แก้วมังกร ผลไม้หน้าตาประหลาด สีสันสวยงาม มีสรรพคุณอย่างไร ช่วยลดน้ำหนัก รวมถึงต้านมะเร็งได้จริงหรือไม่ SGE มีความรู้มาฝาก พร้อมพาคุณไปรู้จักกับประโยชน์ของผลไม้ชนิดนี้ ให้ดีมากยิ่งขึ้น ใครชอบทานแก้วมังกรอยู่แล้วละก็ ห้ามพลาด !!!
เรื่องน่ารู้ของ แก้วมังกร
ที่มาของ แก้วมังกร
แก้วมังกร จัดเป็นพืชชนิดเดียวกันกับ ต้นกระบองเพชร เดิมมีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของประเทศเม็กซิโกและทวีปอเมริกากลาง คนในพื้นที่เรียกกันว่า Pitaya เมื่อถูกนำเข้ามายังเอเชีย โดยชาวฝรั่งเศสในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ด้วยสีสันของเปลือกแก้วมังกร ที่มีลักษณะคล้ายกับมังกร ซึ่งเป็นสัตว์ในเทพนิยายตามความเชื่อของคนเอเชียเรา จึงเริ่มถูกเรียกว่า แก้วมังกร (Dragon Fruit) โดยประเทศแรกในเอเชียที่รู้จักการปลูกแก้วมังกรก่อนก็คือ เวียดนาม ก่อนจะแพร่หลายไปในประเทศอื่น ๆ รวมถึงประเทศไทย
แก้วมังกร มีกี่แบบ
แก้วมังกรสามารถแบ่งออกได้หลักเป็น 3 แบบด้วยกันคือ
- แบบที่ 1 แก้วมังกรพันธุ์เนื้อขาวเปลือกแดง จะให้รสชาติหวาน อมเปรี้ยว
- แบบที่ 2 แก้วมังกรพันธุ์เนื้อขาวเปลือกเหลือง ให้รสชาติออกหวาน
- แบบที่ 3 แก้วมังกรพันธุ์เนื้อแดงเปลือกแดง ให้รสชาติหวานกว่าแก้วมังกรแบบอื่น ๆ
แก้วมังกรกับคุณค่าด้านสารอาหาร
สารอาหารในแก้วมังกร มีอยู่มากมาย ทั้งวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ซึ่งถ้ารับประทานแก้วมังกร 1 ลูก ในปริมาณ 100 กรัม จะพบว่า สามารถให้พลังงานกับร่างกายได้ 66 กิโลแคลอรี และยังได้รับสารอาหารอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น คาร์โบไฮเดรต 12.4 กรัม โปรตีน 1.4 กรัม ฟอสฟอรัส 32 มิลลิกรัม แคลเซียม 9 มิลลิกรัม วิตามินซี 7 มิลลิกรัม และใยอาหาร 2.6 กรัม
แก้วมังกร กับประโยชน์ทางด้านสุขภาพ
1. แก้ดับกระหาย คลายร้อนได้
ใครรู้สึกร้อน อยากหาผลไม้เย็น ๆ มาทานให้ชื่นใจ แนะนำให้ทานแก้วมังกรเลย เพราะมีน้ำเป็นส่วนประกอบ ถึงเกือบ 80% เลยทีเดียว ทำให้หากนำมารับประทาน ก็จะช่วยแก้ดับกระหาย คลายร้อนได้
2. ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
เนื่องจากมีส่วนประกอบของวิตามิน C ทำให้เมื่อทานแก้วมังกรแล้ว จะมีส่วนช่วยในการเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค หรือ ช่วยป้องกันความเสียหายของเม็ดเลือดขาว ที่เป็นผลมาจากสารอนุมูลอิสระ (Free Radicals)
3. บำรุงผิวหนัง ทำให้ผิวชุ่มชื้น
ดังที่กล่าวไปข้างต้นว่า แก้วมังกรมีน้ำเป็นส่วนประกอบเยอะมาก ดังนั้น หากรับประทานแก้วมังกรมาก ๆจะ ส่งผลให้ผิวหนังชุ่มชื้น ไม่แห้งเสีย ยิ่งมีวิตามิน C มาช่วยเสริม ก็จะทำให้สุขภาพผิวของคุณดีขึ้น
4. มีพรีไบโอติกส์ ทำให้โพรไบโอติกส์ทำงานได้ดี
แก้วมังกรมีสารในกลุ่มโอลิแซกคาไรด์ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติกส์ ที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะไปเป็นอาหารของโพรไบโอติกส์ เชื้อจุลินทรีย์ที่ดีที่อยู่ในลำไส้ ส่งผลให้ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ทั้งจากโรคในระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคท้องผูก ท้องร่วง และโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันลดลง เช่น โรคภูมิแพ้ หรือ เกิดผื่นตามผิวหนัง
จริงหรือไม่ ? แก้วมังกรช่วยลดน้ำหนักและป้องกันโรคมะเร็ง
เคยเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่งเลยทีเดียว ที่มีการแชร์ต่อ ๆ กันว่า แก้วมังกร สามารถช่วยลดน้ำหนักและป้องกันโรคมะเร็งได้ อย่างไรก็ตาม อ้างอิงจากคำสัมภาษณ์ของ รศ.ดร.รัชนี คงฉุยฉาย ในรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ กลับพบว่า แก้วมังกรไม่ได้มีคุณสมบัติทั้ง 2 อย่างแต่อย่างใด
โดยในเรื่องของช่วยในการลดน้ำหนัก เนื่องจากแก้วมังกรมีใยอาหารต่ำ ในปริมาณ 100 กรัม หรือ 1 ลูก พบเพียง 2.6 กรัม เท่านั้น อีกทั้งมีน้ำตาลสูง คิดเป็น 13 % เลยทีเดียว ทำให้ไม่มีฤทธิ์ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หรือ ช่วยในการลดน้ำหนักตัวแต่อย่างใด หากมีงานวิจัย ก็พบว่ามีแต่ผลการศึกษาในหนูทดลอง ยังไม่มีในคน ทำให้ข้อพิสูจน์นี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
สำหรับเรื่องป้องกันโรคมะเร็ง จากการวิจัยองค์ประกอบในเนื้อแก้วมังกร ซึ่งพบว่า ไม่มีสารแอนตี้ออกซิเดนท์ เช่น ฟลาโวนอยด์ ฟีโนลิก ซึ่งผลต่อการต่อต้านเซลล์มะเร็ง และผลการทดลองที่มีมา ก็ยังเป็นเพียงแค่การทดลองในสัตว์ ยังไม่เคยมีการทดลองในคน ทำให้ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่า การทานแก้วมังกร จะช่วยรักษาโรคมะเร็งได้จริง อีกเช่นเดียวกัน ทำให้ความเชื่อที่ว่า แก้วมังกร สามารถช่วยลดน้ำหนักและป้องกันโรคมะเร็งได้นั้น ไม่เป็นความจริง
วิธีการปลูกแก้วมังกร ที่บ้าน
แก้วมังกรเป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแลรักษามากมาย เพราะเป็นพืชในตระกูลกระบองเพชร จึงมีความอดทนต่อสภาพแห้งแล้งสูง อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็นไม้เลื้อย ไม่ได้เป็นไม้ยืนต้น ทำให้หากอยากปลูกในกระถางในบริเวณบ้าน เพื่อเป็นไม้ประดับตกแต่ง หรือ เก็บผลไว้กินเอง การปลูกในกระถาง จำเป็นต้องใช้กระถางขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถวางเสาหรือท่อใยหินด้านในสำหรับให้ต้นแก้วมังกร ใช้เป็นเสาค้ำยัน เลื้อยโตขึ้นไปด้านบนได้ นอกจากนี้ ก็ต้องมีอุปกรณ์อีกอย่างหนึ่งคือ แผ่นปูนเจาะรูค้ำอีกอันไว้ด้านบน เพื่อให้ลำต้นของแก้วมังกรเลื้อยขึ้นและตกลงมาในขอบเขตที่กำหนดไว้ได้อีกด้วย โดยวิธีปลูกแก้วมังกร ที่บ้าน มีวิธีการดังต่อไปนี้
อุปกรณ์
- ท่อใยหิน
- กระถาง ขนาด 20 นิ้ว
- แผ่นปูนเจาะรูสำหรับค้ำด้านบน
- ดินร่วน
- ขุยมะพร้าว + ขี้วัว
- เชือกฟาง
- สกรูและน็อต
วิธีทำ
- วางท่อใยหินลงในกระถาง จากนั้น หล่อปูนตรงก้นกระถาง ให้ท่อใยหินเชื่อมติดกับก้นกระถาง
- เทขุยมะพร้าว + ขี้วัว รองก้นกระถาง ตามด้วยดินร่วนลงไป เกลี่ยให้เรียบเสมอกัน
- นำต้นแก้วมังกร ที่ปักชำจนเห็นรากแล้ว มาปักรอบ ๆ เสา จากนั้น ใช้เชือกผูกมัดต้นแก้วมังกรให้ติดกับตัวเสา
- เจาะรูท่อใยหิน จากนั้น สอดเหล็กเชื่อมเข้าไปในรู แล้วเชื่อมเข้ากับแผ่นปูนเจาะรูสำหรับค้ำด้านบน เสร็จแล้ว ขันน็อตสกรู เชื่อมต่อให้เรียบร้อย
- โรยเชือกฟางไว้ด้านบนกระถาง รดน้ำรอบ ๆ อีกที เป็นอันเสร็จ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Leave A Comment