประโยชน์ของปุ๋ยคอก

วิธีใข้ปู๋ยคอก

1. บำรุงพืชให้เจริญเติบโตได้ดี

ในปุ๋ยคอก มีธาตุ ไนโตรเจน โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นธาตุอาหารสำคัญของพืชพันธุ์ทุกชนิด จึงช่วยบำรุงพืชให้เจริญเติบโตได้ดี

2. ปรับสภาพดินให้มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากเป็นธาตุอาหารที่สำคัญ ต่อการเจริญเติบโตของพืชแล้ว ธาตุไนโตรเจน โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ในปุ๋ยคอก ยังช่วยปรับสภาพดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถย่อยสลาย กลายเป็นส่วนหนึ่งของดิน ช่วยให้ดินมีความร่วนซุย ระบายน้ำ และ อากาศได้ดีอีกด้วย

3. ให้ธาตุอาหารยาวนานกว่าปุ๋ยชนิดอื่น

เนื่องจากปุ๋ยคอกจะค่อย ๆ ย่อยสลายไปตามธรรมชาติ ทำให้ธาตุอาหารต่าง ๆ ก็ค่อย ๆ ย่อยสลายตามไปด้วย จึงให้ธาตุอาหารแก่พืชได้ยาวนานกว่าปุ๋ยชนิดอื่น ๆ เช่น ปุ๋ยเคมี เป็นต้น

4. ใช้บำรุงสระ/บ่อเลี้ยงปลา เพื่อการเกษตร

เกษตรกรส่วนใหญ่ มักใช้ ปุ๋ยคอก ในการบำรุงสระ/บ่อเลี้ยงปลา เนื่องจากมีวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามิน B1 B7 และ B12 ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดสาหร่ายและแพลงก์ตอน ทำให้ปลามีอาหารการกินอุดสมบูรณ์ ปกติแล้ว มักใช้ขี้หมูเป็นหลัก

Sponsored (โฆษณา)

วิธีใช้ปุ๋ยคอก บำรุงพืชให้มีประสิทธิภาพ

วิธีใช้ปุ๋ยคอก

เนื่องจากพืชพรรณ พืชผัก พืชไม้ยืนต้น อาจมีความต้องการปริมาณปุ๋ยคอกแตกต่างกันไป รวมถึงลักษณะการปลูกที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้น จึงควรรู้วิธีใช้ ปุ๋ยคอก ให้มีประสิทธิภาพ ตามชนิดของพืช และ ลักษณะการปลูก เพื่อบำรุงพืชให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยมีวิธีใช้ดังต่อไปนี้

ชนิดของพืช

  • ข้าว :ใช้ปุ๋ยคอก 2 ตันต่อไร่ โดยหว่านให้ทั่ว แล้วไถกลบ ก่อนเริ่มต้นการเพาะปลูก
  • พืชไร่ :ใช้ปุ๋ยคอก 2 ตันต่อไร่ โดยคลุกเคล้ากับดิน ตามแนวเพาะปลูก
  • พืชผัก: ใช้ปุ๋ยคอก 4 ตันต่อไร่ โดยผสมกับดิน ในช่วงเตรียมแปลงปลูก
  • ไม้ผล : ไม้ยืนต้นจะแบ่งวิธีการใส่ปุ๋ยคอกออกเป็น 2 ครั้ง ครั้งแรกใช้ 20 กิโลกรัมต่อหลุม โดยคลุกกับดิน เพื่อรองก้นหลุมก่อนลงต้นกล้า ครั้งต่อมา ใช้ปุ๋ยคอก 20-50 กิโลกรัมต่อต้น ด้วยการใส่ปุ๋ยลงในร่องลึกตามแนวทรงพุ่ม ปริมาณปุ๋ยที่ใช้ ให้ปรับไปตามอายุของต้นพืช
  • ไม้ตัดดอก: ใช้ปุ๋ยคอก 2 ตันต่อไร่
  • ไม้ดอกยืนต้น :ใช้ปุ๋ยคอก 5-10 กิโลกรัมต่อไร่

ลักษณะการปลูก

  • พืชสวน พืชผัก และไม้กระถาง
    ใช้วิธีการผสมปุ๋ยคอก ในอัตราส่วนที่เหมาะสม แล้วรองก้นหลุนหรือก้นกระถาง อัตราส่วนทั่วไป ระหว่างดินกับปุ๋ยคอก ควรอยู่ที่ 1:1 แต่ถ้าใช้ดินร่วนอยู่แล้ว ให้ปรับอัตราส่วนเป็น 1:2 ส่วนดินทรายจะต้องนำไปผสมดินเหนียวก่อนในสัดส่วนเท่า ๆ กัน แล้วค่อยมาผสมกับปุ๋ยที่อัตราส่วน 1:1
  • พืชไร่
    ผสมปุ๋ยกับดินให้ทั่วถึง ทั้งแปลงหรือไร่ของเรา โดยหากปลูกพืช ที่ต้องปลูกเต็มพื้นที่ เช่น ข้าว ให้ไถพรวน เพื่อคลุกเคล้าปุ๋ยกับดินให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวทุกครั้ง หากเพาะปลูกหลายหน ควรใส่ปุ๋ยเพิ่มในช่วงหลังการเก็บเกี่ยวด้วย ถ้าพืชผักชนิดไหน สามารถปลูกเป็นแนวได้ เช่น พริก ผักสลัด กะหล่ำปลี ให้ไถพรวนดินผสมปุ๋ยคอก เฉพาะแนวดินที่เราต้องการปลูก
  • พืชผัก แปลงดอกไม้ และ พืชที่ปลูกด้วยการหว่านเมล็ด
    ทำการไถพรวนดินผสมปุ๋ย ในช่วงเตรียมแปลงปลูกก่อนทุกครั้ง เมื่อพืชเติบโตได้ระยะหนึ่งแล้ว จึงนำปุ๋ยคอกมาหว่านโรยหน้าอีกรอบ
  • ไม้ผลและไม้ยืนต้น
    ให้แบ่งการใส่ปุ๋ยเป็น 2 ครั้ง ครั้งแรก รองปุ๋ยที่ก้นหลุม ด้วยการผสมกับดินปลูก ในอัตราส่วนที่เหมาะสมกับพันธุ์พืชนั้น ๆ หลังจากพืชเติบโตแล้ว ให้ใช้วิธีขุดดินเป็นวงรอบต้นตามรัศมีทรงพุ่ม ความลึกอยู่ที่ประมาณ 5-6 นิ้ว จากนั้น ใส่ปุ๋ยคอกลงไปผสมกับดิน จุดนี้พืชจะดูดซับปุ๋ยได้ดีกว่าโรยรอบโคนต้นมาก

ข้อควรรู้ในการใช้ ปุ๋ยคอก

ปุ๋ยคอก

1. ไม่ควรใช้ในปริมาณมากเกินไป

เพราะมีปัจจัยหลายอย่าง ที่อาจทำให้ปุ๋ยคอกมีธาตุอาหารสำคัญไม่เพียงพอ ต่อการบำรุงพืช เช่น ชนิดของอาหารที่สัตว์นั้น ๆ กิน อายุของสัตว์ การเก็บรักษาที่ผิดวิธี ฯลฯ ทำให้เกษตกร หรือ คนรักในการปลูกพืช ปลูกต้นไม้ ไม่ควรใช้ปุ๋ยคอกเยอะจนเกินไป เนื่องจากอาจทำให้พืช ขาดธาตุอาหารบางชนิดได้

2. ใช้ปุ๋ยเคมีคู่กัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ  

ดังที่กล่าวไปแล้วว่า ปุ๋ยคอกอาจมีธาตุอาหารสำคัญ ที่ไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของพืช ดังนั้น จึงควรใช้ปุ๋ยเคมีควบคู่กันด้วย เพื่อเติมธาตุอาหารอื่น ๆ ที่ขาดหาย โดยการใช้ปุ๋ยเคมีนั้น ถือว่ามีประสิทธิภาพมาก เพราะหากเทียบคุณภาพกันแล้ว ปุ๋ยเคมี 1 กิโลกรัม มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ ปุ๋ยคอก 8 – 20 กิโลกรัม เลยทีเดียว

3. ใช้ปุ๋ยคอกที่สดใหม่เป็นหลัก

เนื่องจากปุ๋ยชนิดนี้ สูญเสียธาตุอาหารออกไปในรูปแบบของก๊าซได้ง่าย หากเก็บไว้นาน อาจทำให้ธาตุอาหารที่สำคัญ เช่น ธาตุไนโตรเจน ลดน้อยลง ดังนั้น จึงควรใช้ปุ๋ยคอกที่สดใหม่ มาใช้ในการบำรุงพืชเป็นหลัก ทั้งนี้ ควรปล่อยให้ปุ๋ยคอกอยู่ในสภาพที่มีความชื้นที่เหมาะสม หรือ หมักจนแห้งเสียก่อน เพราะอาจส่งกลิ่นเหม็นเน่าเสีย เป็นมลพิษทางอากาศได้

แม้ ปุ๋ยคอก เป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่หลายคนชอบใช้ แต่ก็ยังคงมีคนมากมายที่สงสัยว่า ควรใส่ปุ๋ยคอกอย่างไร ถึงจะบำรุงพืชให้เจริญเติบโตได้ดี ซึ่งถ้าหากใครกำลังปลูกพืช ไม้ผล ไม้ยืนต้น แล้วอยากรู้ว่า ใส่ปุ๋ยคอกอย่างไร ปริมาณเท่าไหร่ ถึงจะดีต่อพืชพรรณที่ปลูกแล้วละก็ ลองอ่านแล้วทำตาม วิธีใช้ปุ๋ยคอก ที่ SGE นำมาฝากกันได้เลย รับรองว่า จะช่วยให้คุณใส่ปุ๋ยคอกได้อย่างเหมาะสม บำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ พืชผักโตไว ได้อย่างแน่นอน

สำหรับใครที่อยากทำปุ๋ยแบบง่าย ๆ จากเศษอาหาร ใบไม้ เพื่อผสมกับดิน ให้มีธาตุอาหารเพียงพอ และ มีความอุดมสมบูรณ์ แนะนำให้ใช้ ถังหมักเศษอาหาร ถังหมักปุ๋ย ของ SGE เพียงแค่ใส่เศษอาหาร ใบไม้ต่าง ๆ ลงไป แล้วหมุนคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก็จะเปลี่ยน “ขยะ ” ให้กลายเป็นปุ๋ยได้อย่างง่ายดาย ลดต้นทุน ทั้งค่าปุ๋ย ค่าเสียเวลา ทำให้คุณสามารถนำมาปลูกพืชผักได้อย่างง่าย ผลิตปุ๋ยได้มากสุดถึง 160 ลิตร สนใจคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.sgethai.com/product/compost-tumbler/ หรือ สอบถามเพิ่มเติมทาง โทรศัพท์ Line ของเราได้เลย