เครื่องนวดแป้ง เครื่องผสมอาหาร ต้องรู้อะไรบ้างก่อนซื้อ? มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน

…

เครื่องนวดแป้ง และ เครื่องผสมอาหาร มีลักษณะและการทำงานที่คล้ายกัน จนอาจทำให้หลายคนเกิดความสับสน เราจะมาสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้

เครื่องนวดแป้ง 

“ออกแบบมาเพื่อนวดแป้งโดยเฉพาะ”

เครื่องนวดแป้งหรือเครื่องตีแป้ง ออกแบบมาเพื่อนวดแป้งโดยเฉพาะ ทำหน้าที่ตี นวด วัตถุดิบต่าง ๆ ให้เป็นเนื้อเดียวกัน จนกลายเป็น “ก้อนแป้ง” หรือ “โดว์แป้ง” ที่สามารถนำไปอบต่อได้ เหมาะสำหรับวงการขนมเบเกอรี่และธุรกิจขายขนมที่ต้องการโดว์แป้งที่มีคุณภาพ รวดเร็ว ประหยัดเวลา โดยที่ไม่ต้องเสียเวลานวดด้วยมือ

• เครื่องนวดแป้ง 2 แขน (Double Arm Mixer) มีขาสแตนเลสยาว 2 ขา คว้านแป้งขึ้นลงสลับกันไปเรื่อย ๆ ผสมแป้งเข้ากันได้ดี แต่มีข้อเสีย คือ โดว์แป้งมักจะฉีกออกจากกัน
• เครื่องนวดแป้งแบบเกลียว (Spiral Mixer) ตั้งชื่อตามหัวตีที่มีลักษณะเป็นเกลียว นวดแป้งได้เหนียวนุ่ม แป้งไม่ขาด จุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง คือ หัวตีและโถผสมแป้ง หมุนสลับทิศทางกัน ยิ่งจะช่วยให้โดว์แป้งสวย เนื้อเนียน เพราะพัฒนาร่างแหของกลูเตนในแป้งได้ดี นิยมใช้กันมากในวงการขนมเบเกอรี่

เครื่องผสมอาหาร

“เครื่องอเนกประสงค์ ผสมได้หลากหลาย”

เครื่องผสมอาหาร (Planetary Mixers) ออกแบบมาเพื่อผสมวัตถุดิบในการทำเบเกอรี่ เช่น ไข่ เนย ชีส แป้ง ฯลฯ รวมถึงผสมวัตถุดิบในการทำอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ผัก หรือส่วนผสมอื่น ๆ ให้เข้ากัน เครื่องนี้จึงสามารถเปลี่ยนหัวตีได้หลายหัวและปรับความเร็วการตีได้หลายระดับ เพื่อให้เหมาะกับส่วนผสมแต่ละชนิด

• เครื่องผสมอาหารแบบมือถือ (Hand Mixer) เป็นเครื่องขนาดเล็ก มือสามารถจับได้ เน้นผสมอาหารในปริมาณน้อย ๆ เหมาะสำหรับใช้ในครัวเรือน
• เครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะ  (Stand Mixer) มีหลายขนาดให้เลือก ขึ้นอยู่กับกำลังผลิต เหมาะสำหรับคาเฟ่ ร้านขนม และอุตสาหกรรมอาหารขนาดใหญ่

คำถามยอดฮิต : เครื่องผสมอาหารตีแป้งได้ไหม? 

เครื่องผสมอาหารสามารถตีแป้ง นวดแป้ง ได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นแป้งที่มีเนื้อเบาหรือแป้งที่มีปริมาณน้อย ๆ แต่ถ้าเป็นแป้งหนัก แป้งเหนียว เช่น แป้งพิซซ่า แป้งขนมปัง แป้งซาลาเปา เส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นพาสต้า ขนมเปี๊ยะ แป้งโรตี ฯลฯ ควรใช้เครื่องนวดแป้ง

1. หัวแบบตะขอ (Dough Hook) มีลักษณะเป็นตะขอ ออกแบบมาเพื่อใช้นวดโดแป้ง (Dough) โดยเฉพาะ ช่วยให้ส่วนผสมมีความเหนียวนุ่มและยืดหยุ่นมากขึ้น  ไม่ทำให้โดฉีกออกจากกัน เหมาะสำหรับแป้งที่มีน้ำหนักมาก หรือส่วนผสมที่มีลักษณะเหนียวข้น เช่น พิซซ่า พาสต้า ขนมปัง แพนเค้ก พาย เป็นต้น ความเร็วแนะนำ: ต่ำ – ปานกลาง
2. หัวแบบใบพาย/ ใบไม้(Flat Beater) หัวแบบใบพาย เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หัวตีอเนกประสงค์ ใช้ตีและผสมวัตถุดิบได้หลายชนิด ช่วยทำให้ส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน เหมาะสำหรับการตีส่วนผสมที่เป็นจำพวกไขมันให้ขึ้นฟู เช่น เนย ครีมชีส น้ำตาล หรือวัตุดิบที่มีลักษณะเป็นก้อนความแข็งและมีความเหนียว  ช่วยให้ส่วนผสมแตกตัวเข้ากันได้ดี ถ้าใช้ตีแป้ง จะไม่ทำให้โดว์ Overmixed เกินไปความเร็วแนะนำ: ปานกลาง
3. หัวแบบตะกร้อ (Wire Whip) มีลักษณะเหมือนตะกร้อมือที่เราใช้ทั่วไป จุดเด่น คือ ช่วยเพิ่มอากาศเข้าไปในส่วนผสม ทำให้ส่วนผสมเบาและขึ้นฟู เหมาะสำหรับตีของเหลว เช่น ตีไข่ขาว วิปปิ้งครีม เมอร์แรง มูส ซูเฟล์ หรือตีส่วนผสมให้อยู่ตัว ความเร็วแนะนำ: สูง

การกำหนดปริมาณของวัตถุดิบต่อการตีและการนวดแต่ละครั้งมีความสำคัญมาก หากเราผสมในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ประสิทธิภาพที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือาจทำให้เครื่องทำงานหนักเกินไปได้ วันนี้เราจึงมีตารางเปรียบเทียบมาแจก (1 ควอร์ต ≈ 1.1 ลิตร)

(อ้างอิงข้อมูลจาก : WebstaurantStore)

 หมายเหตุ : ให้ลดปริมาณส่วนผสมลงให้น้อยกว่าเดิม หากส่วนผสมมีลักษณะดังต่อไปนี้ แป้งที่มีโปรตีนสูงมากๆ, ใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิต่ำในการผสม, มีสัดส่วนน้ำน้อยมาก, มีสัดส่วนน้ำมันมาก และ ใช้ความเร็วสูงในการตีและผสม

1. ต้องการผสมอะไร?

วัตถุดิบแต่ละประเภทมีสภาวะที่แตกต่างกัน เราจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจในเรื่องวัตถุดิบที่ต้องการผสมก่อน เพราะทั้งเครื่องผสมอาหารและเครื่องนวดแป้งต่างถูกสร้างมาเพื่อใช้งานที่ต่างกันออกไป หากต้องทำแป้งเป็นหลัก แนะนำเครื่องนวดแป้ง แต่หากอยากตีส่วนผสมอื่น ๆ แนะนำเครื่องผสมอาหารที่หัวตีสามารถสับเปลี่ยนได้

2. รองรับการผลิตมากแค่ไหน?

หากคุณเป็นคนที่พึ่งเริ่มทำเบเกอรี่หรืออยากทำเป็นงานอดิเรก อาจจะต้องมองหาเครื่องผสมที่มีกำลังการผลิตต่ำ เช่น เครื่องผสมแบบมือถือ หรือเครื่องผสมแบบตั้งโต้ะ ที่มีความจุโถ 5 ลิตร  แต่การคำนวนความจุหรือการผลิตนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวโถเช่นเดียวกัน เพราะ หากตัวโถ ความจุ อยู่ที่ 5 ลิตร ก็ใช่ว่าจะทำเป็นเค้กได้ในรอบเดียว 5 ลิตร เราจะต้องคำนวนมวลของวัตถุดิบ โดยปกติเราใส่ได้มากสุดประมาณ 60 % ของตัวโถผสม

3. กำลังมอเตอร์เหมาะสมหรือไม่?

กำลังมอเตอร์และกำลังวัตต์ มีความสำคัญมาก ถ้าเราต้องการ ตีแป้งโดว์ หรือแป้งพิชซ่า ในปริมาณมาก หากเรานำเครื่องที่มีกำลังวัตต์ต่ำและมีมอเตอร์เล็ก จะไม่สามารถตีแป้งโดว์ให้ออกมามีคุณภาพได้เลย เพราะมอเตอร์อาจจะทำงานไม่ไหว ตัวเครื่องสั่น และอาจพังเสียหายในที่สุด

4. ราคาและการประกันสินค้า

ทุกครั้งที่เราใช้งาน คือ ต้นทุน ราคาจึงต้องเหมาะสมกับคุณภาพ แต่จะดูราคาอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะการที่เราใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกวันนั้นทำให้เครื่องเสื่อมสภาพได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว เราจึงต้องมองหาสินค้าที่มีประกันจากผู้ผลิต รวมถึงระยะเวลาในการประกันด้วย และหากเป็นระดับอุตสาหกรรม ในกรณีที่เครื่องมีปัญหา ผู้ผลิตมีการเคลมสินค้าหรือไม่ หากไม่มีนับว่าเป็นความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่

ข้อแนะนำ

1. ไม่ควรผสมส่วนผสมในโถผสม ในปริมาณมากเกินไป เพราะจะทําให้เครื่องทํางานหนัก
2. เปิดเครื่องด้วยความเร็วต่ำ แล้วค่อย ๆ เพิ่มความเร็วขึ้น จนถึงระดับความเร็วที่ต้องการ
3. หากต้องการใส่วัตถุดิบเพิ่ม ควรใส่บริเวณขอบด้านข้างโถผสม ไม่ควรเทสัมผัสกับหัวอุปกรณ์โดยตรง
4. หากต้องการเติมส่วนผสม ให้ลดความเร็วลง เพื่อป้องกันไม่ให้ส่วนผสมกระเด็นออกนอกโถผส
5. ไม่ควรวางเครื่องผสมอาหารใกล้กับเตาไฟฟ้า เตาแก๊ส หรือวางในเตาอบหรือวางชิดกับอุปกรณ์

วิธีทำความสะอาด

• ทําความสะอาดหัวมอเตอร์และตัวเครื่องโดยการเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด จากนั้นใช้ผ้านุ่มหรือผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดให้แห้ง
• ทําความสะอาดโถผสมและอุปกรณ์หัวผสมอาหารและเช็ดให้แห้งสนิททุกครั้ง ก่อนนํามาติดกับเครื่องเพื่อใช้งาน
• ห้ามใช้ใยโลหะหรือของมีคม ขูดหรือขัดบริเวณตัวเครื่อง เนื่องจากจะทําให้ตัวเครื่องได้รับความเสียหาย  หากจําเป็นต้องทําความสะอาดด้วยการขูด ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการขัดสีกับตัวเครื่อง

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเลือกเครื่องตีแป้งและเครื่องผสมอาหารได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมกับความต้องการ ตลอดจนใช้งานเครื่องได้ดียิ่งขึ้น ส่วนใครที่อ่านบทความนี้จบแล้วมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งานหรือมีคำถามอื่น ๆ ที่อยากถามเรา สามารถทิ้งคอมเมนต์ไว้ด้านล่างได้เลย 🥰

บทความที่น่าสนใจอื่น ๆ 

• ทำความรู้จัก เครื่องตีแป้ง ก่อนซื้อต้องดูอะไรบ้าง!!
• คัดมาให้ ขนมอบ ทำง่าย อร่อยจนข้างบ้านต้องขอสูตร
• 30 สูตร ขนมทำง่าย สุดฮอตใน IG ขายดีจนแพ็คไม่ทัน