เมนูอาหารจีน ยอดฮิตมีอะไรบ้าง SGE รวมมาให้แล้ว 15 สูตร ทั้งแบบสตรีทฟู้ด และ แบบภัตตาคารชั้นนำ รับรองว่า อร่อย ไม่แพ้เชฟมืออาชีพ ทำง่ายเด็ดทุกสูตร จนวางช้อนไม่ลง ส่วนจะมีเมนูอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย

ขนมจีบ

อาหารจีน

ขนมจีบ เป็น เมนูอาหารจีน ที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หยวน เมื่อ 700 ปีก่อน  ในภาษาจีนกลางจะเรียก ขนมจีบ ว่า ซาวม่าย (烧麦:shao mai) ส่วนบริเวณแถบแต้จิ๋วจะเรียกว่า “เซียวหมี่” (肖米:xiao mi) มักทานคู่กับน้ำชา และ เป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของอาหารติ่มซำ (點心:dim sum; ภาษาจีนกลาง อ่านว่า เตี่ยนซิน; ภาษากวางตุ้ง อ่านว่า ติ่มซำ) ทำให้ต่อมาเมื่อชาวจีนในมณฑลนี้ได้อพยพถิ่นฐานไปยังประเทศต่าง ๆ ก็ได้ทำให้วัฒนธรรมการกินขนมจีบแพร่หลายไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งยังคงนิยมรับประทานจนถึงทุกวันนี้

ส่วนผสม ( สำหรับ 50 ลูก )

  • เแผ่นเกี๊ยว 1 ห่อ ( ชนิดบาง สำหรับห่อขนมจีบ )
  • หมูสับ 550 กรัม
  • ไข่ไก่ 1/2 ฟอง
  • แป้งมัน 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดง 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา 1 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม 2 ช้อนชา
  • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
  • น้ำเย็น หรือน้ำแข็ง 1/2 ถ้วย
  • แครอทสับ 1 ถ้วย
  • ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมอื่นๆ

  • กระเทียมเจียว 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันที่ได้จากการเจียวกระเทียม 1/2 ถ้วย
  • ผักชี ผักสลัด
  • น้ำจิ้มขนมจีบ จิ๊กโฉ่ว แบบสำเร็จ

วิธีทำ

  1. เตรียมเครื่องบดสับ ใส่เนื้อหมูสับลงไปปั่นให้ละเอียด พอละเอียดดีแล้ว ใส่ไข่ไก่ 1/2 ฟอง แป้งมัน พริกไทยป่น น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม น้ำมันหอย น้ำมันงา ลงไป ปั่นให้ละเอียดเข้ากันดี ระหว่างปั่นให้เติมน้ำเย็นลงไปเล็กน้อยด้วย เพื่อไม่ให้ส่วนผสมเหนียวเกินไป
  2. ใส่กระเทียมสับ หอมแดงสับ แครอทสับ ต้นหอมซอย จากนั้น ปั่นอีกรอบ ให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน เสร็จแล้ว ตักพักใส่ชามผสม แช่ไว้ในตู้เย็น 10-20 นาที (ถ้าอยากให้เหนียวหนึบขึ้น ให้นวดมืออีกรอบก่อนห่อขนมจีบ)
  3. นำแผ่นเกี๊ยวมาตัดมุม แล้วค่อย ๆ เล็มให้พอเป็นวงกลม หากใครอยากให้เป็นวงกลมเป๊ะ ๆ สามารถใช้แก้วมาวางครอบแล้วตามขอบแก้วก็ได้
  4. เตรียมถาดรองขนมจีบ แล้วรองด้วยใบตองทาน้ำมัน ทาบาง ๆ ให้ทั่วแผ่นใบตอง แล้วมาเตรียมแผ่นเกี๊ยวให้พร้อม โดยให้เอานิ้วชี้จิ้มน้ำสะอาด แล้วทาที่ขอบแผ่นเกี๊ยวให้ทั่วทุกแผ่น เสร็จแล้ว วางเรียงใส่ถาด เตรียมไว้
  5. เริ่มห่อขนมจีบ โดยใช้มือข้างที่ถนัดถือแผ่นเกี๊ยวไว้ อีกมือหนึ่งใช้ช้อนตักไส้หมูมาให้พอดี วางลงตรงกลางแผ่นเกี๊ยว เทคนิคการห่อ ให้เอาแผ่นเกี๊ยววางลงระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ แล้วใช้อีกมือหนึ่งจับจีบ มือที่ถือแผ่นเกี๊ยว ก็ให้ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ทั้งสอง ช่วยบีบแผ่นเกี๊ยวเข้าหาพร้อมกัน พอแผ่นเกี๊ยวอยู่ทรงแล้ว ให้ใช้ช้อนเกลี่ยไส้ให้พอดี แล้ววางลงบบนถาดรอง เคาะกับพื้นถาดรองอีกเล็กน้อย เพื่อให้เซ็ตตัว ทำอย่างนี้จนกว่าแผ่นเกี๊ยวและไส้จะหมด
  6. เตรียมซึ้งสำหรับนึ่ง รองด้วยใบตองทาด้วยน้ำมัน แล้วต้มน้ำในซึ้งนึ่งให้เดือด พอมีไอน้ำขึ้นมาแล้ว ให้เอาขนมจีบมาเรียงเว้นให้มีระยะห่าง เพื่อให้สุกทั่วถึง แล้วลดไฟที่ใช้นึ่ง ให้เหลือแค่ไฟกลาง ใช้แปรงซิลิโคนจุ่มน้ำสะอาด แต้มที่ขอบขนมจีบทุกลูกเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ขนมจีบแข็งเกินไป ก่อนปิดฝา นึ่งขนมจีบประมาณ 5-10 นาที หรือจนกว่าจะสุก
  7. เพื่อให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น พอผ่านไปประมาณ 5 นาที ให้ทาน้ำมันเจียวกระเทียมให้ทั่ว ๆ แล้วนึ่งต่ออีก 1 นาที วิธีเช็กว่าขนมจีบสุกแล้วหรือไม่ ให้ใช้ไม้จิ้มฟัน จิ้มลงไปที่ไส้หมู ถ้าดึงขึ้นมา ไม่มีเศษเนื้อหมูติดขึ้นมา แสดงว่าสุกดีแล้ว
  8. พอสุกดีแล้ว นำขนมจีบมาจัดใส่จาน โรยกระเทียมเจียวกรอบๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่ว ผักสด ผักชี ผักกาดหอม ตามชอบ เป็นอันเสร็จ
Sponsored (โฆษณา)

ซาลาเปา

อาหารจีน

ซาลาเปา ภาษาจีนเรียกว่า เปา จึ (包子 : Bao Zi) เป็น เมนูอาหารจีน ที่เชื่อกันว่าถือกำเนิดขึ้นมาในยุคราชวงศ์ซ้อง (ค.ศ. 960-1279) เดิมเรียกว่า “หม่านโถว” หรือ “หมั่นโถว” ก่อนที่จะมาเรียก นิยมเรียก “เปาจึ”  หรือ “ซาลาเปา” ในเวลาต่อมา แรกเริ่มเดิมที เป็นเพียงแค่แป้งนึ่งไม่มีไส้ ต่อมาจึงได้เพิ่มไส้เข้าไปด้วยเนื้อหรือผัก ถือเป็นส่วนหนึ่งในชุดอาหารติ่มซำในวัฒนธรรมจีน และ มักใช้ในการไหว้เจ้าตามเทศกาลสำคัญ โดยเหตุที่แป้งซาลาเปาทุกลูก ต้องมีจุดสีแดงอยู่ด้านบนนั้น เพราะคนจีนเชื่อว่าสีขาวล้วน ซึ่งเป็นสีของแป้งซาลาเปาไม่เป็นมงคล เนื่องจากเหมือนกับการไว้ทุกข์ ดังนั้น จึงมีการแต้มจุดสีแดง ลงไปบนลูกซาลาเปา เพื่อให้เป็นสิริมงคล

ส่วนผสมไส้หมูสับ

  • หมูสับ 500 กรัม
  • ซอสปรุงรส 30 กรัม
  • ซอสหอยนางรม 40 กรัม
  • น้ำตาลทราย 50 กรัม
  • พริกไทยดำบด 5 กรัม
  • น้ำมันงา 8 กรัม
  • ไข่ไก่ ½ ฟอง
  • ไข่ต้ม 3 ฟอง
  • ต้นหอมซอย ¼ ถ้วย
  • เกลือ ฟอสเฟต 3 กรัม

ส่วนผสมแป้งซาลาเปา

  • แป้งสาลีสำหรับทำซาลาเปา 250 กรัม
  • น้ำ 130 กรัม
  • ยีสต์แห้ง 5 กรัม
  • น้ำตาลทราย 50 กรัม
  • เกลือ 1 กรัม
  • น้ำมันถั่วเหลือง 10 กรัม
  • ผงฟู 3 กรัม

วิธีทำไส้หมูสับ

  1. เตรียมชามผสม ใส่หมูบด ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย ไข่ไก่ น้ำมันงา พริกไทย คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน
  2. ใส่ต้นหอมซอยลงไป นวดให้เข้ากัน เสร็จแล้ว นำไปพักไว้ในตู้เย็น

วิธีทำซาลาเปา

  1. ผสมน้ำเปล่า น้ำตาลทรายและยีสต์ คนให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ 5 นาที ให้มีฟองฟู่ขึ้น
  2. ใส่แป้งสาลี เกลือ ผงฟู ผสมให้เข้ากัน แล้วเทใส่ลงในเครื่องนวดแป้ง ใช้สปีดสูง ระหว่างนี้ ให้เทน้ำเปล่าผสมน้ำตาลทรายและยีสต์ลงไป ตามด้วยน้ำมันถั่วเหลือง นวดจนกว่าส่วนผสมทุกอย่างจะเข้ากัน และได้แป้งเนื้อเนียนนุ่ม จับตัวเป็นก้อนเดียว ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
  3. พอแป้งได้ที่แล้ว ให้นำมานวดและคลึงเป็นก้อนกลม ใส่ในชาม แล้วใช้ผ้าขาวบางหรือพลาสติกแรปปิดเอาไว้ พักแป้งเป็นเวลา 45 – 60 นาที
  4. เมื่อครบเวลา ให้นำแป้งออกมา ตัดแบ่งให้มีขนาดเท่า ๆ กัน แล้วคลึงเป็นก้อนกลม เสร็จแล้วพักแป้งไว้ ให้แป้งคลายตัว เป็นเวลา 30 นาที
  5. ใช้มือกดแป้ง ให้แบนลง จากนั้น นำไม้นวดแป้ง มารีดขอบแป้งทุกด้าน ให้ขยายตัวออก เพื่อให้ขอบแป้งบางลง ส่วนตรงกลางจะหนา จากนั้น ตักไส้หมูสับที่ทำไว้ลงไป จับจีบและค่อย ๆ ห่อแป้งเข้ามาให้เป็นทรงกลมให้เรียบร้อย วางลงบนกระดาษรองซาลาเปา ทำอย่างนี้จนกว่าจะหมด เสร็จแล้ว พักแป้งไว้ 30 นาที
  6. ต้มน้ำในซึ่งนึ่งให้เดือด พอน้ำเดือดได้ที่แล้ว ให้นำซาลาเปาไปนึ่ง เป็นเวลา 15 นาที พอครบเวลา ให้นำออกมา พักให้เย็น เป็นอันเสร็จ
Sponsored (โฆษณา)

เกี๊ยวนึ่ง

อาหารจีน

เกี๊ยวนึ่ง หรือ เจี่ยว จึ (饺子 : Jiao Zi) เป็น เมนูอาหารจีน โบราณ ที่เชื่อกันว่า เกิดขึ้นในราชวงศ์หมิง โดย หมอแพทย์แผนจีน นามว่า จางจ้งจิ่ง ได้ตักเนื้อแพะต้มมาสับให้ละเอียด แล้วใช้แป้งที่นวดไว้ ห่อเนื้อแพะสับโดยจีบให้เหมือนรูปหู เพื่อให้ชาวบ้านที่ป่วยเป็นโรคใบหูเปื่อยได้รับประทาน ทำให้ เกี๊ยวนึ่ง มีรูปร่างคล้ายใบหู และ เป็นที่นิยมรับประทานกันมาตั้งแต่นั้น โดยนอกจากทำไว้กินเล่นแล้ว คนจีนยังนิยมกินเกี๊ยวนึ่งกันมากที่สุด ในช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วย ดั่งคำกล่าวที่ว่า สองสารทที่หนาวเย็น จงกินเกี๊ยวข้ามปี โดยประเพณีการกินเกี๊ยวของแต่ละท้องถิ่นนั้นก็ไม่เหมือนกัน บางท้องถิ่นกินเกี๊ยวคืนวันตรุษจีน อีกท้องถิ่นอาจกินเกี๊ยววันแรกของเดือนตรุษจีน เป็นต้น

ส่วนผสม

  • แผ่นเกี๊ยวสำเร็จรูป
  • หมูบด 300 กรัม
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
  • พริกไทย 1/2 ช้อนชา
  • ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนชา
  • ผักชีซอย 1/2 ต้น
  • ต้นหอมซอย

วิธีทำ

  1. นำหมูบดใส่ในชามผสม ตามด้วยกระเทียม น้ำตาลทราย พริกไทย ซอสปรุงรส และผักชีซอยลงไป นวดคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ประมาณ10 นาที
  2. นำแผ่นแป้งเกี๊ยวซ่ามาห่อใส่หมูที่ผสมไว้ จากนั้น จับจีบให้สวยงาม
  3. ตั้งน้ำให้เดือด นำเกี๊ยวที่ห่อใส่แล้วไปลวกจนสุก นำขึ้นใส่น้ำเย็นเพื่อให้คงตัว
  4. นำเกี๊ยวเสิร์ฟในน้ำซุปร้อน ๆ โรยด้วยต้นหอมซอย เป็นอันเสร็จ
Sponsored (โฆษณา)

ผัดหมี่ซั่ว

อาหารจีน

ผัดหมี่ซั่ว ภาษาจีนกลาง เรียกว่า “โซ่วเมี่ยน” 寿面  เป็น เมนูอาหารจีน ยอดนิยมในเทศกาลมงคลต่าง ๆ โดยเฉพาะวันเกิด วันไหว้ตามเทศกาลต่างๆ รวมถึงวันตรุษจีน เนื่องจากมีความเชื่อกันว่า หากกินเส้นหมี่ เส้นยาว ๆ แล้ว จะทำให้มีอายุยืนยาว โดยเคล็ดลับสำคัญในการทำให้ผัดหมี่ซั่วอร่อย คือ ต้องเคลือบน้ำมันให้ทั่วกระทะก่อน จากนั้น จึงผัดด้วยไฟแรง แล้วใส่เหล้าจีนและน้ำมันหมู เพิ่มลงไประหว่างผัด จะช่วยให้ผัดหมี่จานนี้ มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน

ส่วนผสม

  • เส้นหมี่ซั่ว
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • ไก่เส้น
  • กุ้ง
  • หมูแดง
  • เห็ดหอมหั่นเส้น
  • พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเส้น
  • ต้นหอมหั่นเส้น
  • ขึ้นฉ่ายหั่นเส้น
  • ถั่วงอก
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
  • น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา
  • เหล้าจีน 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทย 1 ช้อนชา
  • น้ำมันหมู

วิธีทำ

  1. นำเส้นหมี่ซั่วมาชุบน้ำ แล้วไปลวกให้สุกกำลังพอดี
  2. ผสมซอสสำหรับผัด ประกอบด้วย ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1/2 ช้อนชา น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา เหล้าจีน 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทย 1 ช้อนชา
  3. ตั้งกระทะ ใช้ไฟแรง ใส่น้ำมันลงไป 1 กระบวย ใช้ตะหลิวตวัด ให้น้ำมันเคลือบทั่วกระทะ หรือจะจับกระทะ ค่อย ๆ เอียงให้น้ำมันกระจายทั่วกระทะก็ได้ พอน้ำมันเคลือบกระทะดีแล้ว ให้เทน้ำมันส่วนเกินออก
  4. ใส่น้ำมันใหม่ ตามด้วยเส้นหมี่ซั่ว ผัดจนมีกลิ่นหอม พอผัดเสร็จแล้ว ให้ตักขึ้นพักไว้
  5. ใส่ไข่ไก่ 2 ฟอง ตามด้วยเส้นหมี่ซั่ว ไก่เส้น กุ้ง ลงไป พอผัดเข้ากันดีแล้ว ให้ใส่ซอสผัดลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  6. ใส่ต้นหอมหั่นเส้น ขึ้นฉ่ายหั่นเส้น พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเส้น เห็ดหอมหั่นเส้น ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง จนกว่าจะมีกลิ่นหอม
  7. ใส่หมูแดง ถั่วงอก เพิ่มเหล้าจีนและน้ำมันหมู ลงไปอีกเล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ
Sponsored (โฆษณา)

กระเพาะปลา

เมนูอาหารจีน

กระเพาะปลา เมนูอาหารจีน ที่เรารับประทานกันทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นร้านริมทางหรือภัตตาคารชื่อดัง โดยนอกจากกระเพาะปลาจะต้องไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ถึงจะอร่อยแล้ว น้ำแดงก็ต้องมีความข้นเหนียวถึงจะรสชาติดี โดยหากใครต้องการให้อร่อยมากขึ้น สามารถเพิ่มวัตถุดิบต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นไข่นกกระทา น่องไก่ อกไก่ฉีกเป็นเส้น เห็ดหอม และ หน่อไม้ หรือวัตถุดิบอื่น ๆ ตามใจชอบ

ส่วนผสมน้ำสต็อกไก่

  • โครงไก่ 1 โครง
  • ผักกาดขาว
  • กะหล่ำปลี
  • กระเทียม 30 กรัม
  • พริกไทยดำ 1  ช้อนโต๊ะ
  • รากผักชี 4 ราก

ส่วนผสมกระเพาะปลา

  • กระเพาะปลา 250 กรัม
  • ขิงแก่ 50 กรัม
  • ไข่นกกระทาต้มสุก
  • เห็ดหอม 10 ชิ้น (ล้างแล้วแช่น้ำเตรียมไว้)
  • หน่อไม้
  • อกไก่ ปีกบนไก่ เลือดไก่
  • ผักชี
  • ซอสจิ๊กโฉ่ว

เครื่องปรุง

  • ซีอิ๊วขาว 5 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำ 5 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้าจีนสำหรับปรุงอาหาร 2 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งมันฮ่องกง 6 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำสต็อกไก่

  1. ใส่น้ำลงในหม้อต้ม แล้วตั้งไฟ ล้างทำความสะอาดรากผักชี ใช้มีดทุบให้พอแหลก ให้ส่งกลิ่นหอม เสร็จแล้วใส่ลงไปในหม้อ ตามด้วยกระเทียม ทุบให้พอแหลก แล้วใส่ลงในหม้อเช่นกัน
  2. เตรียมครกและสาก ใส่พริกไทยเม็ดลงไป ทุบให้แตก ใส่ตามลงไปในหม้อ ตามด้วยโครงไก่ ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วใส่ตามลงไป
  3. ใส่ผักกาดขาว กะหล่ำปลี ลงไป เพื่อเพิ่มความหวาน (หากใครไม่มี ไม่ต้องใส่ก็ได้) ตามด้วยอกไก่ ปีกบนไก่
  4. จากนั้น ปิดฝา ใช้เวลาต้ม 1 ชั่วโมง (ถ้าใครใช้หม้ออบลมร้อน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) ระหว่างนี้ ถ้าอกไก่ ปีกบนไก่ สุกได้ที่แล้ว ให้ตักขึ้นมาได้เลย
  5. พอครบเวลา ให้ตักไขมันที่ลอยอยู่ด้านบนออก แล้วกรองเอาแต่น้ำสต็อกออกมา ใส่หม้อที่จะทำกระเพาะปลาต่อไป

วิธีทำกระเพาะปลา

  1. ต้มกระเพาะปลาเพื่อไล่น้ำมันออกก่อน โดยให้เตรียมกระทะใส่น้ำให้พอต้มกระเพาะปลา แล้วตั้งไฟอ่อนให้เรียบร้อย หั่นสไลด์ขิงแก่ ใส่ลงไป จากนั้น แบ่งกระเพาะปลาออกเป็นชิ้นสั้น ๆ ใส่ลงไป ลวกให้กระเพาะปลานิ่มลงและคายน้ำมันออกมา ใช้เวลาประมาณ 10 นาที พอเนื้อชุ่มน้ำและนิ่มลงหมดแล้ว ให้ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำเตรียมไว้
  2. หั่นเห็ดหอมออกเป็นเส้น ๆ แล้วนำมาผัดในกระทะ โดยใส่น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ แล้วใส่เห็ดหอมลงไปผัดให้มีกลิ่นหอม
  3. ใส่น้ำแช่เห็ดหอม ลงไปในหม้อน้ำสต็อกไก่ที่เตรียมไว้ โดยเทใส่กระชอนกรองเอาเศษที่ไม่ต้องการออก แล้วใส่เห็ดหอมที่ผัดไว้ ตามลงไป ต้มจนเดือด
  4. พอเดือดแล้ว ให้ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว 5 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำ 5 ช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ เหล้าจีนสำหรับปรุงอาหาร 2 ช้อนโต๊ะ ชิมรสชาติ หากขาดอะไรให้ปรุงรสเพิ่มได้ตามใจชอบ
  5. นำกระเพาะปลามาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เสร็จแล้ว ใส่ลงไป ต้มให้เดือด
  6. นำเลือดไก่ หน่อไม้ มาหั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่ตามลงไป รอจนเดือดอีกรอบ แล้วให้ใส่แป้งมันฮ่องกงลงไป 6 ช้อนโต๊ะ ระหว่างใส่ ให้คอยคนส่วนผสมไปด้วย จนกว่าจะได้น้ำซุปข้นหนืดตามที่ต้องการ
  7. พอเดือดได้ที่แล้ว ตักเสิร์ฟใส่ชาม ใส่ไข่นกกระทา น่องไก่ อกไก่ฉีกเป็นเส้น ๆ เรียงไว้ด้านบน โรยผักชี ปรุงรสเพิ่มด้วยซอสจิ๊กโฉ่วตามชอบ เป็นอันเสร็จ
Sponsored (โฆษณา)

เต้าหู้ทรงเครื่องสไตล์เสฉวน

อาหารจีน

เต้าหู้ทรงเครื่อง ภาษาจีน เรียกว่า Mapo Tofu เป็น เมนูอาหารจีน อันเป็นเอกลักษณ์จากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ที่จะให้รสชาติอันเผ็ดร้อน ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ก็อร่อย แถมยังเหมาะกับทำเป็นซุปไว้ซด เพื่อเพิ่มความอบอุ่นในยามหนาว เป็นเมนูเต้าหู้หนึ่งที่คนรักเต้าหู้รวมถึง คนรัก อาหารจีน ไม่ควรพลาด

ส่วนผสม

  • เต้าหู้ขาวญี่ปุ่นแบบเเข็ง (เต้าหู้โมเมน)
  • แป้งสาลี (คลุกกับเต้าหู้ขาวญี่ปุ่น)
  • น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ + แป้งข้าวโพด
  • หมูสับ ตามชอบ
  • กระเทียมสับ
  • ต้นหอมซอย
  • พริกแดงสับ 3 เม็ด
  • เห็ดหอม 2 ชิ้น
  • พริกป่น 1 ช้อนชา
  • พริกกุ้ยหลิน 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  • นํ้าตาลทราย 1 ช้อนชา
  • เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
  • นํ้ามันงา 1 ช้อนชา
  • นํ้าสต็อค

วิธีทำ

  1. ใช้มีดหั่นเต้าหู้ขาวญี่ปุ่นเป็นชิ้นหนา ๆ จากนั้น ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน นำเต้าหู้ขาวญี่ปุ่นคลุกกับแป้งสาลี แล้วลงทอดในกระทะ โดยใช้ไฟกลาง ให้มีสีเหลืองทอง
  2. ตั้งกระทะใหม่ ใส่น้ำมันลงไป ตามด้วย กระเทียมสับ พริกแดงสับ ผัดให้มีกลิ่นหอม จากนั้น ใส่หมูสับ ลงไป ผัดให้เข้ากัน
  3. ปรุงรสด้วย พริกป่น พริกกุ้ยหลิน ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  4. เพิ่มกลิ่นหอมด้วย เหล้าจีน น้ำมันงา จากนั้น เติมน้ำสต็อคลงไปเล็กน้อย ตามด้วยเห็ดหอม คนให้เข้ากัน
  5. เทน้ำเปล่าผสมกับแป้งข้าวโพด ละลายให้เข้ากัน แล้วค่อย ๆ เทลงไปในกระทะ คนให้เข้ากัน ให้น้ำมีความข้นเหนียวตามต้องการ
  6. จัดจาน ตักเต้าหู้ขาวญี่ปุ่นทอดใส่จาน ราดด้วยน้ำซอสและส่วนผสมต่าง ๆ โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย เป็นอันเสร็จ
Sponsored (โฆษณา)

ก๋วยเตี๋ยวหลอด

อาหารจีน

เมนูอาหารจีน ที่ถูกใจใครหลายคน โดย ก๋วยเตี๋ยวหลอด จะทำให้อร่อย มีเคล็ดลับอยู่ที่น้ำซอสดำเข้มข้น พอเอามาคลุกเคล้ากับเส้นก๋วยเตี๋ยวหลอด กินคู่กับเห็ดหอม หมูสับ เต้าหู้ ที่ถูกเคี่ยวจนนุ่มลิ้น เพิ่มรสสัมผัสกรุบกรอบ ด้วยถั่วงอกที่ลวกจนสุกกำลังดี รับรองว่า ทานเมื่อไหร่ก็ฟินเมื่อนั้น พร้อมทำขาย สู้ร้านดังได้เลย โดยส่วนผสมและวิธีการทำ นำมาจาก Youtuber ช่อง กินได้อร่อยด้วย

ส่วนผสม

  • เส้นก๋วยเตี๋ยวหลอด 1,000 กรัม
  • ถั่วงอก 500 กรัม
  • เต้าหู้ 250 กรัม
  • หมูสับ 250 กรัม
  • เห็ดหอม 40 กรัม
  • กระเทียม 20 กรัม
  • พริกไทยเม็ด 3 กรัม
  • รากผักชี 5 กรัม
  • อบเชย 20 กรัม
  • โป๊ยกั๊ก 5 กรัม
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำ 800 มิลลิลิตร
  • กระเทียมเจียวกากหมู
  • ตังฉ่าย
  • ต้นหอมซอย

ส่วนผสมซอสดำ

  • ซีอิ๊วดำหวาน 8 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา 1 ½  ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 2 ½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. หั่นเห็ดหอม เต้าหู้ เป็นเส้นบาง ๆ เตรียมไว้
  2. เตรียมครกกับสาก ใส่พริกไทยเม็ด ตามด้วยรากผักชี กระเทียม บดให้ละเอียด จากนั้น ตั้งเตา ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย ตามด้วยสามเกลอที่ตำไว้ ใส่ลงไป ผัดให้มีกลิ่นหอม เสร็จแล้ว ตักขึ้นพักไว้
  3. ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป พร้อมกับน้ำเปล่าเล็กน้อย คนและบี้ให้น้ำตาลปี๊บละลายดี เคี่ยวต่อไปเรื่อย ๆ ให้น้ำตาลปี๊บออกสีน้ำตาลไหม้ พอได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟ ปรุงรสด้วยสามเกลอ ซีอิ๊วขาว คนให้เข้ากัน
  4. ใส่เห็ดหอม หมูสับ อบเชย โป๊ยกั๊ก ผัดให้เข้ากัน จากนั้น เติมน้ำเปล่า แล้วเปิดไฟกลาง ต้มให้น้ำเดือด ระหว่างนี้ ให้ใส่เต้าหู้ขาวลงไปด้วย พอน้ำเดือดได้ที่แล้ว ให้ลดเป็นไฟกลางค่อนไฟอ่อน ต้มต่อเป็นเวลา 15 – 20 นาที พอครบเวลา ให้ยกลงพักไว้
  5. ต้มน้ำในซึ้งนึ่งให้เดือด พอเดือดดีแล้ว ให้นำเส้นก๋วยเตี๋ยวหลอดใส่ชาม นำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลา 3 – 5 นาที
  6. ทำซอสดำ สำหรับราดก๋วยเตี๋ยวหลอด โดยเตรียมหม้อ ใส่ซีอิ๊วดำหวานลงไป ตามด้วย น้ำมันงา เกลือ น้ำเปล่า น้ำตาลทราย จากนั้น เปิดเตา ใช้ไฟกลางค่อนไฟอ่อน คนให้ทุกอย่างละลายเข้ากัน พอเดือดดีแล้ว ให้เคี่ยวต่อ 2 – 3 นาที เสร็จแล้ว ปิดเตา พักให้เย็น
  7. ตั้งหม้อ ต้มน้ำให้เดือด นำถั่วงอกใส่ลงไป ลวกให้ถั่วงอกสุก
  8. ตักถั่วงอกใส่ชาม ตามด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวหลอด เห็ดหอม หมูสับ เต้าหู้ขาว กระเทียมเจียวกากหมู ตังฉ่าย ต้นหอมซอย ราดด้วยซอสดำ ปรุงรสด้วยพริกไทย น้ำส้มสายชู พริกป่น ตามชอบ เป็นอันเสร็จ

ก๋วยจั๊บ

อาหารจีน

อาหารจีน ที่ใครหลายคนคงเคยกินและชื่นชอบกันไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะหากไปได้เดินบนถนนเยาวราช แต่ถ้าหากใครบ้านไกล ไม่สะดวกเดินทางไปกินแล้วละก็ สามารถทำตามสูตรนี้ได้เลย รับรองว่า จะทำ เมนูอาหารจีน ชามนี้ ได้อร่อย ไม่แพ้ร้านดังแน่นอน

ส่วนผสม

  • เส้นก๋วยจั๊บ 500 กรัม
  • หมูสามชั้น
  • ตับหมู
  • หัวใจหมู
  • ก้อนเลือดหมู
  • ปอดหมู
  • ไส้อ่อนหมู
  • เต้าหู้ทอด
  • ไข่ไก่
  • โป้ยกั๊ก 10 กรัม
  • อบเชย 30 กรัม
  • ผงพะโล้ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ชวงเจีย (พริกหอม) 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทย 10 กรัม
  • กระเทียม 80 กรัม
  • รากผักชี 40 กรัม
  • ผักชี
  • น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม
  • เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ้วดำหวาน 5 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ้วขาว 6 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำ 3,500 กรัม

วิธีทำ

  1. นำพริกไทยเม็ด มาโขลกให้ละเอียด ตามด้วยกระเทียม กับรากผักชี
  2. นำสามเกลอลงผัดในหม้อสำหรับต้ม ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย ใช้ไฟกลาง ผัดจนสุกหอมดี ตักขึ้นมาพักรอไว้
  3. ใส่น้ำตาลปี๊ปลงไปในหม้อเดิม ใช้ไฟกลาง เคี่ยวน้ำตาลปี๊ปให้ออกเป็นสีคาราเมล
  4. ปรุงรสชาติด้วย ซีอิ๊วขาว คนเล็กน้อย ตามด้วยสามเกลอ เกลือ น้ำเปล่า เร่งไฟแรง และใส่กระดูกเล้งลงไป รอจนน้ำกลับมาเดือด
  5. ใส่เครื่องพะโล้ อบเชย ผงพะโล้ โป้ยกั๊ก ชวงเจีย ถ้าสีไม่เข้ม ให้ใส่ซีอิ๊วดำหวานลงไป
  6. จากนั้น ใส่หัวใจหมู ไส้หมู ปอด ตับ เร่งไฟแรงให้น้ำกลับมาเดือดอีกครั้ง สำหรับ ตับ ให้จับเวลาต้มแค่ 15-20 นาที
  7. พอสามเกลอละลายหมดแล้ว ให้ตักฟองที่ลอยขึ้นมาออก เมื่อครบเวลาตักตับออก
  8. ชิมรสชาติตามชอบ ใส่เต้าหู้ทอดลงไป ลดไฟให้อ่อนลง ปิดฝาแบบไม่มิด ตุ๋นไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง
  9. พักมาทำหมูกรอบ ดูสูตรได้ที่ (วิธีทำหมูกรอบ สูตรอร่อย กรอบจนหยุดกินไม่ได้!)
  10. นำไข่ไก่มาต้มประมาณ 6 นาที คนช่วงแรกแรกประมาณ 1 นาที
  11. นำกระเทียมมาเจียว ใส่เกลือเล็กน้อย พักไว้
  12. ตักเครื่องในทุกอย่างในหม้ออกมาพักไว้ จากนั้น ช้อนกรองเครื่องเทศออก เร่งไฟแรง ให้น้ำกลับมาเดือด
  13. ใส่เลือดหมูลงไป ใส่ไข่ต้มลงไป ต้มด้วยไฟอ่อน
  14. นำเส้นก๋วยจั๊บ มาต้มในน้ำเดือด ใส่ทีละเส้น ต้มจนเส้นสุกดี ใส่แป้งข้าวจ้าว ผสมกับน้ำเปล่า ใส่ลงไปในหม้อ
  15. นำเครื่องใน และเครื่องทุกอย่างมาหั่นเตรียมไว้ จัดวางใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟ
Sponsored (โฆษณา)

ไก่แช่เหล้า

เมนูอาหารจีน

กับแกล้ม สไตล์ เมนูอาหารจีน ที่อาจถูกใจใครหลายคน โดยเฉพาะคนที่ชอบปาร์ตี้สังสรรค์ โดยเมนูนี้จะทำออกมาได้อร่อย ควรเลือกใช้ไก่บ้านที่ยังอ่อนอยู่ เพื่อให้ได้เนื้อไก่บ้านที่นุ่ม เคี้ยวอร่อย สูตรจาก Youtuber ช่อง กินเที่ยวกับ ด็อกเตอร์ อ๋อย

ส่วนผสมไก่บ้านแช่เหล้า

  • ไก่บ้าน 1 ตัว
  • เกลือ 1 ถ้วย
  • บรั่นดี 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมน้ำจิ้ม

  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ขิงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชีซอย ตามชอบ
  • เต้าเจี้ยว 4 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำไก่บ้านแช่เหล้า

  1. ตั้งหม้อ เปิดไฟแรง ต้มน้ำให้เดือด แล้วใส่เกลือลงไป คนให้ละลายเข้ากัน
  2. ใส่ไก่บ้านทั้งตัวลงไป ต้มให้น้ำเดือด พอน้ำเดือดแล้ว ให้ลดเป็นไฟกลาง ต้มต่อไปเป็นเวลา 45 นาที
  3. พอครบเวลา ให้ยกไก่บ้านขึ้นมา น็อคในน็อคในน้ำเย็น ราดน้ำเย็นให้ทั่ว ให้ไก่กระจายความร้อนออกมา เสร็จแล้ว พักทิ้งไว้ 15 นาที
  4. ใช้มีดสับไก่เป็นชิ้น ๆ ตามชอบ จากนั้น ผสมบรั่นดี ซีอิ๊วขาว น้ำมันงา คนให้เข้ากัน แล้วราดลงไปบนไก่ เป็นอันเสร็จ

วิธีทำน้ำจิ้ม

  1. เตรียมถ้วยน้ำจิ้ม ใส่เต้าเจี้ยว ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำหวาน น้ำมะนาว น้ำต้มสุก คนให้เข้ากัน
  2. ใส่กระเทียมสับ พริกแดงสับ ขิงสับ ผักชีซอย คนให้เข้ากัน
Sponsored (โฆษณา)

เป็ดปักกิ่ง

เมนูอาหารจีน

เป็ดปักกิ่ง หรือ เป็ดย่าง ในภาษาจีนจะเรียกว่า Běi jīng kao yā  (北京烤鸭 ) ถือเป็น เมนูอาหารจีน ระดับภัตตาคาร ที่เป็นที่นิยมมาก ๆ มักกินคู่กับหมั่นโถว ราดด้วยซีอิ๊วดำหวาน มีผักเคียงเป็นแตงกวาและขิงดอง ไว้ทานคู่กัน

ส่วนผสมเป็ดปักกิ่ง

  • เป็ด 1 ตัว
  • ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1½ ช้อนโต๊ะ
  • ขิงแก่สับ 40 กรัม
  • ผักชีหั่นฝอย 1 ถ้วย
  • สามเกลอ ได้แก่ พริกไทย กระเทียม และรากผักชี โขลกให้ละเอียด

ส่วนผสมน้ำราดตัวเป็ด

  • น้ำส้มสายชู 3-4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า

ส่วนผสมน้ำจิ้มเป็ดปักกิ่ง

  • น้ำมะขามเปียก ¼ ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ ½ ถ้วย
  • พริกขี้หนูแห้งคั่วป่น 2 ช้อนชา
  • น้ำปลา ¼ ถ้วย

วิธีทำ

  1. ล้างเป็ดที่เตรียมไว้ให้สะอาด นำเครื่องในเป็ดออกให้หมด
  2. นำส่วนผสมทำเครื่องหมักเป็ดที่เตรียมไว้ ผสมให้เข้ากัน แล้วยัดเข้าไปในท้องเป็ด โดยใช้มือล้วงเข้าไปแล้วทาเครื่องหมักให้ทั่วท้องเป็ด เสร็จแล้วพักไว้
  3. ทำน้ำราดตัวเป็ด โดยเริ่มจาก ตั้งหม้อน้ำให้เดือด จากนั้นใส่ส่วนผสม น้ำส้มสายชู น้ำผึ้ง ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และเกลือลงไป คนให้เข้ากัน รอจนเดือดอีกครั้ง แล้วยกลง
  4. นำน้ำราดตัวเป็ด ตักราดตัวเป็ดให้ทั่ว จากนั้น หมักทิ้งไว้ และผึ่งให้แห้งประมาณ 1-2 ชั่วโมง
  5. หลักจากผึ่งเป็ดทิ้งไว้ 2 ชั่วโมงแล้ว นำเป็ดที่ได้อบในหม้ออบลมร้อน โดยใช้ฟอยล์รองตัวเป็ดก่อน เพื่อกันน้ำเป็ดตก ตั้งไฟที่ความร้อน 160 องศาเซลเซียส อบเป็ด 2 รอบ รอบที่ 1 ใช้เวลาอบ 45 นาที จากนั้น พลิกตัวเป็ด แล้วอบต่ออีก 35 นาที
  6. ทำน้ำจิ้มเป็ดปักกิ่ง โดยนำส่วนผสมทั้งหมด ปั่นด้วยเครื่องปั่นให้เข้ากัน นำตั้งไฟอ่อน ๆ เคี่ยวจนเหนียว จากนั้น ใส่พริกป่นคนให้ทั่ว ปรุงรสเปรี้ยวหวานเค็ม ตามชอบ เสิร์ฟคู่กับเป็ดปักกิ่งได้เลย พร้อมเสิร์ฟ
Sponsored (โฆษณา)

หมูสามชั้นตุ๋นผักกาดดอง

อาหารจีน

เมนูหมูสามชั้นนี้ เป็น เมนูอาหารจีน แบบกวางตุ้งที่นิยมมาก มีชื่อเรียกว่า หมุ่ยชอยเคาหยก หรือ โค่วโหย่ว(扣肉 koù roù) ในภาษาจีนกลาง มีวิธีทำโดยการนำหมูสามชั้นไปตุ๋นจนนิ่มลง ทานคู่กับหมุ่ยชอย หรือ ผักกาดดองเค็ม ราดด้วยน้ำซอสข้นมัน จะทำให้ได้หมูที่นุ่ม และมีรสชาติหวานเค็ม เหมาะกับทำทานในเทศกาลไหว้เจ้าสำคัญ ๆ หรือ เนื่องในโอกาสพิเศษ

ส่วนผสม

  • หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม
  • ผักกาดดองแห้ง 350 กรัม
  • กระเทียมบุบ 5 กลีบ
  • ขิงหั่น 5 แว้น
  • ต้นหอมหั่นท่อน 5 ต้น
  • เหล้าจีน 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  • ซอสเห็ดหอม 5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา 2 ช้อนชา
  • น้ำตาล 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ (ล้างกลิ่นคาว)
  • น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ (ล้างกลิ่นคาว)
  • แป้งมันฮ่องกง + น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำสต็อค 3 ถ้วย

วิธีทำ

  1. ตั้งหม้อ ต้มน้ำให้เดือด นำหมูสามชั้นลงไปต้มให้พอสุก จากนั้น นำขึ้นมาพักให้เย็นลง
  2. ใช้ส้อมจิ้มหนังหมูให้ทั่ว เสร็จแล้ว โรยเกลือและน้ำส้มสายชูลงไป ทาให้ทั่ว
  3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป วอร์มให้น้ำมันร้อนจัดแล้ว วางเนื้อหมูสามชั้นลงไปทอดให้สุก จนเหลืองทองพอดี ๆ โดยให้วางด้านหนังหมูลงไปก่อน พอเหลืองทองทั่วกันทุกด้านแล้ว ให้นำขึ้นไปน็อคในน้ำเย็น ทิ้งไว้ 1 – 2 ชั่วโมง แล้วใช้มีดหั่นเป็นชิ้น ๆ เตรียมไว้
  4. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย เคลือบน้ำมันให้ทั่วกระทะ จากนั้น เปิดไฟแรง แล้วใส่ขิงแว่น กระเทียมบุบ ผักกาดดองแห้งลงไป ผัดให้เข้ากัน เสร็จแล้ว เริ่มปรุงรสโดยใส่ เหล้าจีน ซอสเห็ดหอม ซีอิ๊วขาว น้ำมันงา น้ำตาล ซีอิ๊วดำ ผัดให้เข้ากันอีกหนึ่งครั้ง แล้วค่อยเติมน้ำสต็อคลงไป ลดเป็นไฟกลางค่อนไฟอ่อน เคี่ยวต่ออีก 30 นาที ให้งวดลง
  5. จัดวางหมูสามชั้น ใส่ชามก้นลึก วางผักกาดแห้งที่ผัดไว้ ตามด้วยน้ำซอสที่เหลือ เสร็จแล้ว นำไปนึ่งในซึ้งนึ่ง ด้วยไฟกลางค่อนไฟแรงเป็นเวลา 2 – 3 ชั่วโมง หรือจนกว่าหมูสามชั้นจะนุ่มลง
  6. พอครบเวลาให้นำออกมา เทน้ำซอสที่ได้จากการนึ่งลงในกระทะ ตั้งไฟให้พอเดือด เสร็จแล้ว ตักแป้งมันฮ่องกงผสมกับน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ เทลงไปคนให้เข้าน้ำซอส เคี่ยวต่อให้ซอสงวดลง จนข้นขึ้น
  7. จัดเสิร์ฟใส่จาน วางหมูสามชั้นพร้อมผัดกาดดองเค็มลงไป ราดด้วยน้ำซอสที่เคี่ยวไว้ เป็นอันเสร็จ
Sponsored (โฆษณา)

ผัดโหงวก๊วย

เมนูอาหารจีน

1 ใน เมนูอาหารจีน ที่มักจะเห็นคนสั่งมารับประทานบ่อย ๆ เพราะอุดมไปด้วยผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น แปะก๊วย เกาลัด พุทราเชื่อม แห้ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แถมบางที่ยังเสิร์ฟมาในรังเผือกทอดคล้ายรังนก ทำให้มีความสวยงามน่ารับประทานเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งถ้าใครไม่อยากเสียเงินไปซื้อทานที่ภัตตาคารแล้วละก็ สามารถทำตามสูตรนี้ได้เลย รับรองว่า อร่อยไม่แพ้กัน

ส่วนผสม

  • เนื้ออกไก่ 150 กรัม
  • แป้งทอดกรอบ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 100 กรัม
  • เกาลัด 50 กรัม
  • แปะก๊วย 50 กรัม
  • แห้วต้ม 50 กรัม
  • พุทราเชื่อม 50 กรัม
  • เห็ดหอมสด 50 กรัม
  • หอมหัวใหญ่ 1 หัว
  • พริกหวานเขียว/เหลือง/แดง อย่างละ 1/2 ผล
  • ต้นหอมหั่นท่อน 3 ต้น
  • พริกชี้ฟ้าแห้ง 3 เม็ด
  • น้ำตาลทราย 2 ½ ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปพอเหมาะ ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไป ทอดให้สุกเหลืองสวย เสร็จแล้ว ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
  2. จากนั้น ทยอยใส่พริกหวานเขียว เหลือง แดง หอมหัวใหญ่ แปะก๊วย เกาลัด เห็ดหอม ลงไปทอดทีละอย่าง ๆ ให้สุก
  3. นำเนื้อไก่มาคลุกกับแป้งทองกรอบ แล้วใส่ลงในกระทะ ทอดให้สุก จากนั้น ใส่พริกชี้ฟ้าแห้งลงไปทอดให้กรอบเล็กน้อย
  4. เทน้ำมันที่ใช้ทอดออก แล้วตั้งกระทะใหม่ ใส่น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม เหล้าจีน จากนั้น เปิดไฟอ่อน คนให้ทุกอย่างละลายเข้ากัน และ เคี่ยวต่อสักพัก ให้ซอสมีความเหนียวข้นขึ้น
  5. พอซอสข้นดีแล้ว ใส่ใส่พริกหวานเขียว เหลือง แดง หอมหัวใหญ่ ไก่ทอด แปะก๊วย เกาลัด เห็ดหอม เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แห้วต้ม พุทราเชื่อม เห็ดหอม คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  6. ใส่พริกทอดลงไป ตามด้วย ต้นหอมหั่นท่อน ผัดให้เข้ากันอีกรอบ เป็นอันเสร็จ
Sponsored (โฆษณา)

ปลานึ่งซีอิ๊ว

อาหารจีน

เมนูอาหารจีน อันดับแรก ๆ ที่ใคร ๆ ก็นึกถึง โดยเฉพาะเวลาไปทานตามภัตตาคารและร้านอาหารชื่อดัง ซึ่งถ้าหากซื้อทาน รับรองว่าแพงแน่นอน แต่ถ้าใครอยากทานเมนูนี้ในแบบประหยัด ๆ แล้วละก็ สามารถทำตามสูตรที่นำมาฝากได้เลย รับรองว่าเหมือนต้นฉบับ แถมยังทำทานได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย

ส่วนผสม

  • ปลากระพง 1 ตัว (ปลาอื่น ๆ ก็ได้)
  • ขิงแก่ 1 แง่ง
  • ต้นหอม 5 ต้น
  • ขึ้นฉ่าย 3 ต้น
  • พริกชี้ฟ้าแดง 3 เม็ด
  • น้ำมันสำหรับผัด 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้าจีน 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 2 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. ทำความสะอาดปลากะพง โดยการถอดเกล็ด ผ่าท้องแล้วควักไส้ และ ถอดเหงือกออก ให้เรียบร้อย จากนั้น นำเกลือมาทาให้ทั่ว แล้วใช้น้ำล้างออก ซับด้วยกระดาษทิชชู่ซับมันให้แห้ง เมื่อแห้งแล้ว ให้ใช้มีด บั้งเนื้อปลา 3 บั้ง แต่ละด้าน เท่า ๆ กัน
  2. เตรียมซึ้งนึ่ง โดยต้มน้ำร้อนให้ร้อนจัด ด้วยไฟแรง จากนั้น นำปลากระพงใส่จานที่จะจัดเสิร์ฟ วางลงในซึ้งนึ่ง นึ่งปลาจนสุก ใช้เวลาประมาณ 10-12 นาที
  3. ปอกเปลือกขิง หั่นขิงเป็นแว่น ๆ แล้วซอยให้เป็นเส้นเล็ก ๆ เตรียมไว้ จากนั้น นำพริกชี้ฟ้าแดงมาผ่าครึ่ง เอาส่วนที่เป็นเมล็ดออก แล้วหั่นซอยให้เป็นเส้นเล็ก ๆ
  4. นำต้นหอม มาตัดเอาส่วนโคนแยกออกจากส่วนใบ แล้วหั่นโคนต้นหอมออกเป็นเส้น ๆ ส่วนใบต้นหอมให้หั่นออกเป็นท่อน ๆ ขนาดเท่ากัน เช่นเดียวกับขึ้นฉ่าย ให้ทำแบบเดียวกัน
  5. เตรียมทำน้ำราดซีอิ๊ว โดยตั้งกระทะ เปิดไฟแรง ใส่น้ำมันลงไป กลิ้งจนน้ำมันเคลือบกระทะทั้งหมด พอน้ำมันร้อนจัด จนมีไอร้อนขึ้นมาแล้ว ให้ใส่ ขิงซอย พริกชี้ฟ้าแดงซอย ขึ้นฉ่ายซอย ต้นหอมซอย ลงไป ผัดให้เข้ากัน แค่ให้พอมีกลิ่นหอม พอผักสลดดีแล้ว ให้ปิดไฟ แล้วนำผักเหล่านี้ มาโรยไว้บนตัวปลาตัวกระพง
  6. ตั้งกระทะใหม่ (ยังไม่ต้องเปิดไฟ) ใส่ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วดำหวาน ซีอิ๊วขาว เหล้าจีน น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ลงไป จากนั้น เปิดไฟกลางค่อนไฟแรง คนและผัดซอสให้เข้ากัน จนกว่าจะเดือดและข้นได้ที่ ระหว่างนี้ ให้คอยคนเป็นระยะ เพื่อไม่ให้ไหม้
  7. เมื่อซอสข้นเหนียวได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟ นำน้ำซีอิ๊วมาราดลงบนตัวปลากระพง เป็นอันเสร็จ
Sponsored (โฆษณา)

ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา

อาหารจีน

ก๋วยเตี๋ยว (面条:Miàntiáo) เป็น เมนูอาหารจีน ที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยไม่มีหลักฐานกล่าวถึงชัดเจนว่ามีมาตั้งแต่ตอนไหน แต่คาดว่าคนไทยน่าจะรู้จักก๋วยเตี๋ยว ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จาก “คำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม” ว่าด้วยการค้าขายนอกกรุง สมัยอยุธยาตอนปลายที่ระบุว่า  “บ้านในคลองสวนพลู พวกจีนตั้งเตาต้มสุราเลี้ยงสุกรขาย แลทำเส้นหมี่แห้งขาย” ซึ่งเส้นหมี่นั้น ก็คือ เส้นก๋วยเตี๋ยวอย่างหนึ่งนั่นเอง โดยในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ในพ.ศ. 2485 จากนโยบายที่ส่งเสริมให้คนไทยหันมากินก๋วยเตี๋ยว ขายก๋วยเตี๋ยวกันมากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ได้ทำให้ก่วยเตี๋ยวกลายเป็นที่นิยมของคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน

ส่วนผสมน้ำซุป

  • กระดูกเล้ง 2 กิโลกรัม
  • น้ำเปล่า ประมาณ 10 ลิตร
  • รากผักชี 5 ราก
  • กระเทียมจีนทุบพอแตก 5 – 6 กลีบ
  • พริกไทยเม็ดทุบพอแตก 1 ช้อนโต๊ะ
  • หัวไชเท้า 1 หัวใหญ่ๆ
  • ใบเตย 3 – 4 ใบ
  • ซีอิ๊วขาว 3 ทัพพี
  • เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ปลาหมึกแห้งขนาดเท่าฝามือ 1 ตัว
  • น้ำกระเทียมดอง 200 กรัม
  • หัวกระเทียมดอง 4 – 5 หัว
  • น้ำตาลกรวด 3 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา

  • เส้นก๋วยเตี๋ยว ชนิดใดก็ได้ 1-2 ก้อน
  • ลูกชิ้นปลา
  • ลูกชิ้นกุ้ง
  • ฮือก้วย
  • เกี๊ยวทอด
  • กระเทียมเจียว ตามต้องการ
  • ต้นหอมซอย และ ผักชีซอย ตามต้องการ

วิธีทำน้ำซุป

  1. ตั้งหม้อ ใส่น้ำเปล่าลงไปให้ท่วม ตามด้วย กระดูกเล้ง แล้วเปิดไฟแรง ต้มน้ำให้เดือด จนกว่าเนื้อหมูจะสุก พอสุกดีแล้ว ให้ตักเนื้อหมูออก แล้วเทน้ำต้มทิ้ง
  2. เปลี่ยนน้ำต้มใหม่ แล้วใส่กระดูกหมูลงไป ต้มโดยใช้ไฟกลาง ให้น้ำเดือดอีกรอบ ระหว่างต้ม หากมีฟองลอยขึ้นมา ให้คอยช้อนฟองออก
  3. เตรียมผ้าขาวบาง ใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทย รวมกันแล้วห่อให้เรียบร้อย เสร็จแล้ว ใส่ลงไปในหม้อ ตามด้วยใบเตยมัด หัวไชเท้าหั่น ปลาหมึกแห้ง น้ำกระเทียมดอง หัวกระเทียมดอง น้ำตาลกรวด ซีอิ๊วขาว เกลือ คนให้เข้ากัน ต้มต่อไปราว 30 นาที

วิธีทำก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา

  1. นำ เส้นก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก้วย ลงลวกในน้ำซุป ใช้เวลาประมาณ 10-30 วินาที
  2. ตักเส้นก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก้วย เกี๊ยวทอด จัดใส่ชาม โรยต้นหอม ผักชี กระเทียมเจียว ปรุงรสชาติ ตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ

ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

อาหารจีน

ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ เป็น เมนูอาหารจีน ที่คนไทยประยุกต์นำเอา ซอสเต้าหู้ยี้ ของคนจีนแคะ มาใส่ในก๋วยเตี๋ยว ทำให้น้ำซุปมีสีแดง และ มีรสชาติที่เค็มอร่อยมากขึ้น โดยภาษาจีนแคะจะเรียกว่า “ย้องแท้วฟู้ 酿豆腐” แต่เมื่อเรียกไปเรียกมาก็ได้เรียกเพี้ยนมาเป็น เย็นตาโฟ จนกลายเป็นชื่อเรียกก๋วยเตี๋ยวชนิดนี้มาจนถึงปัจจุบัน โดยใน 1 ชาม จะประกอบด้วย เส้นก๋วยเตี๊ยว ซอสเย็นตาโฟ น้ำซุป กับเครื่องเคียง เช่น ลูกชิ้นปลา เต้าหู้ทอด ปลาหมึกกรอบ ผักบุ้ง และ เกี๊ยวทอด เป็นต้น

ส่วนผสม ซอสเย็นตาโฟ

  • พริกแดงสด 2 กำมือ
  • กระเทียมสด แกะเปลือก 1 ทัพพี
  • กระเทียมดอง แกะเปลือก 1 ทัพพี
  • เต้าหู้ยี้ 10 ก้อน
  • เต้าเจี้ยว ½  ถ้วย
  • น้ำกระเทียมดอง ½  ถ้วย
  • น้ำส้มสายชู ½  ถ้วย
  • น้ำเปล่า 2 ถ้วย
  • เกลือป่น ปลายทัพพี
  • น้ำตาลทราย 1 ทัพพี
  • น้ำตาลปี๊บ  1 ทัพพี
  • สีผสมอาหารสีแดงเล็กน้อย
  • แป้งท้าวยายม่อม

ส่วนผสมน้ำซุป

  • น้ำซุปกระดูกหมู
  •  เกลือ
  • น้ำตาลกรวด
  • รากผักชี
  • พริกไทยเม็ด (ทุบพอแตก)
  • กระเทียม (ทุบพอแตก)
  • หอมใหญ่ 1-2 หัว
  • ซีอิ๊วขาว
  • หัวไชเท้า
  • ปลาหมึกแห้งย่างไฟ 2 ตัว

ส่วนผสมเครื่องก๋วยเตี๋ยว

  • เส้นก๋วยเตี๋ยว 1 ก้อน
  • ซอสเย็นตาโฟ
  • ลูกชิ้นปลา
  • เต้าหู้ทอด
  • ปลาหมึกกรอบ
  • ผักบุ้ง
  • เกี๊ยวทอดกรอบ
  • เลือดหมู
  • น้ำซุป
  • กระเทียมเจียว

วิธีทำซอสเย็นตาโฟ

  1. เริ่มทำซอสเย็นตาโฟ ผ่าพริกแดงแล้วเลาะเมล็ดออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในโถปั่น ตามด้วยกระเทียม กระเทียมดอง เต้าหู้ยี้ เต้าเจี้ยว น้ำกระเทียมดอง น้ำส้มสายชู และน้ำเปล่า ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดละเอียด
  2. เทส่วนผสมใส่ลงในหม้อ เคี่ยวจนสุก เติมเกลือป่น น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ และ สีผสมอาหารสีแดงเล็กน้อย เคี่ยวจนเริ่มเดือด
  3. ใส่แป้งท้าวผสมน้ำลงไป รีบ ๆ คนผสมให้เข้ากัน เคี่ยวต่อสักครู่ จะได้ซอสเย็นตาโฟ เตรียมไว้
    เคล็ดลับ : ควรปรุงให้ได้ 3 รส หวาน-เปรี้ยว-เค็ม สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้เป็นเดือน ๆ นึกอยากกินเย็นตาโฟก็เอามาปรุงได้เลย

วิธีทำน้ำซุป

  1. ต้มน้ำซุป ต้มน้ำซุปกระดูกหมู ใส่เกลือ น้ำตาลกรวด รากผักชี พริกไทยเม็ดทุบ กระเทียมทุบ หอมใหญ่ ซีอิ๊วขาว ไชเท้า และ ปลาหมึกแห้งย่างไฟ ต้มจนเดือด เตรียมไว้

วิธีทำบะหมี่เย็นตาโฟ

  1. นำเส้นก๋วยเตี๋ยวไปลวกให้สุก ตามด้วยลูกชิ้นปลา ปลาหมึกกรอบ ผักบุ้ง เลือดหมู ตักใส่ชาม จากนั้น ตักน้ำซุปร้อน ๆ ลงไปคนให้พริกเผาแตกตัว
  2. ใส่เลือดหมู เต้าหู้ทอด แล้วราดน้ำซุปใส่ชาม
  3. ตักซอสเย็นตาโฟไว้ด้านบน โรยหน้าด้วย กระเทียมเจียว เป็นอันเสร็จ
เป็นยังไงกันบ้างกับ 15 สูตร เมนูอาหารจีน ที่นำมาฝากกัน มีเมนูไหนเป็นเมนูโปรดยอดฮิตและชอบทานกันบ้าง หากใครอยากฝึกหัดทำเองบ้าง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องซื้อกินตลอดเวลาแล้วละก็ สามารถลองทำตามได้เลย รับรองว่า ไม่แพ้เชฟมืออาชีพแน่นอน แถมยังอาจเป้นลู่ทางในการสร้างอาชีพในอนาคตอีกด้วย